กลับมาอีกครั้ง Toyota Majesty รถตู้แรร์ไอเทม-ออปชั่นจัดเต็ม

สันติ จิรพรพนิต

หลังจากห่างหายจากการทำตลาดไปนานพอสมควร ในที่สุดโตโยต้าตัดสินใจนำรถตู้พรีเมียมมาเจสตี้ (Majesty) กลับสู่สังเวียนอีกครั้ง

มาเจสตี้ เป็นรถตู้หรูที่สร้างกระแสอย่างมาก เพราะความอเนกประสงค์ ประตูเปิดสไลด์ 2 ด้าน ที่สำคัญราคาถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย และออปชั่นที่จัดมาให้แบบแน่นๆ โดยช่วงที่ไม่ได้ทำตลาดมีความต้องการอย่างมาก ถึงขนาดบางครั้งราคาขายรถมือสองแพงกว่าตอนออกป้ายแดงด้วยซ้ำ

เมื่อรู้ถึงความต้องการของตลาด โตโยต้าจึงส่งมาเจสตี้กลับมาอีกครั้ง

พร้อมความพรีเมียมที่มากขึ้น

ทำให้ศึกตลาดรถครอบครัวขนาด 11 ที่นั่ง ที่ส่วนใหญ่อยู่ในกำมือของค่ายเกาหลี ถึงคราวสั่นสะเทือนขึ้นมา

มาเจสตี้ รุ่นปรับปรุงใหม่ MY2024 มีให้เลือก 2 เกรด Premium และ Grande ซึ่งเป็นรุ่นท็อป รูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากเดิมมากนัก กระโปรงหน้ายื่นยาวออกมามากกว่ารถตู้ที่คุ้นเคย

กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์หรูหรา เป็นแถบขวาง 3 เส้น ไฟหน้าแบบ LED เปิด-ปิด และปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน แบบ LED ทั้งหมดรวมกันอยู่ในโคมเดียว ภายใต้กรอบโครเมียม ต่ำสุดเป็นไฟตัดหมอก

เค้าโครงยังใกล้เคียงของเดิม มองหน้าตรงได้อารมณ์ทรานฟอร์เมอร์หน่อยๆ

กระจกมองข้างพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า ครอบด้วยโครเมียม

ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และมีสปอยเลอร์มาให้ด้วย

รอบคันยังตกแต่งด้วยสเกิร์ต

ขณะที่กันชนหน้าหลังแบบโครเมียม

ประตูบานสไลด์อัตโนมัติ 2 ด้าน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ และสามารถเปิด-ปิดได้จากคนขับ

ล้ออัลลอย 17 นิ้ว

ภายในถือว่าปรับเปลี่ยน และเพิ่มออปชั่นเข้ามามากพอสมควร

ที่แตกต่างและเพิ่มความหรูหรามากขึ้น คือเบาะแถวที่ 1 จากเดิมเป็น 3 ที่นั่ง

คนขับ 1 ที่ และผู้โดยสารอีก 2 คน

แต่รุ่นใหม่ปรับเหลือแค่ 2 ที่นั่ง เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า ขณะที่ตรงกลางเป็นที่เท้าแขนและวางของกระจุกกระจิก

พวงมาลัยตกแต่งด้วยลายไม้ปรับระดับ 4 ทิศทาง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID จอสี TFT 4.2 นิ้ว

ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto มีระบบนำทาง Navigator มาให้ด้วย

ภาพรวมดูหรูหรากว่ารุ่นเดิม แถมอัดลำโพงมาให้ถึง 12 ตำแหน่ง เรียกว่ากระหึ่มรอบคัน

ระบบควบคุมอุณหภูมิเจาะช่องแอร์ให้ทุกที่นั่ง พร้อมกับระบบกรองอากาศ nanoe

ที่วางแก้วน้ำและช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ พร้อมช่องต่ออุปกรณ์เสริม USB-C 6 ตำแหน่ง และ USB-A 1 ตำแหน่ง

มีม่านบังแดดและไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ไฟส่องสว่าง Illumination ภายในห้องโดยสาร และบริเวณบันไดข้าง เพิ่มความปลอดภัยในยามค่ำคืน จุดเด่นที่สุดไม่พ้นเบาะนั่งแถว 2-3 เป็นแบบ Captain Seats มีที่รองน่องแบบพับเก็บได้

โดยแถวที่ 2 แบ่งเป็น 3 ที่นั่ง โดยที่นั่งตรงกลางสามารถพับเพื่อเป็นที่วางแก้วน้ำ

ซึ่งต่างจากรุ่นเดิมที่เบาะแถว 2 มีแค่ 2 ที่นั่ง

ส่วนเบาะแถวที่ 3 ถือว่าสบายที่สุด เพราะแบ่งแค่ 2 ที่นั่ง ตรงกลางเป็นช่องว่างให้เดินทะลุไปแถวสุดท้ายได้

เบาะทั้ง 2 แถวดังกล่าวสามารถปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง และปรับพนักเอนนอนได้เกือบราบ

ขณะที่เบาะแถวสุดท้ายแบบ Bench Seat 4 ที่นั่ง มีหัวหมอนทุกที่นั่ง

แต่ในการใช้งานจริงอาจไม่สะดวก กรณีนั่งเต็มความจุ

อย่างไรก็ตาม หากไม่ต้องการใช้เบาะแถวสุดท้าย สามารถพับแล้วแขวนไว้ด้านข้างเพิ่มพื้นที่บรรทุก

ทั้งยังทำให้เบาะแถว 2-3 สามารถปรับให้นั่งสบายมากขึ้นด้วย

กระจกรอบคันมีขนาดใหญ่ ทำให้ทุกที่นั่งมองเห็นวิวด้านนอก ไม่อึดอัดเวลาเดินทางไกล

ขุมพลังยังใช้เครื่องยนต์ GD 2.8 DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,755 ซีซี

กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

เครื่องยนต์รับรองมาตรฐานยูโร 5 ใช้น้ำมันเกรดสูงสุด ดีเซล B20

ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์คอยล์สปริง

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,970 x 5,300 x 1,990 ม.ม. ความยาวช่วงล้อ 3,210 ม.ม.

รัศมีวงเลี้ยว 5.5 เมตร

ระบบความปลอดภัยในรุ่นท็อป มี TOYOTA SAFETY SENSE มาให้

ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ฯลฯ

ส่วนออปชั่นอื่นๆ มาเป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบเบรก ABS และ EBD

ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

กล้องมองหลัง, กล้องมองรอบคัน, ระบบแจ้งเตือนลมยาง ฯลฯ

มี 2 สีให้เลือก ขาวมุก (White Pearl) จับคู่กับภายในสีดำ และดำ (Black Mica) ภายในสีดำ และสีเบจ

เท่าที่เห็นภายในสีดำดูภูมิฐาน แต่ถ้าเป็นสีเบจได้ความหรูหรา แต่สกปรกง่ายกว่า

Toyota Majesty มี 2 รุ่นย่อย

Premium ราคา 1,989,000 บาท

Grande ราคา 2,329,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต