33 ปี ชีวิตสีกากี (73) | บทเรียน ‘ปืนลั่น’

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์

ก่อนเดินทางกลับไปทำงาน คืนนั้น พวกผมบางส่วนได้มาพักที่โรงแรมโฆษิต ในอัตราราคาพิเศษ คืนละ 240 บาท ผมได้พักที่ห้อง 612

ตอนเช้าวันอังคารที่ 25 พฤษภาคม 2525 เป็นวันเสียงปืนดัง หลังจากอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวเรียบร้อย กินอาหารเช้าแล้ว ก็อ่านหนังสือ ฟังข่าว

ผมได้ลงมาพูดคุยกับเพื่อนๆ คือ ร.ต.ต.ปณิธาน สันติเพ็ชร กับ ร.ต.ต.สราวุธ เอี่ยมสำราญ แล้วจึงย้อนกลับไปที่ห้องพัก เพื่อเอาอาวุธปืนพกส่วนตัวของผม

ในเวลานั้นผมได้เทกระสุนปืนที่บรรจุอยู่ในลูกโม่ และเข้าใจว่า ได้นำกระสุนปืนออกจากลูกโม่หมดแล้ว จากนั้นจึงลองจับอาวุธปืนแล้วส่องไปทางหน้าต่างซึ่งเป็นกระจก ปกติผมจะซักซ้อมการเหนี่ยวไกปืนเป็นปกติ หรือเรียกว่า dry fire เพื่อให้คุ้นเคยกับปืนและเป็นการฝึกความนิ่งในขณะเหนี่ยวไกปืน

ผมได้ปฏิบัติตามกฎนิรภัยของการใช้อาวุธปืนอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว เมื่อผมเหนี่ยวไกปืนครั้งแรก ก็ปกติ

แต่พอเหนี่ยวไกครั้งที่ 2 ปืนก็ลั่นขึ้นมาทันที ผมตกใจมาก เพราะไม่คิดว่ายังมีกระสุนค้างอยู่ในลูกโม่

ดังนั้น เมื่อสิ้นเสียงปืน ผมจึงสำรวจอาวุธปืนพกของผมอีกครั้ง โดยการปลดลูกโม่ออกมา และตรวจดูแล้ว ไม่มีกระสุนค้างอยู่อีก

เมื่อหันไปดูแนวกระสุนปืนที่ลั่นออกไปจึงพบว่า ที่กระจกหน้าต่างถูกเจาะเป็นรู ผมจึงไปบอกผู้จัดการโรงแรม และมีการเรียกช่างมาประเมินค่าเสียหาย คิดเป็นเงิน 1,400 บาท

แต่ผมมีเงินไม่พอ ผมมีเพื่อนที่ดีมาก ร.ต.ต.อนุชน ชามาตย์ ชวนผมไปโรงรับจำนำ เอากล้องถ่ายรูปของอนุชนไปถามราคาได้ 300 บาท และนาฬิกาควอทซ์ 200 บาท ซึ่งก็ยังไม่พอ จึงยกเลิกไม่จำนำ

ร.ต.ต.ปณิธานให้ผมยืมเงิน 1,000 บาท และ ร.ต.ต.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย ให้ผมยืม 600 บาท รวมของผมอีก 500 บาท จึงพอจ่ายค่าเสียหาย และค่าห้องพัก 1 คืน

นั่นเป็นความเสียหายที่ผมต้องจ่ายให้กับความไม่ละเอียดรอบคอบ ประมาทเกินไป การพลั้งเผลอ และเป็นความโชคดีที่มีเพื่อนดีคอยช่วยเหลือในยามวิกฤต

ขอบคุณ ร.ต.ต.อนุชน ชามาตย์ ร.ต.ต.ปณิธาน สันติเพ็ชร และ ร.ต.ต.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย

เป็นประสบการณ์ในการใช้อาวุธปืนของผม ที่จะต้องมีสติ และรอบคอบอยู่ตลอดเวลา

เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจผมในการใช้อาวุธปืนมาตลอดชีวิต จนทำให้ผมไม่เคยผิดพลาดในการใช้อาวุธปืนอีกเลย ผมระมัดระวังทั้งการพกพา การเก็บรักษา ป้องกันการแย่งชิง จะต้องปลอดภัยในทุกกรณี

สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญมากที่สุดต้องมีการทบทวน หรือ double check

 

พวกผมจาก สภ.อ.เมืองระนอง จำนวน 4 คน กับเพื่อนๆ จาก สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี 4 คน มี ร.ต.ต.วินัย กลั่นหวาน ร.ต.ต.พูนสุข ศรีจันทร์ ร.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ร.ต.ต.มานพ โฆษิตอนันต์ จึงรีบซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อเดินทางกลับจากหาดใหญ่มายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วยกัน

มาถึงเวลา 20.50 น. แล้วไปยังบ้านพักของเพื่อนๆ ที่ประจำ สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วพากันไปฟังเพลงที่โรงแรมสยามธานี

พวกผมได้พบอดีต สวป.สภ.อ.พุนพิน และต่อมาย้ายมาอยู่ที่ บก.ภ.10 เวลานั้นผมเริ่มรู้สึกตัวไม่สบายจะเป็นไข้ มีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว แล้วทุกคนก็พากันไปร้านข้าวต้ม สวย สวย อาการของผมมากขึ้นจนผมนั่งทนต่อไปไม่ไหว เริ่มจับไข้หนาวจนสั่น สายตรวจจึงได้นำผมมาส่งที่ห้องพัก

คืนนั้นผมนอนเป็นไข้ทั้งคืน

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2525 ตื่นเช้ามา 9 โมงเช้า ผมยังมีอาการมึนศีรษะมาก จึงอาบน้ำให้สดชื่น แล้วเดินทางไป สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี สถานที่กว้างขวางสะดวกสบายกว่า สภ.อ.เมืองระนอง ตลาดเมืองสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่ใหญ่โตมาก

โรงแรมสยามธานีเวลานั้นเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และมีท่าทีจะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของจังหวัดภาคใต้ ถ้าหากก่อนหน้านี้ไม่เกิดเหตุการณ์ระเบิดศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศในเวลานั้น จนทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก เพราะตกอยู่ในความหวาดกลัว และหวาดผวา

แล้วพวกผมได้พบ พ.ต.ท.วีระ ปานจันทร์ สวญ.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะย้ายไปเป็นผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของพวกผม คือ จะย้ายไปเป็น สวญ.สภ.อ.เมืองระนอง สลับกับ พ.ต.ท.ทรง เรืองศรี ที่จะมาเป็น สวญ.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี แทน

 

ผมได้รับฟังการพูดคุยของ พ.ต.ท.วีระ ปานจันทร์ ในการทำงานผมรู้สึกประทับใจ ที่มีความคิดที่ดี มีความกล้า ตรงไปตรงมา และอยากทำงานด้วย

พ.ต.ท.วีระ และภริยา ได้นำพวกผมไปรับประทานอาหารที่โรงแรมสยามธานี และได้พบกับประธานสภาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่อำเภอเวียงสระ พื้นที่ที่เป็นแหล่งปลูกเงาะของจังหวัด

ได้เวลาผมจึงขออนุญาตร่ำลา พ.ต.ท.วีระ และภริยา ซึ่งวันที่ 29 พฤษภาคม 2525 จะไปรับตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.เมืองระนอง

ร.ต.ต.วินัย กลั่นหวาน ได้พาผมมาส่งที่ท่ารถแท็กซี่ และผมได้เดินทางกลับระนองพร้อมกับ ร.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ ระหว่างทางผมหลับมาเกือบตลอดทาง เพราะความเพลียจากการเป็นไข้ มาถึงระนองในเวลา 5 โมงเย็น และในค่ำคืนนั้น ร.ต.อ.ชม ของน้องๆ ได้พาพวกผมไปห้องอาหาร For You ใต้โรงภาพยนตร์พฤตินันท์ จนดึกดื่น แล้วไปต่อที่บาร์เพลินใจ

ตั้งแต่จบมา ผมเริ่มรู้จักดื่มบรั่นดี เมื่อจบมาเป็นนายตำรวจแล้ว แล้วก็ดื่มสุรานอกด้วยในสมัยนั้นนิยมดื่ม Remy Martin หรือไม่ก็ Hennessy ลำพังตัวผมเองไม่มีปัญญาซื้อหรอกครับ ร.ต.อ.ชม ของน้องๆ ได้รับการเอื้อเฟื้อจากเพื่อนๆ

ส่วนวิสกี้ที่ระนอง คนยังไม่นิยมดื่มมากนัก มีวิสกี้ยี่ห้อ Johnnie Walker Black Label กับ Red Label

ผมฝึกดื่มจนรู้จักรสชาติของแอลกอฮอล์ แต่ผมเป็นคนดื่มได้ไม่มาก และเมื่อดื่มเข้าไปแล้ว ต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้ได้ ผมไม่เคยดื่มจนครองสติไม่ได้

ดื่มไปไม่นานนัก ก็เลิกดื่มไปเลย และไม่คิดจะดื่มต่อ แม้จะมีใครชักชวน ทั้งนี้ จะมีบ้างก็เป็นบางโอกาสเท่านั้น

 

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2525

ที่ภัตตาคารชายทะเล สะพานปลาระนอง ตรวจคนเข้าเมืองระนอง เป็นเจ้าภาพเลี้ยงส่ง พ.ต.ท.ทรง เรืองศรี สวญ. ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ณ นคร รอง สวส.สภ.อ.เมืองระนอง ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็น สวส.สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.สมบัติ สังขะวร สารวัตรแผนก 1 กองกำกับการ 5 ตำรวจน้ำ จังหวัดระนอง ย้ายไปดำรงตำแหน่งสารวัตรตำรวจน้ำ ที่จังหวัดนครพนม

ในวันนั้น ร.ต.ต.อนุชน ชามาตย์ เข้าร้อยเวรสอบสวนเป็นครั้งแรก ร่วมกับ ร.ต.อ.ชม หนูแป้นน้อย กลางคืนได้รับแจ้งเหตุ มีคนพม่าถูกยิงตายที่หน้าสมาคมประมง ผมจึงได้ร่วมไปดูที่เกิดเหตุด้วย พร้อมกับ ร.ต.ต.ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม

วันรุ่งขึ้น ร.ต.ต.อนุชน, ร.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ และ ร.ต.ต.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย ได้เดินทางไป โรงพยาบาลระนองเพื่อดูศพจากเหตุถูกยิงเมื่อคืนอีกครั้ง เวลาต่อมารับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ยิงชาวพม่าเสียชีวิตได้แล้ว ที่ ต.ราชกรูด

ผมได้ร่วมกับ พ.ต.ท.ปรีดา สัมภวะมานะ รอง ผกก.ภ.จว.ระนอง และ ร.ต.ต.นริศ สุนทรโรจน์ เดินทางไปดู ขากลับได้แวะบ้านท่าฉาง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ สภ.ต.หงาว

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2525 ผมได้เข้าร้อยเวรสอบสวนคดีอาญา เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยเข้าเวรคู่กับ ร.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ มี ร.ต.อ.โพธิ์ รุ่งเรือง เป็นร้อยเวรสอบสวนด้วยเช่นกัน และทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง

วันนั้น เป็นวันที่ สวญ.คนใหม่ พ.ต.ท.วีระ ปานจันทร์ พร้อมคุณนาย ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์เก๋ง สีฟ้า มารับตำแหน่ง โดยมีคณะจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพรรคพวกมาส่งถึง 200 คน มีงานเลี้ยงรับรองคณะที่หอประชุม โรงเรียนสตรีระนอง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพัก

วันแรกที่ ร.ต.ต.นพดลเข้าเวร มีอาการปวดท้องอย่างหนัก จนต้องไปโรงพยาบาล ตอนกลางคืนกว่าจะได้นอน ก็ผ่านไปเป็นเวลาตีสองกว่า เมื่อกลับจากการรับแจ้งว่ามีรถยนต์ตกลงไปในคูน้ำ ผมได้ออกไปช่วยเหลือเอารถขึ้นจากคูน้ำจนสำเร็จ

ปรากฏว่า การเข้าเวรของผมครั้งแรก ไม่มีคดีเกิดขึ้น