การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Next World เล่ม 2

มังงะ Lost World, Metropolis และ Next World (หรือ Future World) เป็นหนังสือการ์ตูน 3 เล่มที่ โอซามุ เท็ตซึกะ (Osamu Tezuka 1928-1989) เขียนขึ้นระหว่างทศวรรษที่ 1940-1950

ต่อจากฉบับที่แล้ว

สงครามโลกเกิดขึ้นแล้ว เพียงเพราะสหพันธรัฐอูรานหลังม่านเหล็กจุดระเบิดปรมาณูขึ้นที่ขั้วโลกก่อน ประเทศสตาร์ก็เคลื่อนพล

นักสืบหนวดมัสตะชิโอหลบหนีออกจากโรงงานนรกใต้ดินได้ เขาเดินฝ่าพายุหิมะมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง บาทหลวงกำลังเทศน์เรื่องวันโลกแตก เหมือนครั้งพระผู้เป็นเจ้าปล่อยน้ำท่วมโลกและโนอาห์สร้างเรือบรรทุกสัตว์และพืชเพื่อหนีน้ำสู่โลกใหม่

ที่โตเกียว ดร.แฟรงเกนสไตน์เชิญ ดร.ยามาดะโนะ ผู้ซึ่งเที่ยวป่าวประกาศว่าจะมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาใหม่ขึ้นมาแทนที่มนุษย์ให้ไปดูกลุ่มเมฆสีดำที่อวกาศอันไกลโพ้นซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกขณะ

เมฆสีดำมิได้มีขนาดใหญ่ขึ้น ที่แท้มันเคลื่อนตัวตรงมายังโลก และจะปกคลุมโลกหมดสิ้น เมื่อแสงอาทิตย์ดับ ทุกชีวิตก็ดับ

ร็อกและโคโค่ ลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่จิตใจเปลี่ยนไปหลังจากถูกทรมานด้วยการคุมขัง และลูกสาวมิสเตอร์โนทาลิน ประธานสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์ที่ต่อต้านพลังงานปรมาณู สองคนยังคงถูกกักบริเวณที่โรงงานนรก

อิวาน บุตรชายของนิโคไล เร้ดโรนอฟ สายลับจากอูรานที่แฝงกายในประเทศสตาร์ และโพโพเนีย ลูกสาวของรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์อูรานผู้ซึ่งรับผิดชอบบริหารโรงงานนรก สองคนยังไม่สามารถทิ้งฐานที่มั่นโรงงานนรกไปได้

เคนอิจิ หลานชายนักสืบหนวดมัสตะชิโอและโรโคโค สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาใหม่ที่เกิดจากการทดลองระเบิดปรมาณู มีชื่อเรียกว่าฟุมูน สองคนเดินทางมาถึงอูรานเพื่อตามหาลุงและหยุดสงคราม

โรโคโคมิได้มาคนเดียว เธอพาพรรคพวกเผ่าพันธุ์ฟุมูนมาด้วย เมื่อเผ่าพันธุ์ฟุมูนแสดงให้กองทัพอูรานและประเทศสตาร์เห็นความล้ำหน้าของพลังที่มี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถต้านแรงดึงดูดหรือพลังงานที่ไม่จำกัด บัดนี้มนุษย์เผชิญภาวะสุดสิ้นกลิ่นน้ำนม มัวแต่รบกันด้วยพลังงานปรมาณูขี้ปะติ๋วโดยหารู้ไม่ว่าตัวเองเป็นแค่ผงธุลี

พวกฟุมูนเห็นเมฆสีดำกำลังเคลื่อนมาปกคลุมโลกเช่นกัน พวกเขาเตรียมยานโนอาห์อาร์กเพื่ออพยพมนุษย์ที่ผ่านการคัดสรร 200 คนและสัตว์ชนิดต่างๆ แต่เนื่องจากที่บนยานอพยพมีจำกัด พวกเขาจึงต้องตัดแต่งสัตว์ต่างๆ บ้าง เช่น ย่อยีราฟให้คอและขาหดสั้น ทำให้ช้างตัวเพรียวลม ตัดเขากวางและวัวควายที่เกะกะออก เปลี่ยนปีกของนกให้เป็นมือเพราะจะไม่ได้บินขณะอยู่บนยานอีกแล้ว

แล้วมนุษย์เล่า พวกฟุมูนวางแผนจะทำอย่างไร

ความไม่แน่นอนของสถานการณ์และความเหนือกว่าของฟุมูนทำให้แม้แต่เคนอิจิก็เริ่มแคลงใจโรโคโค ในขณะเดียวกัน แลมป์ ชายจรจัดที่เคยหลอกลวงร็อกตั้งแต่แรกและจะเป็นวายร้ายเจ้าประจำของโอซามุเช่นเดียวกับเร้ดก็วางแผนขู่กรรโชกเงินล้านจากพ่อของร็อก เพื่อสร้างยานอพยพของตัวเองรวมทั้งคิดทำลายเผ่าพันธุ์ฟุมูนอีกด้วย

เมื่อหนังสือขมวดปมนับสิบเข้าด้วยกันจนไร้ทางออก เมฆสีดำก็เดินทางมาถึงโลก!

โอซามุได้เขียนบทความขนาดยาวไว้เป็นบทส่งท้ายเพื่ออธิบายที่มาที่ไปของการ์ตูนไตรภาคชุดนี้ Lost World, Metropolis และ Next World

แรงบันดาลใจของเขาคือสงครามเย็นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อมหาอำนาจสะสมระเบิดปรมาณูและทำการทดลองบนเกาะลับ อีกทั้งต่างฝ่ายต่างส่งสปายเข้าสู่ดินแดนฝ่ายตรงข้าม อูรานส่งเร้ดโรนอฟ สตาร์ส่งร็อก โอซามุเรียกสหพันธรัฐอูรานว่าหลังม่านเหล็ก และออกแบบเครื่องแต่งกายแบบรัสเซียให้ด้วย

การทดลองระเบิดไฮโดรเจนของสหรัฐที่หมู่เกาะบิกินี่ทำลูกเรือญี่ปุ่นตายและพิการไปจำนวนหนึ่ง และเป็นต้นเรื่องของกำเนิดก๊อดซิลล่า แต่โอซามุนำมาเป็นชนวนสงครามโลกครั้งที่สามและการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาชนิดใหม่คือ ฟุมูน

อูรานมีโรงงานนรกใช้แรงงานนักโทษที่เขตทุนดรา และมีห้องคุมขังพิเศษเหมือนเคจีบีที่สามารถล้างสมองร็อกได้ในที่สุด ขณะเดียวกันสตาร์ก็เป็นประเทศเสรีนิยมที่ผลิตเด็กสาวรักสนุกไม่ได้เรื่องอย่างโคโค่ที่ทำอะไรไม่เป็นเอาเลย จะว่าไปก็รวมทั้งร็อกด้วย

โอซามุยอมรับว่าเนื้อเรื่องของเขาอาจจะชวนให้คิดถึงหนังสือของ HG Wells เรื่อง The Shape of Things to Come เมื่อปี 1933 และสร้างเป็นหนังเรื่อง Things to Come เมื่อปี 1936 เล่าเรื่องมนุษย์ทำสงครามต่อเนื่องกันหลายสิบปีจนกระทั่งโลกเข้าสู่ยุคมืด แม้กระนั้นสงครามก็ไม่สิ้นสุด

เขายอมรับด้วยว่าเขาอ่าน The Lost World หนังสือปี 1912 ของเซอร์อาเธอร์ โคแนน ดอยล์ และสร้างเป็นหนังเมื่อปี 1960 หลังจากหนังสือชุดนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ไม่มีอะไรที่เหมือนกันยกเว้นเรื่องไดโนเสาร์ซึ่งเป็นส่วนน้อยนิดในหนังสือของโอซามุ

ยังมีหนังคลาสสิคตลอดกาล Metropolis ของ Fritz Lang ปี 1927 ที่มีตัวเอกเป็นหุ่นยนต์สตรีเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โอซามุเขียนการ์ตูน Metropolis ทั้งเรื่องด้วยแนวคิดส่วนตัว และนำไปสู่การก่อกำเนิดของเจ้าหนูปรมาณู (Astro Boy) ในปี 1952 ซึ่งมีโครงเรื่องโดดเด่นและแตกต่าง

ทั้งนี้ ยังไม่นับว่าเป็นนวนิยายเรื่องหุ่นยนต์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก

โครงเรื่องของ Lost World เล่าเรื่องความเหนือกว่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีต่อสัตว์และพืช มนุษย์อหังการมากพอที่จะทำการทดลองในสัตว์และพืชตามใจชอบ โดยเชื่ออย่างฝังใจว่ามนุษย์และสมองมนุษย์เป็นเลิศเหนือทุกสิ่ง ก่อนที่จะพบว่ายังมีโลกแฝดที่มีแหล่งพลังงานไม่จำกัด

โครงเรื่องของ Metropolis เล่าเรื่องบ้านเมืองมนุษย์ที่เจริญสูงสุด แต่กลับใช้แรงงานทาสหุ่นยนต์อย่างโหดร้าย อีกทั้งพยายามสร้างซูเปอร์หุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์และมีพลังงานเหนือมนุษย์

โครงเรื่อง Next World กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าเพื่อน เล่าเรื่องสงครามเย็น สงครามร้อน โลกเสรีและหลังม่านเหล็ก โดยมีผู้มาเยือนใหม่และเมฆสีดำจากอวกาศที่ทำให้มนุษย์หมดความหมายไปเลย

หาก Lost World เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่รู้จักพอ Next World คือจุดจบ