เป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จะทำในแต่ละปี สำหรับปีที่ผ่านมาคุณทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้างคะ

เชื่อว่าหนึ่งในหลายๆ ข้อที่คุณตั้งไว้ ต้องมีเรื่อง จะออกกำลังกายให้มากขึ้น

จะลดน้ำหนักให้ได้

หรือแม้แต่จะเลิกฟุ่มเฟือยและเก็บเงินเพื่อไปท่องเที่ยวให้มากขึ้น

บางคนทำงานๆๆๆๆ ไม่ได้หยุดหย่อน เงยหน้าขึ้นมาก็สิ้นปีแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ชอบเลย โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า “ก็มันเป็นภาระ หน้าที่ ความรับผิดชอบ”

แต่อย่าได้ถามว่าชอบไหม “มันก็ทำได้”

ไม่ได้จะบอกว่าให้คุณเลิกทำงาน เพียงแต่กำลังจะให้คุณตอบคำถามกับตัวเองว่า สิ่งที่ทำอยู่มันตอบโจทย์ชีวิตคุณหรือเปล่า

มันใช่อย่างที่คุณคิดไว้หรือต้องการหรือเปล่า

บางคนต้องทำงานจนดึกดื่นมืดค่ำ พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงไม่ต้องเจอหน้า เอางานไปทำที่บ้านอีก ไม่ได้ออกกำลังกาย กินอะไรก็ได้ให้มันยัดๆ เข้าไป เครียด จบลงที่เข้าโรงพยาบาล โดยเอาเงินที่หามาทั้งหมด เวลาที่ทุ่มเทไปทั้งหมด ไปจบที่โรงพยาบาล

นี่คือชีวิตที่ฝันไว้หรือเปล่าล่ะ

บางคนต้องทำเพราะวางกับดักให้ตัวเอง ต้องมีชื่อเสียง ต้องมีหน้าตา ต้องมีตำแหน่งใหญ่โต ต้องทำงานในบริษัทดัง ต้องหาเงินให้ได้เท่านี้ๆ ต้องเอาเงินคนรอบตัวเท่านั้นๆ แล้วเราก็ติดกับมัน เป็นทาสมัน

แค่ลองกลับมาตอบตัวเองว่า นี่มันคือใช่อย่างที่เราต้องการใช่ไหม

ถ้าคุณบอกว่าใช่ คุณชอบ มันตอบโจทย์ชีวิตคุณ คุณก็ทำไป

แต่ถ้าวันใดมันมีอะไรบางอย่างในชีวิตที่เกิดไม่เข้ารูปเข้ารอย หรือประท้วงขึ้นมา นั่นหมายความว่า มันมีบางอย่างในชีวิตที่เราต้องเปลี่ยนแปลง

แล้วถ้าคุณได้ทำงานที่คุณรักมัน สนุกกับมัน มีรายได้ที่คุณพอใจ แถมคุณจัดการเวลาได้ มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาดูแลตัวเอง มีเวลาพักผ่อนอยู่กับตัวเองและคนที่คุณอยากจะอยู่ด้วย ได้หัวเราะมากขึ้น ได้ทำอะไรที่คุณอยากทำ และคุณก็ชอบตัวเองมากขึ้น

ให้งานที่ทำเข้ากับจังหวะชีวิตเรา ไม่ใช่ให้งานควบคุมเวลาในชีวิตเราทั้งหมด

แจ๊ก หม่า เจ้าของเว็บไซต์อาลีบาบา ได้กล่าวไว้ว่า

“ถ้ามีลิงอยู่ตัวหนึ่ง แล้วเราเอากล้วยกับเงินวางไว้ คิดว่าลิงจะเลือกอะไร ลิงก็ต้องเลือกกล้วยเพราะมันไม่รู้ว่าเงินเอาไปซื้อกล้วยได้ตั้งมากมาย แต่ถ้าเป็นคน เราเอาเงินกับสุขภาพดีวางไว้ คนจะเลือกอะไร คนก็จะเลือกเงิน เพราะคิดว่ามันเอาไปจับจ่ายใช้สอยได้ซื้ออะไรก็ได้ แต่คนไม่รู้ว่า ถ้าเรามีสุขภาพดี เราจะสามารถหาเงินได้มากมายว่าที่วางไว้ และที่สำคัญเราจะมีความสุขด้วย”

แหม…หม่านี่ช่างคิดเหมือนแมร์จริงๆ!!

กว่าจะพูดแบบนี้ได้แมร์ก็ต้องพังมาก่อนละค่ะ

อย่างที่คุณๆ รู้ว่ากว่าฉันจะมาดูแลสุขภาพกายและใจ ฉันก็เละเทะมาก่อน แต่พอเราเจอสัญญาณมาเตือน เช่น ต้องหาหมอบ่อย ป่วยบ่อย ตรวจสุขภาพมาน้ำตาลสูง ไขมันสูง เหนื่อยง่าย เฉื่อยๆ อ่อนเพลีย เครียด ฉันเลยต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนอะไรบางอย่างกับตัวเองแล้ว

ฉันตัดสินใจที่จะดูแลสุขภาพตัวเอง กินดี จัดเวลาออกกำลังกาย ไม่นอนดึกมาก ลดการทำงานให้น้อยลง เลือกทำงานที่เราอยากทำ ที่เราชอบจริงๆ

ฉันตั้งใจที่จะเดินทางทุกเดือน เปิดโลก เอาพลังความอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กๆ กลับมาในจิตวิญญาณ เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ไปเจอความแตกต่าง ไปรับพลังธรรมชาติ และหาเวลาเดินทางเข้าไปในตัวเอง

ฉันทำงานน้อยลง แต่ฉันมีเงินมากขึ้น (พอเราเงยหน้าจากสิ่งที่เราเคยไถๆๆ เราก็จะมองเห็นโอกาสอื่นในชีวิตที่อยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด)

ฉันมีสุขภาพดีมากขึ้น

ฉันได้ทำสิ่งที่ฉันอยากทำ

ฉันมีเวลาให้กับคนรอบตัว

ฉันได้อยู่บ้านที่ฉันชอบ แถมได้ทำงานในบ้านอย่างที่ต้องการ

และแน่นอนว่า ฉันชอบชีวิตตัวเองทุกวัน

เราแค่ตอบตัวเองให้ได้ว่า ชีวิตที่เราต้องการคือแบบไหนกันแน่

เมื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่ได้แล้ว ทุกอย่างมันจะเข้ารูปเข้ารอยของมันเอง คุณจะพบงานที่เข้ากับจังหวะชีวิตคุณ

คุณอาจไม่ต้องเป็นลูกจ้างตลอดชีวิตแล้วพออายุ 60 คุณจะเคว้งคว้างว่าแล้วเราจะทำอะไรต่อไป เราจะไม่ซึมเศร้า เหงาหงอย หรือรู้สึกไร้ค่า เพราะเรารู้ว่า เราอยากทำอะไร งานเราจะมีประโยชน์กับใครบ้าง

คุณจะหาวิธีได้ว่าเราจะบริหารเวลาอย่างไร ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการ ทุกวันนี้เทคโนโลยีช่วยเราได้มาก

นี่ไง Thailand 4.0 คุณจะค้าขาย ประชุม ติดต่องาน โปรโมตผ่านสื่อออนไลน์มากมาย มันทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นมาก แค่เปิดใจยอมรับสิ่งแปลกใหม่ เรียนรู้มัน ซึ่งมันจะทำให้คุณได้กลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง สนุกกับมัน ลองผิดลองถูก เล่นไปกับมัน

เวลาเราเล่นเราสนุกทุกครั้งจำได้ไหม

ในโค้งสุดท้ายของปี ใครจะคิด ตัวฉันยังไม่คิดเลย ว่าฉันจะมีขนม #PowerBallsbyKalamare ลูกกลมๆ เล็กๆ แต่เปี่ยมด้วยประโยชน์ออกมา

มันเกิดจากที่ฉันชอบกินขนม choc Ball มาตั้งแต่เด็ก ที่มันลูกกลมๆ 5 บาท มีเม็ดสีๆ โรยข้างบน

พอฉันมาดูแลสุขภาพ ฉันก็ต้องหาขนมที่กินแล้วไม่พังแต่ยังอร่อยกินอยู่ ฉันก็ตระเวนกินไปทุกที่ทั่วโลกที่มันขาย จนลงมือทำเองในที่สุด

ปีใหม่นี้…จงทำในสิ่งที่ชอบ และใช้ชีวิตในแบบที่ใช่ค่ะ