ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 มกราคม 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว/ศ. ดุสิต
อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!
เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด “คลังโหร”
แรงเอื้อมของดาว (ต่อ)
ในตอนที่แล้วผมว่ามาถึงคุณสมบัติของดาวพุธ ตอนนี้ก็เชิญติดตามคุณสมบัติของดาวที่เหลือกันต่อไป
๕. พฤหัสฯ
– ด้านเด่น ใฝ่รู้, มีคุณธรรมจริยธรรม, รักความถูกต้อง, เมตตากรุณา, เห็นใจผู้ที่ด้อยกว่าเสมอ, สติปัญญาดี ฯลฯ
– ด้านด้อย มักด้อยด้านจริยธรรม, ชอบพลิกแพลงกฎระเบียบ, ใช้สติปัญญาในทางที่ไม่ถูกต้องนัก, มักจะถือประโยชน์ส่วนตนเป็นสำคัญ ฯลฯ
๖. ศุกร์
– ด้านเด่น รักสวยรักงาม, รักศิลปและธรรมชาติ, สนุกสนานเฮฮา, ทำอะไรมักมีความสวยงามอยู่ในตัว, ชอบหรูหราฟุ้งเฟ้อ, มีรสนิยมสูง, รักจริง
– ด้านด้อย ขาดการควบคุมตัวเอง (มักปล่อยตัวตามอารมณ์), ชีวิตมักพบกับความอาภัพหรือผิดหวัง, ไม่ค่อยรักสวยรักงามนัก (บางครั้งทำตัวสกปรกด้วยซ้ำ), ขาดความรอบคอบในชีวิต, มีรักมากกว่าหนึ่ง, ชอบใช้ชีวิตตามโลกียวิสัย ฯลฯ
๗. เสาร์
– ด้านเด่น สุขุมรอบคอบ, รักสันโดษ, มีความสงบเย็น, มัธยัสถ์ (ไม่สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย), ยั่งยืน, อดทนสูง ฯลฯ
– ด้านด้อย ตระหนี่ถี่เหนียว, วิตกจริตเก่ง. เชื่อตัวเองสูง (ดื้อ), ชอบหาทุกข์ใส่ตัว, ปล่อยตัวตามกิเลส, ความรู้สึกรุนแรง ฯลฯ
๘. ราหู
– ด้านเด่น ใจกว้าง, สมาคมเก่ง, ตรงต่อเวลา, คบคนง่าย, ชอบความจริงจัง (ทำอะไรทำจริง), มีไหวพริบในการปรับตัวได้ดี ฯลฯ
– ด้านด้อย ชอบทำสิ่งเหลวไหล, หลงอบายมุขง่าย, ใจอ่อนเกินไป, ลุ่มหลงสิ่งใดง่าย, เปลี่ยนใจเก่ง, ไม่ตรงต่อเวลา, ปากกับใจไม่ค่อยตรงกัน, รักเร็วเกลียดเร็ว, มีไหวพริบในการเอาตัวรอดได้ทุกรูปแบบ ฯลฯ
ก็ว่ามาทั้งหมด 8 ดาว (รวมราหูด้วย) โดยไม่มีพระเกตุและดาวมฤตยู เพราะทั้งคู่นี้ไม่มีเรือนอาศัยและไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของภพใดๆ เลย อีกประการหนึ่งสมัยโบราณนั้นก็ยังไม่มีพระเกตุกับมฤตยูแต่อย่างใด (สมัยต้นรัชกาลที่สี่)
มีแต่ราหูที่ก็เพิ่งคิดคำนวณขึ้นมาในยุคนั้น จึงถูกนำมาร่วมด้วยเพื่อให้ลงตัวกับการจับคู่ดาว
ทำไมต้องมีการจับคู่ดาว
จับคู่กันทำไม
จับกันอย่างไร?
ที่ต้องจับคู่กันก็เพราะสูตรนี้มีกฎอยู่ว่า ดาวที่ระบุไว้ในสูตรนี้นั้นจะใช้เฉพาะการ “เล็งลัคนา” เท่านั้น ถ้าดาวต่อดาวเล็งกันจะใช้สูตรนี้ไม่ได้ เพราะดาวต่อดาวเล็งกันในราศีปกตินั้นจะส่งกำลังหรือแรงของตัวเองออกไปทั้งหมด ไม่ใช่ส่งแต่ด้านด้อยเหมือนกับเล็งลัคนา
แม้แต่การเล็งลัคนาก็ยังมีกรณีพิเศษที่สามารถ “คุ้ม” ลัคนาได้อีก
และจุดหนึ่งที่สามารถคุ้มลัคนาได้ก็คือ ถ้าลัคนามีดาวคู่เล็งของดาวนั้นสถิตร่วมอยู่ด้วย ก็จะสามารถสกัดด้านด้อยของดาวนั้นให้ลดปริมาณลงได้ ทำให้เกิดผลดีแก่ลัคนาหรือแก่ชาตาของดวงนั้นได้ทันทีเลย
ดาวคู่เล็งคือใคร?
เรื่องนี้ไม่ยาก มือใหม่ก็รู้อยู่แล้ว ก็คือดาวที่เป็นเกษตรในราศีที่ดาวเล็งกันนั่นเอง ซึ่งมีอยู่ 4 คู่คือ…
1. อาทิตย์กับราหู
2. จันทร์กับเสาร์
3. อังคารกับศุกร์
4. พุธกับพฤหัสฯ
ที่จริงเรื่องของดาวคู่เล็งนี้ยังมีใช้อยู่ในสูตรอื่นๆ อีกหลายสูตรเหมือนกัน ว่างๆ ถ้ามีเวลาผมจะนำมาขยายให้ฟังกันอีก แต่ในสูตรนี้ เช่น ถ้าดาวเสาร์เล็งลัคนาอยู่ แต่ดวงชาตานั้นมีดาวจันทร์กุมลัคน์อยู่ อย่างนี้เสาร์ก็ส่งด้านด้อยของตัวมาให้ลัคนาได้เพียงเล็กน้อย คือไม่เต็มที่นักเพราะมีดาวจันทร์คู่ราศีเล็งของตัวสกัดอยู่ ดาวอื่นก็ใช้หลักการนี้เช่นเดียวกัน
พูดง่ายๆ ก็คือ ดาวคู่เล็งเป็นตัวป้องกันให้แก่ลัคนานั่นแหละ นอกจากนี้แล้วยังอาจนำกฎนี้ไปใช้ในกรณีที่ดาวเล็งดาวในราศีปกติได้อีกด้วย คือถ้าดาวคู่เล็งเกิดไปเล็งกันเองในราศีคู่ใดคู่หนึ่ง จะเกิดการ “แลก” หน้าที่ของดาวนั้นขึ้นมากับภพที่ดาวเล็งกันอยู่ทันที
ตรงนี้เป็นกรณีที่นักศึกษามือใหม่อาจจะพยากรณ์ไม่ถูก ต้องมีพื้นฐานเรื่องดาวเรื่องภพจัดเจนหน่อยก็จะสามารถทำนายได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว เพราะกรณีอย่างนี้เป็นวิชาในระดับสูงหน่อย ต้องมีความเข้าใจเรื่องภพเรื่องดาวเป็นอย่างดีจึงจะพยากรณ์ได้ดีและถูกต้อง
อ้อ-ลืมบอกไปนิดนึงว่า คำว่า “ด้านเด่น” นั้นไม่ได้หมายความว่าเป็น ด้านดี เสมอไปนะครับ เป็นเพียงความเด่นของดาวดวงนั้นเท่านั้น ความเด่นบางอย่างอาจไม่ใช่ความดีก็ได้ เช่นเดียวกับ “ด้านด้อย” ก็ไม่ได้แปลว่าเป็น ด้านเสีย ทุกอย่าง ในด้านด้อยอาจเป็นสิ่งดีของดวงนั้นก็ได้เหมือนกัน ขอให้เข้าใจตามนี้นะครับ
แจกแจงมาละเอียดพอสมควรแล้ว เห็นจะต้องขอจบลงตรงนี้แหละ สงสัยตรงไหนก็ลองอ่านซ้ำดูอีกสักเที่ยวสองเที่ยวก็จะเข้าใจได้ดี ลองดูนะครับ
“เกร็ดพยากรณ์พระเคราะห์”
จากหนังสือประทีปโหราศาสตร์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ปี พ.ศ.๒๔๙๒ ราคาเล่มละ ๑๐ บาท โดยท่านอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว เขียนจากคัมภีร์โหราศาสตร์และหลักวิชาของพระอาจารย์ หลวงอนุสิทธิ์นนทิการ (เจิม โชติวิท) และท่านอาจารย์ พ.อ.หลวงวิภาครัฐกิจ (ศุข เมนะรุจิ) นักดาราศาสตร์จากประเทศอิตาลี
พระเคราะห์อยู่ด้วยกัน ๒ ตัว
๑ – ๒ เจ้าชู้ นัยน์ตาผิดกัน
๑ – ๓ มีทิษฐิมานะ มีศัตรูไม่สู้ผาสุก ใจร้อนมักเกิดเรื่องวุ่นวาย
๑ – ๔ เจ้าชู้ พูดมาก กระแสเสียงผิดปกติ มีโรคฟัน หรือฟันไม่สวย
๑ – ๕ เรียนรู้อะไรได้ดี วิชาการได้ผล
๑ – ๖ เจ้าชู้ ขี้เหนียว (ถ้าเกิดวันอาทิตย์) เว้นแต่มีตัวนักเลง ครอบ ดูต่อไป
๑ – ๗ ใจร้อน มักไหวตัว ถ้าลัคน์อยู่พิจิก ระแวงแน่นอน
๑ – ๘ มักเดินทาง ผู้ใหญ่ให้ร้าย
๒ – ๓ ใจเร็ววู่วาม มักยุ่งในเพศตรงข้าม มีชู้หรือคู่ของตัวมีชู้
๒ – ๔ เจ้าชู้ ชอบสมาคม วาจาดี
๒ – ๕ วิชาดี ถูกใส่ความแต่ไม่เป็นไร
๒ -๖ เจ้าชู้ มักมีแม่เลี้ยง
๒ – ๗ คู่มักมีชู้ อวัยวะหัวใจ นัยน์ตาไม่ใคร่จะดี
๒ – ๘ มักบอ ห่าม แปลกคน ทะลึ่งตึงตัง คนมักดูหมิ่น
๓ – ๔ พูดเร็ว ไม่น่าฟัง กล้าพูด
๓ – ๕ วิชาแน่น พากเพียรได้ผล
๓ – ๖ เจ้าชู้ มีคู่มาก เสน่ห์ดี
๓ – ๗ ประสาท ลำไส้ไม่สู้ดี มักถูกเขี้ยวงา หรือถูกอาฆาตมาดร้าย
๓ – ๘ มักเป็นโรคลม ทำอะไรเร็ว มักเดินทาง
๔ – ๕ เด่นทางวิชาช่าง เป็นนักประพันธ์ นักพูดอย่างดี
๔ – ๖ เจ้าชู้, มักมากในกาม
๔ – ๗ ฟันไม่ดี พูดเสียงห้าว
๔ – ๘ มีเรื่องจากการโต้เถียง เสียงห้าวใหญ่ พูดเก่ง
๕ – ๖ ดีทั้งทางโลกและทางธรรม คู่สวยงามแต่มักต้องช่วยญาติของคู่นั้น
๕ – ๗ มักมีความขึงขัง ดีทางไสยศาสตร์
๕ – ๘ ความคิดโลดโผน บางทีหลงไป ทำอะไรได้ครึ่งเสียครึ่ง
๖ – ๗ ครุ่นอยู่ในรสความใคร่ มักมีเหตุการณ์บังคับให้เสียความบริสุทธิ์
๖ – ๘ หลงราคะ รักจนหลง
๗ – ๘ เพื่อนมากแต่ล้วนเป็นนักเลง
“พระเคราะห์คู่เกี่ยวกับสามีภรรยา”
๒ – ๕ มักไม่มีพิธีวิวาหะในการมีคู่ครอง
๒ – ๓ อยู่เมถุน ธนู กล้าแข่งขันในความรักทุกวิถีทาง
๒ – ๘ หรือ ๓ – ๘ อยู่กรกฎ แย่งรักเขาโดยปราศจากศีลธรรม
๔ – ๖ มีโชคทางชู้สาว ถ้าอยู่เมถุน กันย์ พฤษภ ตุล เมษ หรือ พิจิก ได้แล้วเลิกกันไม่เป็นเนื้อเป็นตัว
๓ – ๖ มีคู่ผัวตัวเมียอยู่เรี่ยราย (มีได้เรื่อย)
๕ – ๗ – ๘ มุ่งเลือกคนหนึ่ง แต่กลับไปได้คนอื่น ซึ่งเป็นคนต่ำกว่า ท่านยกตัวอย่างว่า ได้กับแม่สื่อที่ใช้นั้นเอง ถ้าพระเคราะห์อยู่ราศีสิงห์ก็เป็นเรื่องอื้อฉาว ไม่ดี ไม่งาม น่าบัดสี
๓ – ๗ อยู่ด้วยกันและ ๒ เล็ง ท่านว่าได้คนใช้สอยนั้นเอง
๒ – ๖ หรือ ๖ – ๘ คู่มักผลาญทรัพย์ เช่น เล่นการพนัน เอาสิ่งของไปจำหน่ายขายเสีย
ตามที่ระบุไว้ ถ้าอยู่ในราศีปัตนิ ก็แน่นอนมาก และเป็นอยู่ตลอดชีวิต ถ้าอยู่ราศีสุหัชชะ กรรมมะ (พิมพ์ตามต้นฉบับ) ก็มีน้ำหนักเพลาลงมาเป็นลำดับ”
อย่าลืมนะครับว่าการพิจารณาผลของดาว ต้องคำนึงถึงกระแสสัมพันธ์กันกับลัคนา, พระเคราะห์, ธาตุ, ราศีต่างๆ ด้วย อย่าจับแต่เกร็ดไปพยากรณ์โต้งๆ อาจผิดพลาดได้ครับ ลองนำไปใช้ดูนะครับ