คนของโลก : จอร์จ เวอาห์ จากยอดนักเตะสู่ประธานาธิบดี

จากเด็กที่เติบโตอยู่ในชุมชนแออัดใน “ไลบีเรีย” ประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา

“จอร์จ เวอาห์” สามารถประสบความสำเร็จได้ในฐานะนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก

คว้ารางวัลทรงเกียรติอย่างนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า

และเป็นนักฟุตบอลนอกทวีปยุโรปคนแรกที่สามารถคว้ารางวัล “บัลลงดอร์” เกียรติยศสูงสุดของนักฟุตบอลมาครองได้

แต่นั่นเป็นเพียงเทพนิยายที่ยังไม่จบ

เมื่อเวอาห์สานต่อเรื่องราวจนสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไลบีเรียได้ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยเวอาห์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปได้ด้วยคะแนนเสียง 61.5 เปอร์เซ็นต์

เอาชนะคู่แข่งอย่าง โจเซปห์ โบอาไก รองประธานาธิบดีไปได้

โดยอดีตแข้งดังของเอซี มิลาน เตรียมเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มกราคมนี้

แทนที่ตำแหน่งของนางเอลเลน จอห์นสัน เชอร์รีฟ ประธานาธิบดีหญิงแห่งไลบีเรียผู้ครองตำแหน่งยาวนาน 12 ปีที่กำลังจะหมดวาระลง

 

จอร์จ เวอาห์ เกิดและเติบโตในสลัม ในเมืองคลาลาทาวน์ ในกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ได้รับการเลี้ยงดูจากยายหลังพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เวอาห์ยังเล็กๆ

เด็กชายเวอาห์ก้าวเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 15 ปี แม้จะมีรายงานว่าเรียนไม่จบชั้นมัธยมปลาย แต่เวอาห์ก็ก้าวขึ้นเป็นดาวเด่นของทีมฟุตบอลท้องถิ่นอย่าง “ไมตี้ แบร์โรลล์” และ “อินวิซิเบิล อีเลเวน”

หลังก้าวสู่ทีมชาติ เวอาห์ถูกดึงไปเล่นที่ฝรั่งเศสกับทีม “โมนาโก” จากการชักนำของ “อาแซน แวนเกอร์” ผู้ที่คุมทีม “โมนาโก” ในเวลานั้นก่อนจะย้ายไปคว้าแชมป์ลีกเอิง ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสกับ “ปารีส แซงต์ แชร์แมง” สโมสรชั้นนำของฝรั่งเศส

คว้าแชมป์กัลโช่ซีรี่ส์เอ ลีกสูงสุดของอิตาลี กับ “เอซี มิลาน” สองสมัย และประสบความสำเร็จในฐานะดาวซัลโว “ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก” ด้วย

ช่วงปลายการค้าแข้ง เวอาห์ย้ายมาเล่นให้กับเชลซี และแมนเชสเตอร์ซิตี้ และสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพของอังกฤษมาได้อีก 1 สมัย

นั่นคงดูเหมือนจุดสูงสุดของชีวิตที่ “จอร์จ เวอาห์” สามารถนั่งมองความสำเร็จอยู่ที่บ้านได้แบบสบายๆ

แต่อดีตนักฟุตบอลเจ้าของฉายา “คิง จอร์จ” ไม่คิดเช่นนั้น

 

เจ้าของฉายาที่แฟนบอลชาวไทยเรียกกันว่า “เทพบุตรล้ำหน้า” วัย 51 ปี ตัดสินใจก้าวเข้าสู่อาชีพนักการเมืองด้วยหวังจะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไลบีเรียให้ดีขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตอันยากลำบากในวัยเด็ก

เวอาห์ตั้งพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า “คองเกรส ฟอร์ เดโมเครติก แชนจ์” ขึ้นในปี 2005 แต่ก็ต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนั้น และอีก 6 ปีถัดมาในปี 2011 ให้กับเอลเลน จอห์นสัน เชอร์รีฟ จากพรรคยูนิตี้ไป

หนึ่งในการถูกวิพากษ์วิจารณ์แง่ลบที่ส่งผลให้อดีตนักเตะบัลลงดอร์ผู้นี้ต้องพ่ายแพ้ก็คือการศึกษา นั่นส่งผลให้เวอาห์ส่งตัวเองเรียนจนได้ใบประกาศจบการศึกษาระดับมัธยมปลายในปี 2006 ด้วยวัย 40 ปี

ก่อนจะจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเดฟรี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และจบปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ในอีกสองปีต่อมา

เวอาห์ได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกตัวแทนพรรคคองเกรส ฟอร์ เดโมgครติก แชนจ์ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 78 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2014

เอาชนะ โรเบิร์ต เชอร์รีฟ ลูกชายของประธานาธิบดี เอลเลน จอห์นสัน เชอร์รีฟ ไปได้ นั่นทำให้เวอาห์กลายเป็นนักกีฬาคนแรกที่เป็นตัวแทนประชาชนเข้าสู่สภาของประเทศไลบีเรีย

ก่อนที่ในปี 2018 จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีได้สำเร็จ กลายเป็นนักกีฬาแอฟริกาคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศได้

หลังได้รับชัยชนะ จอร์จ เวอาห์ ระบุกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอนโรเวียว่า ตนมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการ “ยกระดับคุณภาพชีวิต” ของชาวไลบีเรีย

“ผมขอประกาศในวันนี้ว่า การยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไลบีเรียนั้นเป็นเพียงเป้าหมายเดียวของผม” เวอาห์ระบุ