เรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย ‘ช่างกิต’ หึงโหด-ฆ่า ‘ใหม่’ ทั่วสังคมจับตา ‘น้องพร’ ชนวนพิศวาสฆาตกรรม

คดีฆาตกรรมหนุ่มโรงงาน มัดมือ มัดเท้า ทิ้งริมถนนมอเตอร์เวย์ แม้นตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการจับกุมแก๊งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ แต่สังคมยังมีข้อกังขาอีกมากมายถึงชนวนเหตุของคดีว่าเกิดขึ้นเพียงแค่ความหึงหวง หรือแท้จริงแล้วมีชักใยวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน

เรื่องราวของคดีนี้จึงไม่ต่างกับนิยายฆาตกรรมซับซ้อน-ซ่อนเงื่อน

จนคนอ่านวางไม่ลง

พบศพหนุ่มถูกฆ่าทิ้งมอเตอร์เวย์

ย้อนไปเมื่อ 17.15 น. วันที่ 29 มกราคม 2567 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง ตรวจสอบเหตุพบศพชายไม่ทราบชื่อถูกมัดมือ เท้า นำมาทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้า กทม. ม.41+100 ม.9 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อไปตรวจสอบพบศพอยู่ในหญ้า สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีม่วง ถูกเชือกมัดมือมัดเท้าและมีบาดแผลถูกยิงบริเวณกลางศีรษะ ไม่พบเอกสาร หรือมือถืออยู่ในตัว สภาพศพเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน

ต่อมามี น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือพร อายุ 33 ปี มาขอดูศพก่อนยืนยันทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายคือนายธนาสันต์ เตอั้น หรือใหม่ อายุ 33 ปี สามีของตนที่ออกจากบ้านใน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.06 น. เพื่อไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งแล้วหายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ โดยแจ้งความคนหายไว้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

จากนั้นวันที่ 28 มกราคม 2567 (คืนเดียวกัน) เวลาประมาณ 02.40 น. ภรรยาผู้ตายได้มีการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยผู้ตายส่งข้อความมาว่าขอเลิกรา โดยแจ้งเหตุผลว่าทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ซึ่งจากลักษณะข้อความที่พูดคุยและลักษณะนิสัยของผู้ตาย ภรรยาผู้ตายเชื่อว่าไม่ใช่สามีตัวเองที่พูดคุยด้วย จนทราบว่ามีคนพบศพจึงมาดู

หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นำชุดสืบสวนภาค 2, ชุดสืบสวน จ.ฉะเชิงเทรา, ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง เร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือพร ในงานศพสามี

ชุดสืบสวนไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านของผู้ตาย ช่วงวันที่ 27 มกราคม เห็นภาพผู้ตายขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน ขณะที่มีรถเก๋งมิตซูบิซิ มิราจ สีแดง ทะเบียน ฆห 2204 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยขับตาม และจี้ท้ายรถพร้อมเปิดไฟสูงใส่ ก่อนขับปาดแล้วลงไปบังคับอุ้มตัวนายใหม่ขึ้นมาบนรถ ห่างจากหมู่บ้านไป 2 กิโลเมตร ก่อนสืบสวนจนรู้ว่าผู้ขับขี่รถเก๋งคือนายกิตติโชติ แพไพรมูล อายุ 37 ปี หรือช่างกิต ที่มากับพวกอีก 4 คน

ตำรวจยังพบอีกว่า ช่างกิตมีความสนิทสนมกับน้องพร ภรรยาผู้ตาย เพราะทำงานขับรถส่งของที่เดียวกัน โดยในวันที่พบศพผู้ตายนั้น ช่างกิตเป็นคนขับรถพา น.ส.วรรณพร มาดูศพ ซ้ำยังคอยปลอบใจน้องพร ที่ร้องไห้ด้วยความเสียใจอีกด้วย

นอกจากนี้ ก่อนคืนวันเกิดเหตุ มีภาพช่างกิตใช้รถยนต์คันก่อเหตุมายังหมู่บ้านของผู้ตาย โดยใช้คีย์การ์ดเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นคีย์การด์ของน้องพร

ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับข้อหา “ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วน และโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุม”

ตีหนึ่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ชุดสืบสวนเข้าจับกุมช่างกิต ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ก่อนถึงสนามกอล์ฟกรีนวัลเลย์ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จากนั้นไปตรวจยึดรถเก๋งมิตซูบิซิ มิราจ ที่ใช้ก่อเหตุที่ลานจอดรถในพื้นที่บางเสาธง พร้อมทั้งประสานนักประดาน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงงมหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุและนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้ง บริเวณคลองส่งน้ำ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามคำรับสารภาพและนำชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

ช่างกิตให้การซัดทอดกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีชื่อ กรานต์, แท็บ, นิว และโอ๊ต ซึ่งเป็นหลานชายและลูกน้องในอู่ ซึ่งทั้ง 4 คน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจทันที พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา

โดยกรานต์ให้การว่าวันที่เกิดเหตุ ช่างกิตโทร.มาชวนไปธุระด้วยกัน ก่อนขับไปซุ่มรอที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พอเห็นนายใหม่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมา ช่างกิตก็ขับตามออกไป ก่อนขับเบียดมอเตอร์ไซค์นายใหม่ตกข้างทางแล้วสั่งให้ลงไปอุ้มนายใหม่ขึ้นรถมา

ซึ่งวันนั้นนายใหม่ยังหันมาถามว่า “พี่จับผมมาทำไม” ตนก็ตอบว่าพี่ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมโดนหลอกมา และก็ไปเอามอเตอร์ไซค์ แล้วเพื่อนๆ ที่เหลือก็แยกย้ายกัน ซึ่งจะเหลือแค่ ช่างกิตและใหม่ อยู่ในรถ

ช่างกิต

โลกหลายใบของพร-ชนวนคดีโหด

ขณะที่แรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ แน่นอนว่ามาจากความหึงหวง โดยหลังจำนนด้วยหลักฐาน ช่างกิตรับสารภาพว่า น้องพรกับตนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าพรมีสามีแล้ว เพราะฝ่ายหญิงบอกว่าโสดอยู่กับพ่อ จนกระทั่งมารู้ว่ามีสามีแล้วจึงพยายามนัดเคลียร์ใจกันในวันที่เกิดเหตุ แต่พรส่งข้อความหานายใหม่ ตอนนั้นรับว่าเกิดความโมโหมากเลยลงมือก่อเหตุ

ขณะที่เพื่อนร่วมงานของช่างกิตและพร ออกมาเล่าว่า ช่างกิตมาบอกกับพวกเพื่อนว่าพรท้อง และดีใจมากจนตั้งชื่อลูกรอไว้แล้ว อีกทั้งยังขอให้เพื่อนช่วยตัดสติ๊กเกอร์ชื่อลูกและชื่อพร เตรียมจะแปะติดท้ายรถ ซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจสำคัญของคดีสยองครั้งนี้

ครอบครัว ใหม่ ทำพิธีเก็บกระดูก

เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์พรว่าท้องกับช่างกิตจริงไหม? เจ้าตัวตอบว่า “ไม่ท้อง ช่างกิตคิดไปเอง ที่เธอบอกช่างกิตว่าท้องเพราะอยากเรียกร้องความสนใจ” พร้อมยอมรับว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันจริง

4 กุมภาพันธ์ 2567 วันพิธีฌาปนกิจนายใหม่เหยื่อโหด น้องพรโผล่มาร่วมงานในอาการร้องห่มร้องไห้ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “คบกับใหม่มา 17 ปี เขาดูแลดีทุกอย่าง อยากกินอะไรก็พาไปกิน อยากไปไหนก็พาไป ไม่สบายก็เช็ดตัวให้ รองจากพ่อก็คือเขาที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว และพรรักป๊าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ พรขอโทษในสิ่งที่ผิดพลาดไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา จนทำให้มันเป็นเรื่องแบบนี้”

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของสามี ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ถ้าผิดจริงก็ยินยอมรับผิดตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า พรมีความผิดข้อหาร่วมกันฆ่าหรือไม่ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในส่วนของ น.ส.พร จากการสอบปากคำเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าสามี

ส่วนเรื่องคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้านของ น.ส.พร ที่ช่างกิตนำมาใช้เปิดเข้าไปก่อเหตุนั้น ช่างกิตรับว่าขโมยมาจาก น.ส.พร โดยช่างกิตระบุระหว่างคบกับ น.ส.พร เหมือนฝ่ายหญิงมีเรื่องบางอย่างปกปิดอยู่ จึงอยากรู้และขโมยคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้าน เพื่อไปหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวของ น.ส.พร เนื่องจากไม่ไว้ใจ น.ส.พร โกหกอะไรหรือไม่

แต่จะไปตรวจสอบไทม์ไลน์ก่อเหตุของช่างกิต ว่า น.ส.พรอาจเข้าข่ายร่วมสนับสนุนให้ก่อเหตุด้วยหรือไม่

ขณะที่ประเด็นแชตในมือถือ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ จากการตรวจสอบก็ชี้ชัดว่า น.ส.พรไม่น่ามีส่วนรู้เห็น เพราะมีข้อความแชตคุยว่าใครเป็นคนร้ายและวิจารณ์คนก่อเหตุ บางช่วงยังแชตในลักษณะท้อแท้ ก่อนช่างกิตจะแชตให้กำลังใจ ต้องการให้ น.ส.พรใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อรอดูคนร้ายในคดีนี้ เบื้องต้นจึงเห็นว่า น.ส.พรไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องคดีนี้

เก็บหลักฐานที่รถช่างกิต

แม้นพยานหลักฐานของตำรวจ ชี้ว่าชนวนเหตุมาจากความหึงหวงของช่างกิต แต่สังคมกลับเชื่อว่า พรภรรยาของนายใหม่ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จากการให้สัมภาษณ์ที่กลับไปกลับมาไม่เหมือนเดิม รวมทั้งเรื่องคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้านที่เจ้าตัวอ้างว่าทำหาย แต่ถูกช่างกิตนำมาใช้ ขณะที่สื่อโซเชียลต่างขุดคุ้ยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพรที่คบซ้อนกับผู้ชายทีละหลายคน โดยไม่ได้มีแต่ช่างกิต แต่ยังมีเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งเป็นโลกใบที่ 3 ของพร

นอกจากเรื่องที่พูดกลับไปกลับมา หากไม่มีหลักฐานยืนยันก็จะไม่พูดความจริงจนทำให้ตัวเองหมดความน่าเชื่อถือแล้ว ล่าสุดยังมีประเด็นเรื่องเงินประกันชีวิตของนายใหม่ที่ทำเอาไว้ช่วงธันวาคม 2566 ไม่นานก่อนถูกฆ่าตาย มีเงินสูงถึง 1.2 ล้านบาท ที่ผู้รับผลประโยชน์คือ แม่ และพร

ขณะที่ครอบครัวของนายใหม่ ประกาศตัดขาดจากสะใภ้คนนี้ พร้อมขอให้ตำรวจสอบสวนเคลียร์ให้ชัดว่า พรมีส่วนรู้เห็นกับการตายของนายใหม่ด้วยหรือไม่

ไม่ใช่แค่ครอบครัวของใหม่เท่านั้น แต่คดีนี้คนในสังคมต่างก็สงสัยเช่นเดียวกัน พร้อมๆ กับติดตามเรื่องราวของน้องพรที่มีโลกหลายใบอย่างจดจ่อ

คดีนี้จึงเป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายพิศวาสฆาตกรรม