อาชญากรรม : พลิกคดีโหด “หมอปอ” ดับก่อนแต่งงาน 5 วัน! แฟนหนุ่มรับลั่นไกฆ่า กิ๊กสาวไม่รอด-ถูกจับ

เป็นคดีพิศวาสฆาตกรรมที่ช็อกสังคมอีกคดี

สำหรับกรณีพนักงานทันตกรรมสาวถูกพบเป็นศพอยู่ในบ้านพักข้าราชการ

โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซอง

ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของญาติมิตรและแฟนหนุ่ม

เนื่องจากผู้ตายกำลังจะเป็นว่าที่เจ้าสาวในอีก 5 วันเท่านั้น

กลายเป็นภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องตามล่ามือปืนจอมโหดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้

แต่แล้วเรื่องราวก็กลับพลิกผัน เมื่อในที่สุดแล้วฆาตกรที่ลงมือครั้งนี้ก็คือว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังจะเข้าวิวาห์นั่นเอง

พร้อมเปิดปากสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือเนื่องจากต้องการเอาเงินสินสอดคืน อีกทั้งยังมีเรื่องระหองระแหงกันตลอดเวลาที่คบมา

จนไม่อยากจะแต่งงานด้วย!!

หนำซ้ำการลงมือครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกิ๊กสาวที่มีสัมพันธ์กันมาก่อนหน้านี้

สุดท้ายก็หนีไม่รอดถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งคู่

พลิกคดีฆ่าโหด “หมอปอ”

เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม โดย พ.ต.ท.สุนทร พิทักษ์สุข สว. (สอบสวน) สภ.สลุย จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านพักข้าราชการ โรงพยาบาลสุขภาพตำบลสลุย (รพ.สต.สลุย) หมู่ 5 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านพักข้าราชการ ด้านหลัง รพ.สต.สลุย ซึ่งเป็นบ้านไม้ห้องแถวสองชั้น 3 ห้อง ภายในห้องที่ 3 พบมีรอยงัดแงะหน้าต่าง ประตูใส่กลอนจากด้านใน ริมหน้าต่างมีเก้าอี้พลาสติกวางอยู่

ภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพ น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือหมอปอ อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข รพ.สต.สลุย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่หน้าอก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบไม่มีร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สิน โทรทัศน์ยังเปิดค้างอยู่ วงจรปิดหน้าห้องถูกขยับขึ้นด้านบน สวิตช์ไฟริมหน้าต่างถูกปิด ซึ่งคาดว่าถูกยิงกลางดึกวันที่ 18 ธันวาคม จนกระทั่งสายวันที่ 19 ธันวาคม เมื่อเพื่อนร่วมงานไม่เห็นหมอปอมาทำงาน จึงเข้าไปตรวจสอบก่อนพบเป็นศพ

ขณะที่วงจรปิดจับภาพช่วงก่อนตี 1 มีชายรูปร่างท้วม สูง 165 ซ.ม. สวมไอ้โม่งเข้ามาในเขต รพ.สต. จากนั้น 20 นาที ชายคนดังกล่าวเดินออกจาก รพ.สต. คาดว่าเข้ามาที่ห้องพักหมอปอ และช่วงหลังเที่ยงคืนก็มีคนได้ยินเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้น 1 นัด

จากการสอบสวนพบว่า หมอปอซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีกำหนดแต่งงานกับนายรณชัย หรือ เก่ง ปานชาติ อายุ 26 ปี แฟนหนุ่มที่คบหากันตั้งแต่สมัยเรียนในวันที่ 24 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ แนวทางสอบสวนมุ่งไปในทางที่คนร้ายเป็นคนรู้จักหมอปอ เคยเข้านอกออกในเป็นประจำ เพราะรู้มุมกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังพบว่าเก่งแฟนหนุ่ม ที่โพสต์ข้อความในโซเชียลไว้อาลัย ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องระหองระแหงกันมาก่อน เนื่องจากหมอปอจับได้ว่าเก่งแอบมีกิ๊กอีกคน จนเป็นเหตุให้ทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โตมาแล้ว

อีกทั้งเมื่อดูรูปร่างชายต้องสงสัยในวงจรปิด ก็พบว่ามีรูปร่างลักษณะใกล้เคียงกับ “เก่ง” จึงคุมตัวมาสอบสวนทั้งคืน

ในที่สุดก็เปิดปากรับสารภาพ ว่าเป็นคนลั่นไกว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง

แฟนหนุ่มรับสิ้นลงมือเอง

โดยไอ้เก่งเล่าถึงเหตุการณ์วันลงมือว่า วันลงมือคือวันที่ 18 ธันวาคม เริ่มตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น นั่งรถซูซูกิ สวิฟต์ สีขาว โดยมี น.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23 ปี กิ๊กสาวที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นคนขับจาก อ.หลังสวน มายัง รพ.สต.สลุย ซึ่งเป็นที่พักของหมอปอ โดยมาถึงในเวลา 2 ทุ่มเศษ

ตอนแรกให้กิ๊กสาวจอดรถที่หัวสะพานคลองบางทะลาย จากนั้นเปลี่ยนเสื้อ สวมถุงมือดำ หมวกสีดำ ที่เตรียมมาไว้ เดินไปที่บ้านพักหมอปอ แต่เกิดเปลี่ยนใจ จึงย้อนกลับไปที่รถ ให้ น.ส.นฤมล ขับไปแวะซื้ออาหาร แล้วเอาไปกินด้วยกันที่เขื่อนคุริง ช่วงเกือบ 4 ทุ่ม

จนกระทั่งเที่ยงคืนจึงขับรถมาจากเขื่อนคุริง มาจอดข้างบ้านพักหมอปออีกครั้ง แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งกายอีก ก่อนจะนำปืนที่เตรียมมาติดตัวไปด้วย โดยเดินวนดูหลังบ้านและรอบบ้านจนแน่ใจ แล้วปิดสวิตช์ไฟห้องครัว แล้วใช้มือดันกล้องวงจรปิดให้เงยขึ้น งัดหน้าต่างเข้าไปในบ้าน

พอเข้าไปเจอกระเป๋าสะพายของหมอปอ จึงเปิดกระเป๋าเพื่อหาหลักฐานที่คุยกันไปทำลายและรื้อค้นหาเงิน แต่ไม่เจอ จึงเดินไปที่ชั้นสอง ก็พบว่าหมอปอนอนหลับอยู่ในห้องโดยไม่ได้ปิดประตู

จากนั้นตนนั่งคิดไตร่ตรองอยู่หน้าบันได จังหวะนั้นหมอปอตื่นขึ้นมาแล้วพูดว่า “ใครวะ ไปไกลๆ เลยนะ” แล้วก็ลุกจากที่นอนมาหาตน จังหวะนั้นรู้สึกสติแตก มารู้ตัวอีกทีก็ลั่นไกยิงไปแล้ว จึงรีบวิ่งกลับมาที่รถ บอก น.ส.นฤมล ที่รออยู่ว่า “พี่ยิงเขาไปแล้ว” แล้วจึงพากันขับรถออกจากที่เกิดเหตุ เอาปืนไปทิ้งแม่น้ำที่สะพาน เลยโรงเรียนคันธทรัพย์ โยนรองเท้าทิ้ง แวะล้างหน้าที่ปั๊มเอสพีจี ที่ชุมพรเมืองใหม่

แล้วจึงย้อนกลับมาเอารถที่จอดอยู่หลังสถานีรถไฟหลังสวน ก่อนขับกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 03.00 น. แล้วจึงทำทีส่งไลน์หาผู้ตายเพื่อสร้างหลักฐานว่าอยู่ที่ห้องตลอด บอกว่า “ขอโทษหลับเพิ่งตื่น” แล้วทำทีเป็นโทร.ไปหาหมอปอหลายครั้งเพื่ออำพรางคดี

สำหรับสาเหตุเกิดจากการที่คบกันมาประมาณ 6 ปีมีปัญหากันหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงินที่ไปกู้มา 1.5 ล้านเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมอบให้หมอปอเก็บไว้ รวมทั้งบัตรเอทีเอ็ม บัญชีเงินเดือน จนเวลาจะใช้เงินก็ต้องไปขอ เมื่อถามถึงเงินที่เก็บไว้ก็ทะเลาะกันรุนแรง

ต่อมาก็เริ่มทะเลาะกันเรื่องที่คบกับ น.ส.นฤมลอีกคน ทั้งนี้ ปืนที่ใช้ก่อเหตุ น.ส.นฤมล เป็นคนจัดหามาให้ก่อนลงมือประมาณ 1 สัปดาห์

เป็นคำให้การของว่าที่เจ้าบ่าว

“กิ๊กสาว” ก็ไม่รอดโดนด้วย

เมื่อมีคำให้การมัดชัด น.ส.นฤมล กิ๊กสาวของไอ้เก่งก็ไม่รอด ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำหมายศาลในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาไปในเมือง ในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ไปควบคุมตัว น.ส.นฤมล มาดำเนินคดี

โดย น.ส.นฤมล ให้การว่า ยอมรับว่าสนิทสนมกับนายรณชัย หรือเก่ง จริง ก่อนเกิดเหตุเก่งให้เงิน 7 พันบาท ไปซื้อปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จากเพื่อนในหมู่บ้าน เพราะอ้างว่ามีศัตรู จะใช้ไว้ป้องกันตัว

ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม ช่วงเย็น นายเก่งมาขอให้พาไปส่งที่หน้า รพ.สต.สลุย จนมาถึงหน้า รพ.สต.สลุย เวลาประมาณ 3 ทุ่ม นายเก่งบอกจะไปเคลียร์ปัญหากับหมอปอ เมื่อส่งเสร็จ จึงขับรถไปทำธุระ จากนั้นเที่ยงคืน นายเก่งก็โทรศัพท์มาให้ไปรับ เพื่อกลับหอพักที่ อ.หลังสวน

จึงขับรถไปตามถนนสายรองของหมู่บ้าน ตลอดทางนายเก่งให้จอดรถเอาสิ่งของบางอย่างทิ้งลงคลอง และป่าละเมาะหลายจุด โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่านายเก่งได้ลงมือฆ่าหมอปอ

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีข้อพิรุธตั้งแต่การจัดซื้อปืนเถื่อนมาเตรียมลงมือ พร้อมส่งตัวฝากขังศาล จ.ชุมพร

ทั้งนี้ ที่เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีภาพวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย จนกระทั่งคุมตัวนายเก่งมาสอบสวน และนำไปค้นบ้านพักใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งก็พบเสื้อผ้าที่มีลักษณะเหมือนคนร้ายในวงจรปิด รวมทั้งไอ้โม่งที่คลุมหน้า

เมื่อเห็นหลักฐานทั้งหมด นายเก่งจึงจำนนด้วยหลักฐานแล้วรับสารภาพ ส่วนสาเหตุหลักๆ คือไม่พอใจที่หมอปอรังควานยื่นคำขาดให้เลิกกับกิ๊กสาว และปัญหาเรื่องเงินที่เบิกออกจากธนาคารเกือบล้านบาท จึงตัดสินใจร่วมกับกิ๊กสาวลงมือสังหารว่าที่เจ้าสาว เพื่อจะได้ไม่ต้องแต่งงาน

ปิดฉากคดีพิศวาสฆาตกรรม

ครอบครัวจี้เคลียร์เงินหาย

อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องราวจะคลี่คลาย แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องสืบค้นกันต่อไป เมื่อพ่อของหมอปอออกมาทวงถามเงินสดและทองคำของหมอปอ

โดย นายเชาว์ และ นางสมศรี ครัวจัตุรัส พ่อและแม่หมอปอ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินของลูกสาว คือเงินสินสอด 4 แสนบาท และทองคำ 10 บาท ที่เตรียมไว้ให้เจ้าบ่าวใช้ในงานแต่ง และทองคำส่วนตัวของลูกสาวอีก 5 บาทหายไป

รวมทั้งเงินในสมุดบัญชีเงินฝากของทั้งคู่ที่เก็บเงินร่วมกันประมาณ 6-7 แสนบาท ก็หายไปเช่นกัน จึงอยากให้คลี่คลายว่าทั้งหมดไปอยู่ไหน

พร้อมระบุว่า งานแต่งที่กำหนดไว้ ลูกสาวตนเป็นคนดำเนินการและออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่ผ่านมาหมอปอก็ดูแลนายเก่งมาตลอด พาไปสอบเข้าทำงาน เพราะฐานะนายเก่งไม่ดี ก็ให้รถจักรยานยนต์ไว้ใช้ 1 คัน

ก่อนเกิดเหตุนายเก่งยังมานอนที่บ้าน หมอปอยังรีดชุดทำงานสีกากีให้อยู่ แล้วยังขับรถไปส่งที่ กฟภ.หลังสวน จึงอยากถามว่าทำไมถึงใจร้ายอย่างนี้

ส่วน นายวินัย และ นางยุวพเยาว์ ปานชาติ พ่อและแม่นายเก่ง เปิดใจว่า ยอมรับว่าลูกชายคิดสั้นจึงก่อเหตุเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อย ลูกชายตนเจ้าชู้ ขณะที่หมอปอ ก็ขี้หึง แต่เรื่องเงิน ต้องชี้แจงว่าไม่เคยได้รับการส่งเสียจากครอบครัวหมอปอ

ส่วนเรื่องเงินก็เป็นเงินที่เก่งกู้มา แต่ให้หมอปอเก็บไว้ จึงขอความเป็นธรรมด้วย

ส่วนเรื่องทางคดี ขอให้สังคมอย่าด่วนตัดสินลูกชาย

ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม