ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 ธันวาคม 2566 |
---|---|
ผู้เขียน | ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน |
เผยแพร่ |
ในยุคทศวรรษ 1970 ไม่เพียงเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ที่ญี่ปุ่นเป็นผู้นำโลกในด้านหุ่นยนต์ประกอบชิ้นส่วนสินค้า
โดยญี่ปุ่นสามารถครองตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมได้มากถึง 70% ของหุ่นยนต์ทั่วโลก ขณะที่ยุโรปมีส่วนแบ่งเพียง 15% และสหรัฐอเมริกา 12% เท่านั้น
แต่ปี ค.ศ.1970 ญี่ปุ่นได้ให้กำเนิด “มังงะ” เรื่องหนึ่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นการ์ตูนอันดับหนึ่งในใจเด็กๆ ทั่วโลก นั่นก็คือ “โดราเอมอน”
“โดราเอมอน” เป็นผลงานการประพันธ์ของ “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ” นามปากกาของ “คู่หูนักวาดการ์ตูน” คือ “ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ” และ “อาบิโกะ โมโตโอะ” ที่นำเสนอ “ความกลมเกลียวกันระหว่างคนกับเครื่องจักร”
“โดราเอมอน” เป็นภาพแสดงแทนการมาถึงของเทคโนโลยีการผลิต ผ่านแขนกล และหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหรรม ที่ทั้ง “น่าเบื่อ” และ “น่ากลัว”
หากแต่นำเสนอผ่านภาพของ “โดราเอมอน” หุ่นยนต์แมวอ้วนแสนน่ารัก ที่มาจากโลกอนาคตศตวรรษที่ 22 เพื่อมาช่วยเหลือ “โนบิตะ” เด็กศตวรรษที่ 20
จากศตวรรษที่ 20 ที่การ์ตูน “โดราเอมอน” ถือกำเนิดขึ้น สู่ศตวรรษที่ 21 ในปัจจุบัน เรื่องราวใน “โดราเอมอน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ของวิเศษ” หลายอย่างในจินตนาการของ “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ”
ที่ไม่น่าเชื่อว่า ณ วันนี้ ได้กลายเป็นเรื่องจริง!
กว่า 50 ปีที่ผ่านมา ความโด่งดังของ “โดราเอมอน” ให้กำเนิดหลายสิ่งหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ หลักสูตร “โดราเอมอนศึกษา”
หลักสูตร “โดราเอมอนศึกษา” เปิดสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโตยามะ ประเทศญี่ปุ่น รับผิดชอบรายวิชาโดย “ศาสตราจารย์ ดร.โยโกยามะ ยาสุยูกิ”
“ศาสตราจารย์ ดร.โยโกยามะ ยาสุยูกิ” หรือ “ดร.โดราเอมอน” เรียนจบปริญญาเอกด้วยการทำดุษฎีนิพนธ์หัวข้อ “ของวิเศษโดราเอม่อน” จากมหาวิทยาลัยฟูกุยามะ
ระหว่างทำดุษฎีนิพนธ์ “ดร.โดราเอมอน” ได้อ่านหนังสือการ์ตูน “โดราเอมอน” ตั้งแต่เล่มแรกจนเล่มสุดท้าย “ยกชุด” ซ้ำไป-ซ้ำมา รวมแล้ว 50 กว่ารอบ!
นอกจากนี้ ท่านยังลงมือสร้าง “ฐานข้อมูล” บนระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ในท้องเรื่อง “โดราเอมอน” ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทั้งหมด อุปนิสัยใจคอ การเติบโต เลยไล่ไปจนกระทั่งถึงเรื่องราวของปรัชญา และคติสอนใจ
ซึ่งเจ้า “ฐานข้อมูล” นี้เองที่เป็นหัวใจหลักที่ทำให้งานวิทยานิพนธ์ของท่าน “ดร.โดราเอมอน” สำเร็จลงไปด้วยดี
โดยวิทยานิพนธ์เล่มดังกล่าว ได้วางขอบเขตการศึกษาเอาไว้อย่างหลากหลายทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็น “จิตวิทยา” ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาครอบครัว จิตวิทยาเด็ก และจิตวิทยาชุมชน ไปจนกระทั่งถึงเรื่องราวของ “สัญลักษณ์วิทยา”
นอกจากที่มหาวิทยาลัยโตยามะ จะให้ความสำคัญกับ “โดราเอมอน” ด้วยการเชิญ “ดร.โดราเอมอน” มาเปิดหลักสูตร “โดราเอม่อนศึกษา” แล้ว ทางรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ประกาศยกย่องให้ “โดราเอมอน” เป็นวรรณคดีประจำชาติอีกด้วย
อีกทั้ง “โดราเอมอน” ยังได้รับเลือกจากนิตยสาร TIME ให้เป็นหนึ่งใน “วีรบุรุษเอเชีย” ก็เคยมาแล้ว
ในดุษฎีนิพนธ์หัวข้อ “ของวิเศษโดราเอมอน” นั้น “ดร.โดราเอมอน” ได้พูดถึง “ของวิเศษ” ที่ “โดราเอมอน” หยิบออกมาใช้บ่อยๆ อาทิ คอปเตอร์ไม้ไผ่, ผ้าคลุมกาลเวลา, ประตูไปไหนก็ได้, ไฟฉาย และอุโมงค์ย่อ-ขยายตัว
รวมถึงหมวกก้อนหินริมทาง, วุ้นแปลภาษา, ปืนใหญ่อัดอากาศ, ตุ๊กตามือสังหาร, สระว่ายน้ำในห้อง, วงดนตรีเพิ่มอารมณ์, ถุงมือตัวตุ่น, เรือดำน้ำผ่านมิติ
บทหนึ่งซึ่งน่าสนใจในดุษฎีนิพนธ์ของ “ดร.โดราเอมอน” ได้มีการสังเคราะห์ “ฐานข้อมูล” ที่ท่านสร้างขึ้น ว่าในปัจจุบัน มี “ของวิเศษโดราเอมอน” ชิ้นใดบ้าง “ที่กลายเป็นเรื่องจริง”
“ของวิเศษโดราเอมอนที่กลายเป็นจริง” จาก “ฐานข้อมูล” ของ “ดร.โดราเอมอน” มีดังนี้
1. เครื่องผลิตการ์ตูน, เครื่องทำนิตยสาร, เครื่องพิมพ์หนังสือด้วยตัวเอง : จากจินตนาการของ “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ” โดยเครื่องจะทำการวิเคราะห์ และประมวลสไตล์การเขียนต่างๆ และสามารถเขียนหนังสือในรูปแบบดังกล่าวออกมาได้
และนี่คือตัวอย่างหนึ่งของ ChatGPT
และ ณ บัดนี้ โลกแห่งความเป็นจริงมี “เครื่องผลิตหนังสือ” ขนาดเล็ก ธุรกิจ Printed on Demand และ ChatGPT เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว
2. เครื่องสอบถาม : แค่ถาม เครื่องก็จะตอบให้ทุกเรื่อง วันนี้เรามี Google และ Siri โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ChatGPT ที่สามารถ Search หาข้อมูลที่เราต้องการได้ทุกเรื่อง
3. โทรศัพท์สร้างภาพ และโทรศัพท์โทรทัศน์ : ด้วยเทคโนโลยี 5 G ทำให้เราเห็นหน้าคู่สนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือแล้วจริงๆ นี่ไม่ใช่การ์ตูน “โดราเอมอน” แต่มันคือความจริง
4. โทรทัศน์ติดผนัง : “โดราเอมอน” วางแผงครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคม ปี ค.ศ.1970 ณ ปีนั้น บ้านไหนมีโทรทัศน์สีดู ก็ถือว่าหรูเลิศ แต่ทุกวันนี้เป็นยุคของ “โทรทัศน์จอแบน” ที่เคยเป็นเรื่องสุดจะจินตนาการจากการ์ตูน “โดราเอมอน” และในตอนนี้ทุกบ้านต่างก็มี “โทรทัศน์ติดผนัง” กันแล้ว
5. เครื่องตรวจสอบเส้นทาง, เครื่องชี้ทาง, ลูกศรบอกทาง, กล้องโพลาแมกซ์ และแผนที่ ใช้ค้นหาสถานที่ต่างๆ บนผิวโลก : เดิมคือ Google Earth และ GPS แต่ปัจจุบันกลายเป็น Google Map
6. กล้องส่องใต้ดิน : มีจริงๆ และช่วยชีวิตคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินได้จริงๆ
7. ไม้หยิบของจากทีวี : ในยุค Online Shopping และ TV Shopping ไม้หยิบของจากทีวี ก็เป็นจริงแล้วเช่นกัน
8. น้ำยาพันธุกรรมสัตว์ และไข่โคลนนิ่ง, เครื่องเพาะเลี้ยงโคลน : เทคโนโลยีการโคลนนิ่งในปัจจุบันนั่นเอง
9. เครื่องกำจัดแมลงระบบปล่อยคลื่นเสียงคุกคาม : มีจริงๆ แล้วเช่นกัน
10. อาหารเหลว : มีขายจริงๆ แล้วจ้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปากกาวิเศษ” ใน “โดราเอมอน” ตอน “ขอคะแนนเต็มสักครั้งในชีวิต” เมื่อ “โนบิตะ” ฝันว่าตนเองสามารถสอบได้คะแนนเต็ม 100 จนกลายเป็นที่สนใจของบรรดานักเรียนหญิงในโรงเรียน
ทว่า เมื่อตื่นนอน “โนบิตะ” กลับพบว่า ไม่เพียงสมองยังว่างเปล่าในวันสอบ แต่เขายังไม่ได้ทำการบ้านเลยแม้แต่ข้อเดียว เรื่องจึงร้อนถึง “โดราเอมอน” อีกครั้ง
“โดราเอมอน” ถอนหายใจ แต่ก็ไม่วายล้วงเอา “ของวิเศษ” จาก “กระเป๋ามิติที่ 4” ที่หน้าท้อง ดึงออกมาเป็น “ปากกาวิเศษ” พร้อมพูดว่า “ปากกาเขียนคำตอบที่ถูกต้องได้ย่างแม่นยำ”
“โดราเอมอน” มอบ “ปากกาวิเศษ” ให้แก่ “โนบิตะ” เพื่อให้เพื่อนรักแสนบื้อ สามารถทำการบ้าน และทำข้อสอบได้อย่างง่ายดาย
หรือแม้แต่การเสนอหน้าไปช่วยพ่อของ “ชิซูกะ” สะสางงานค้างในที่ทำงาน “โนบิตะ” ก็สามารถทำงานของผู้ใหญ่ได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
กลไกการทำงานของ “ปากกาวิเศษ” ที่สามารถ “เขียนคำตอบที่ถูกต้องได้ย่างแม่นยำ” นี้ แม้ว่า “โนบิตะ” จะรู้เรื่องนั้นๆ หรือไม่ก็ตาม แต่ “ปากกาวิเศษ” สามารถเขียนคำตอบออกมาได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ตรงกับ ChatGPT เป็นอย่างมาก เพราะ ChatGPT สามารถรวบรวมข้อมูล ประมวลผล และตอบคำถามต่างๆ ได้อย่างแม่นยำนั่นเอง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022