รายได้-กำไรอสังหาฯ กอดคอจีดีพีร่วง

ความจริงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดฯ รู้สึกอึดอัดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่เป็นไปตามแผนมาตั้งแต่ช่วงกลางๆ ปี 2566 มาแล้ว

แต่มามีตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อมีการสรุปตัวเลขผลประกอบการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าเหนื่อยหืดจับ

รายงานผลประกอบการอสังหาฯ 9 เดือนแรกของปี ถ้าเพียงรายงานว่า บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ใน Top10 บริษัท บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เป็นแชมป์ยอดขายสูงสุด 28,921 ล้านบาท บมจ.แสนสิริ เป็นแชมป์กำไรสูงสุด 2,760 ล้านบาท เท่านั้นคงยังไม่พอ

เพราะตัวเลขรวมของตลาดเปลี่ยนแปลงแบบพลิกความคาดหวังกันเลยทีเดียว

 

ผลประกอบการบริษัทอสังหาฯ 39 รายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 เดือนแรก มีรายได้รวมกัน 234,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.37% กำไรสุทธิ 27,948.14 ล้านบาท ลดลง -6.37% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกปีที่แล้ว 2565

แต่ถ้าเทียบกับไตรมาสไตรมาส 3/2566 กับไตรมาส 3/2565 พบว่า มีรายได้ลดลง -2.9% กำไรสุทธิ ลดลง -19.82%

แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการลดลงของรายได้และกำไรบริษัทอสังหาฯ ปีนี้ลดลงในอัตราที่มากขึ้น

สาเหตุที่รายได้และกำไรอสังหาฯ ทั้งตลาดเป็นเช่นนี้ ถูกเฉลยจากการแถลงของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า 9 เดือนแรกปี 2566 เศรษฐกิจไทย (จีดีพี) เติบโต 1.9% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเดิมที่คาดว่าจะโต 2.5-3.0%

ถ้าดูเป็นไตรมาส ไตรมาส 3 ปี2566 จีดีพีโต 1.5% ชะลอตัวต่ำลงจากไตรมาส 2 ที่มีอัตราโต 1.8%

 

แนวโน้มทิศทางอัตราเติบโตเศรษฐกิจหรือจีดีพีทั้ง 9 เดือน และรายไตรมาส ตรงกับแนวโน้มทิศทางยอดรายได้และกำไรบริษัทอสังหาฯ แบบไม่น่าเชื่อ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะบ้าน คอนโดฯ เป็นสินค้าราคาแพง ผู้ซื้อจะซื้อเมื่อมีรายได้เพียงพอและมั่นใจรายได้อนาคต ทำให้ยอดขายเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้ของประชาชนและรายได้ประชาชาติ (จีดีพี)

แนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้ต้องย้อนกลับไปตั้งคำถามกับข้อสรุปของหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลเศรษฐกิจการเงินประเทศตั้งแต่ต้นปีมา ว่า เศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดแล้ว กำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ นั้นถูกต้องหรือเปล่า

รวมทั้งนักวิชาการในมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งก็เห็นว่า เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งความเชื่อหรือข้อสรุปที่ว่านี้ เป็นเหตุผลที่ออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าไม่เหมาะสม

แนวโน้มเศรษฐกิจและธุรกิจที่เป็นมา 9 เดือน เป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ หรือกำลังตกลงหาจุดต่ำสุดใหม่กัน

 

การเปลี่ยน “โมเมนตัม” ทิศทางเศรษฐกิจจากแนวโน้มปัจจุบันเป็นงานหนักของรัฐบาล

ต้องหาตลาดเพิ่มยอดการส่งออก ต้องกระตุ้นการท่องเที่ยว ต้องผลักดันการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เร็วเป็นไปตามกรอบเวลา ต้องกระตุ้นการบริโภคของประชาชน

สำหรับภาคเอกชนธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้ รายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ (REIC) รายงานว่า ไตรมาส 3/2566 ทั้งจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรที่ดินลดลง, พื้นที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างลดลง และจำนวนหน่วยเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

ภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาฯ ถอย เพื่อรอดูสถานการณ์แล้ว •

 

ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.