ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 ธันวาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว กับการไปเยือนสำนักงานใหญ่ของ “Guangzhou Automobile Group Co., Ltd.” หรือ GAC Group
บริษัทแม่ของไอออน แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาบุกตลาดเมืองไทย
สำหรับ GAC Group ถือเป็นรัฐวิสาหกิจใหญ่ยักษ์ของจีนรายหนึ่ง อายุอานามแค่ 20 กว่าปีเท่านั้น
แต่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการจับมือกับค่ายโตโยต้า และฮอนด้า ผลิตรถเพื่อทำตลาดในจีน
รวมถึงออกแบรนด์ของตัวเองทั้ง AION กับ HYPER ซึ่งผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า
และอีกแบรนด์คือ “TrumpChi” ผลิตและจำหน่ายรถเครื่องยนต์ลูกผสม ขายดิบขายดีในตลาดภายในและตลาดโลก
GAC AION มีรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ 6 รุ่น ประกอบด้วย AION รุ่น S V และ Y
ที่น่าทึ่งกว่าคือ AION LX ที่ถือว่าเปิดเซกเมนต์ใหม่ ด้วยการวิ่งได้ไกลสุด 1,008 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ในปี 2565 GAC Group ขายรถยนต์ในเครือทั้งหมดมากถึง 2.4 ล้านคัน รายได้ราวๆ 2.5 ล้านล้านบาท
รายได้ขนาดนี้พอๆ กับรายได้จากภาษี และอื่นๆ ของไทยตลอดปี 2565 ซึ่งทำได้ 2.53 ล้านล้านบาท

ยิ่งกับ GAC AION ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2017 ผ่านมาแค่ 6 ปี ผงาดขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 2 ของจีน
นับเฉพาะ 5 ปีหลัง มีอัตราเติบโตระดับ 120% อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2565 ไอออน มียอดขาย 271,200 คัน รายได้ 3.87 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท
ในปี 2566 บุกเข้าตลาดไทยและวางเป้าหมาย ใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกด้วย
คาดว่าจะเปิดสายพานการผลิตอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางปี 2567
รวมถึงจะมีรถใหม่อีก 2-3 รุ่นเข้ามาเพิ่มเติม
ในทริปนี้มีโอกาสปะหน้านายหรรษา แซ่ซึ้ง ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำประเทศไทย บอกว่า AION เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานอัจฉริยะมาตรฐานระดับโลก ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ลูกค้ามั่นใจ และไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของ AION
ปัจจุบัน AION ประเทศไทยอนุมัติสร้างศูนย์บริการมากกว่า 30 ศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง
คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2567

หลังออกจากโรงงานมีโอกาสได้นั่งรถทดสอบในสนาม
รถยนต์หลายรุ่นที่น่าสนใจ ทั้ง AION LX Plus และ V Plus รวมถึง Hyper GT
เพราะไม่ได้ขับเองจึงขอละเอาไว้ แต่กระซิบไว้ตรงนี้ว่า AION LX Plus แรงจริง ไวจริง
ไฮไลต์ของช่วงนี้อยู่ที่การโชว์เทคโนโลยีช่วยจอดของ AION V Plus สั่งงานผ่านสมาร์ตโฟน
ก่อนเริ่มทำงานผู้ขับขี่ต้องขับรถจากจุด “A” ไปยังจุด “B” ซึ่งเป็นที่จอด จากนั้นขับกลับมายังจุด “A” อีกครั้ง เพื่อให้ระบบจดจำเส้นทาง
เมื่อกำหนดจุดเรียบร้อย ครั้งต่อไปผู้ขับขี่สามารถขับมาจอดที่จุด A แล้วเปิดระบบให้รถขับไปจอดยังจุด B ได้เอง
เมื่อต้องการใช้รถ ไม่จำเป็นต้องไปยังลานจอด เพียงมารอที่จุด A แล้วเปิดระบบให้รถขับมาหาตัวเองได้เลย
เหมาะกับคนที่มีจุดจอดรถประจำ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดฯ หรือสำนักงาน
โดยผู้ขับขี่อาจกำหนดจุด A เป็นหน้าสำนักงาน หรือหน้าคอนโดฯ เพิ่มความสะดวกมากขึ้น
ระหว่างทางไม่ต้องกังวลว่ารถจะไปเฉี่ยว หรือชนกับสิ่งกีดขวาง เพราะมีระบบอัตโนมัติ ใช้เลเซอร์บริเวณกระจกหน้า และกล้องรอบคันช่วยตรวจสอบ
การแสดงครั้งนี้จำลองเหตุการณ์กรณีคนเดินตัดหน้า รถจะเบรกอัตโนมัติ จากนั้นค่อยเคลื่อนตัวมายังจุดที่กำหนดไว้
รัศมีทำการอยู่ในระยะ 150 เมตร
จากนั้นเดินทางต่อไปยังศูนย์ “R&D” ซึ่งใหญ่โตโอฬาร เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ
โดยเฉพาะการขับขี่อัตโนมัติไร้คนขับ “ADIGO PILOT”
ล่าสุด GAC สามารถผลิตรถแท็กซี่ไร้คนขับ ให้บริการในกว่างโจวแล้วราว 60 คัน
ขณะเดียวกันยังศึกษาและพัฒนาระบบขับขี่ไร้คนขับอย่างต่อเนื่อง
มีรถ 3 คันแล่นทดสอบอยู่บนนถนนจริงๆ โดยแต่ละคันมีผู้ควบคุมนั่งไปด้วยเพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมาย
แต่ผู้ควบคุมไม่ได้บังคับ หรือจับพวงมาลัย ปล่อยให้รถขับเคลื่อนอย่างอัตโนมัติไปเอง
ทั้งวิ่ง เบรก เลี้ยว เปลี่ยนเลน หรือกลับรถ
ขณะที่ในศูนย์มีระบบสั่งการทางไกล อารมณ์คล้ายเล่นเกมขับรถ มีคนคอยดูแลอยู่อีกชั้น
หากเกิดปัญหากับระบบอัตโนมัติ ชั้นแรกผู้ดูแลยู่ในรถจะเข้าควบคุมทันที และหากผู้ดูแลเกิดปัญหาขึ้น ระบบสั่งงานทางไกลที่มีวิศวกรดูแลอยู่จะเข้าควบคุมแทน
ทีมงานระบุว่าระบบนี้เหมือนตัวช่วยผู้ขับขี่ให้สบายขึ้น แต่ไม่ได้เข้ามาทดแทนโดยตรง
อารมณ์คล้ายๆ หากขับรถทางไกลนานๆ เบื่อๆ ก็เปิดให้ระบบอัตโนมัติทำงานเอง โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องควบคุมโดยตรง
หรือหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน จนผู้ขับขี่ไม่อาจควบคุมความเสียหายได้ 100%
ระบบอัตโนมัติจะช่วยหักหลบหรือจอดเข้าข้างทางเพื่อความปลอดภัย

สุดท้ายกับการโชว์นวัตกรรมรถบินได้ในชื่อ “GO-VE” (โกวี่)
เป็นรถที่สามารถแยกห้องโดยสารออกจากตัวถังได้
รูปลักษณ์เหมือนรถที่ขนาดแบนๆ หน่อย ห้องโดยสารนั่งได้คนเดียว หลังคามีใบพัด 6 ชุดยื่นออกมาล้อมรอบ คล้ายๆ “โดรน”
เวลาใช้งานขับขี่บนถนนได้เหมือนรถทั่วไป แต่หากเจอสภาพจราจรติดขัด สามารถแยกร่างเฉพาะห้องโดยสารบินขึ้นฟ้าไปยังจุดหมาย
ขณะที่ตัวรถซึ่งควบคุมด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ จะแล่นต่อบนถนน มุ่งไปยังจุดจอด หรือจุดชาร์จที่กำหนดไว้
เมื่อเสร็จธุระปะปัง ผู้ขับขี่บังคับห้องโดยสารบินกลับมารวมร่างกับตัวถังได้เหมือนเดิม
ขอบอกว่านี่ไม่ใช่แค่ต้นแบบธรรมดา แต่ทดลองใช้จริงมาแล้ว
ในอนาคตคนจีนคงได้ใช้กันแน่
เป็นอันจบทริป เยือนบ้านเกิด “GAC AION” ที่ “กว่างโจว” ด้วยความประทับใจกับเทคโนโลยีฮเทคของแบรนด์รถยนต์จีน
ที่บอกเลยว่าล้ำหน้าอย่างเหนือชั้นจริงๆ •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022