กก.มมน. ก้าวไกล ไม่มั่นคงภายใน

ภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินมาเกิน 2 เดือน เกิดคำถามข้อวิจารณ์เชิงนโยบายมากมายต่อพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเมือง การปฏิรูปกองทัพ การยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่นโยบายทางเศรษฐกิจเรือธงอย่าง แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ยังไม่มีความชัดเจน

ล่าสุด คือเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ที่เถียงกันในระดับนิยาม ที่ผู้คนมีความรู้สึกว่าแกนนำเพื่อไทยนำมาพูดอ้างกันจนเกร่อ ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง

ในความวุ่นวายทาง “การข่าว” ที่มีต่อเพื่อไทยนั้นเพื่อไทยเองก็ต้องขอบคุณอดีตพรรคพันธมิตรซึ่งปัจจุบันเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันอย่าง “พรรคก้าวไกล” ที่วันนี้ผลิตข่าวฉาวระดับมหากาพย์เรื่องปัญหาการคุกคามทางเพศและการใช้ความรุนแรงต่อสตรีออกมา

ช่วยลดเสียงวิจารณ์รัฐบาลเพื่อไทยไปได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

 

ต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพรรคก้าวไกลมีการลงมติ กรณี 2 ส.ส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ หลังผลสอบสวนของคณะกรรมการวินัยชุดพิเศษออกมาชี้ว่า มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยพรรคร้ายแรง

ที่ประชุมออกมาว่า กรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ส่วนกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กรุงเทพฯ เสียงส่วนใหญ่ 106 จาก 128 เสียง เห็นควรให้ขับออกจากสมาชิกพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคที่มีทั้งหมด จึงไม่สามารถมีมติขับออกจากพรรคได้ ให้ตัดสิทธิพึงมีและคาดโทษตลอดสมัยประชุม

หลังการลงมติ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะ ส.ส.หญิง ต่างออกมาแสดงความผิดหวังและไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับนักวิชาการ ประชาชนในโลกออนไลน์ต่างส่งเสียงตรงกัน ว่ารับกับมติดังกล่าวไม่ได้

สัปดาห์ต่อมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ ส.ส.ของพรรค จึงมีการประชุมอีกครั้ง และมีมติเอกฉันท์ 128 เสียง ขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ฐานผิดวินัยร้ายแรง

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ระบุว่า การแถลงของนายไชยามพวานไม่ยอมรับผิด ซ้ำเติมผู้เสียหาย และเปิดข้อมูลเหยื่อจนครอบครัวรับรู้

 

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พรรคก้าวไกลก็มีข่าวอื้อฉาวเรื่องคุกคามทางเพศและทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว กระทั่งมีมติขับไล่อดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ รวมถึงคาดโทษ ส.ส.อีกราย กรณีทำร้ายร่างกายแฟนสาว

ไม่นับกรณี ส.ก.กรุงเทพฯ จากกรณีล่วงละเมิดทางเพศจนถูกบีบให้ลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล

ทั้งหมดล้วนสร้างภาพด้านลบให้พรรคก้าวไกลอย่างหนักในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ลามไปกระทั่งมีการแฉเรื่องทุจริตเรียกรับเงินบ่อขยะ ซับซ้อนวุ่นไปอีก

เรื่องราวที่ก้าวไกลเจอ จึงสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของพรรคเต็มๆ

สะท้อนความไม่มั่นคงภายในพรรคอย่างหนัก

 

คําถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมพรรคก้าวไกลที่ชูอุดมการณ์ความเท่าเทียม ความหลากหลายทางเพศ เชิดชูแนวคิดสิทธิตลอดการหาเสียง ถึงได้มีผู้สมัครและ ส.ส.ของพรรค ซึ่งอายุไม่มากกลับทำพฤติกรรมเช่นนี้เสียเอง รากฐานของปัญหาทางความคิดคืออะไร?

โลกวิชาการเรียกแนวคิดที่เป็นรากฐานสำคัญของปัญหาความรุนแรงและความไม่เท่าเทียมทางเพศปัจจัยสำคัญหนึ่งว่ามาจาก ปิตาธิปไตย หรือแนวคิดแบบชายเป็นใหญ่ (Patriarchy)

จะเข้าใจเรื่องนี้แบบง่ายๆ ก็คือ สังคมดั้งเดิมมีรูปแบบการจัดระเบียบสังคมที่มีรากฐานมาจากความไม่เท่าเทียมทางเพศ ลักษณะของความเป็นชายจะถูกจัดลำดับให้สำคัญกว่าเพศกำเนิดหญิง

แนวคิดปิตาธิปไตยถือเป็นผลผลิตทางสังคม เป็นการสร้างบรรทัดฐานและบทบาททางเพศต่างๆ กระทั่งนำไปสู่การเหมารวม บุคคลต้องปฏิบัติตามกรอบ บรรทัดฐานทางเพศ และบทบาททางเพศ

ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ชายสำคัญกว่า เหนือว่าหญิง

ซึ่งความคิดตามกรอบบทบาททางเพศเช่นนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นหนึ่งในรากของปัญหาความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ จนถึงการคุกคามทางเพศนั่นแหละ

อันที่จริงเรื่องคุกคามทางเพศ ปัญหาจากวิธีคิดปิตาธิปไตย เป็นปัญหาระดับโลก ในประเทศประชาธิปไตยสูงๆ ก็ยังเจอเรื่องราวเหล่านี้ เป็นปัญหาทางการเมืองของนักการเมืองระดับโลกในอดีตจำนวนมาก

ซึ่งจนถึงวันนี้เรื่องการคุกคามทางเพศ การเคารพในสิทธิผู้อื่นโดยไม่จำกัดเพศ ต้องตกผลึกทางความคิดได้แล้ว หากจะอ้างความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่-การเมืองยุคใหม่

แต่ก็อย่างว่า แม้แต่ในขบวนการการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเองก็มีปัญหานี้แทรกซึมอยู่ ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็เคยเตือนนักการเมืองก้าวไกลเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาแล้ว

การที่พรรคก้าวไกลอ้างเรื่องการเมืองใหม่ แต่การเมืองเรื่องจริยธรรมเบื้องต้นอย่างการคุกคามทางเพศ ลิดรอนสิทธิเนื้อตัวร่างกาย กลับไม่สามารถจัดการได้ หรือมีแอ๊กชั่นตอบโต้ที่เป็นไปอย่างล่าช้า ก็นำมาสู่คำถามตัวโตๆ

 

ย้อนกลับไปในขบวนการประชาธิปไตยของไทยเอง ก็มีปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง เป็นข่าวดังตั้งแต่การเคลื่อนไหวปี 2563 หลายกรณี มีทั้งกรณีที่เปิดเผย และไม่เปิดเผย จนกลายเป็นเหยื่ออันโอชะ ให้ไอโอหรือฝ่ายตรงข้ามนำไปทำปฏิบัติการจิตวิทยาอยู่บ่อยครั้ง

แน่นอน การแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าจะสู้เรื่องความเสมอภาค เท่าเทียมเรื่องเพศ ต้องเริ่มจากการเข้าใจวิธีคิดเรื่องปิตาธิปไตย ว่าเป็นรากฐานของปัญหาสังคมและสิทธิผู้อื่นก่อน

ต้องยอมรับว่าวันนี้ภาพลักษณ์พรรคก้าวไกลเสียหาย ติดลบค่อนข้างมาก มีบุคลากรชายในพรรคหลายคน ตั้งแต่ระดับแกนนำ ส.ส.จังหวัดใหญ่ ไปจนกระทั่งอดีตผู้สมัคร ส.ส. หรือบุคลากรท้องถิ่นอย่างสมาชิกสภา กทม. เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

การทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง การแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ทั้งหมดเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ในทางการเมือง สร้างการเรียนรู้ร่วมกันในสังคม และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมการเมืองในบรรดานักการเมืองของประเทศไทยนั่นเอง

 

นอกจากความไม่มั่นคงภายในอันเกิดจากคนในพรรคก้าวไกลเอง อย่าลืมว่าวันนี้ก้าวไกลกำลังเจอกับคู่แข่งทางการเมือง ที่จับมือกับศัตรูทางการเมืองของพรรคก้าวไกลและอดีตพรรคอนาคตใหม่ รุมถล่มเล่นงานอยู่

วันนี้ชัดแล้วว่าฝ่ายอนุรักษนิยม เครือข่ายจารีตนิยมไทย ที่ยึดกุมอำนาจทางการเมืองผ่านขั้วอำนาจเก่าในรัฐบาล คสช. มีศัตรูเพียงฝ่ายเดียวคือพรรคก้าวไกล

ขณะที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ก็พลิกกลับมาจับมือขั้วอำนาจเก่าตั้งรัฐบาล หันปลายกระบอกปืนใส่พรรคก้าวไกลอีกแรง ก้าวไกลวันนี้จึงเจอทั้งศัตรูเดิมและอดีตพันธมิตร รุมถล่มเล่นงาน

ดูจากปฏิบัติการสีดาลุยไฟ บุกทำกิจกรรมประณามพรรคก้าวไกลกรณีคุกคามทางเพศ หรือปฏิบัติการของเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ที่มียอดติดตามเกินแสนคน ภายในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งสะท้อนการทำงานอย่างเป็นระบบและเข้มข้นยิ่งขึ้น

จึงชัดเจนว่าวันนี้ก้าวไกลถูกถล่มจากทุกช่องทาง ชะตากรรมของพรรคแขวนบนเส้นด้าย องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.อย่างศาลรัฐธรรมนูญ ก็เตรียมพิจารณาตัดสินชี้ขาดอนาคตการเมืองของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รวมถึงพรรคก้าวไกล จากกรณีถือหุ้นไอทีวี และกรณีล้มล้างการปกครองด้วยในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

 

ในด้านผลงาน วันนี้ก้าวไกลก็ยังทำงานในสภาได้ยังไม่เข้าตา หลายกฎหมาย หลายวาระที่นำเสนอไม่ได้ถูกตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีนิรโทษกรรม การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ การทำประชามติ การจัดการกับหน่วยงานเร้นรัฐอย่าง กอ.รมน. ล้วนไร้การตอบสนอง

หวังว่า ชัยธวัช ตุลาธน ซึ่งประธานสภาฯ ได้นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะทำงานอย่างจริงจัง ไม่เบาหวิวเหมือนกรณีลงมติขับไล่ ส.ส.คุกคามทางเพศของพรรค

เพราะหากจะสร้างการเมืองใหม่ ก็ต้องอิงกับการเมืองสากล ประชาธิปไตยสากล อย่าไปอิงกับมาตรฐานการเมืองเก่า

อนาคตของพรรคก้าวไกลวันนี้ นอกจากถูกเล่นงานทางการเมือง เจอ “ภัยความไม่มั่นคงจากภายนอก” ยังต้องรับมือกับ “ภัยความไม่มั่นคงภายใน” ที่คนในก่อกันขึ้นมาเอง

กระแส ยุบ กอ.รมน. ที่พรรคก้าวไกลต่อสู้มายาวนาน และถูกพูดถึงอย่างมากในวันนี้ แน่นอนว่ายังมั่นคงอยู่อย่างมากในวันนี้ เพราะรัฐบาลเพื่อไทยประกาศชัดเจนไม่คิดจะแตะต้อง

กลับกัน สถานการณ์พรรคก้าวไกล คู่ปรับ กอ.รมน. ดูวันนี้ไม่ค่อยมั่นคงชอบกล นอกจากถูกฝ่ายอนุรักษนิยมเล่นงาน คนในพรรคเองยังสร้าง “ความไม่มั่นคง” ให้เกิดขึ้นเสียอีก