การ์ตูนที่รัก นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ / Lost World

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Lost World

มังงะ Lost World, Metropolis และ Next World (หรือ Future World) เป็นหนังสือการ์ตูน 3 เล่มที่ โอซามุ เท็ตซึกะ (Osamu Tezuka 1928-1989) เขียนขึ้นระหว่างทศวรรษที่ 1940-1950

สำหรับ Lost World โลกที่สาบสูญ เปิดมาหน้าแรก ชายคนหนึ่งยิงชายอีกคนหนึ่งตาย จากนั้นควักลูกตาของคนตายออกมาข้างหนึ่ง จะเห็นว่ามังงะมิใช่การ์ตูนดิสนีย์ตั้งแต่รุ่งอรุณของการ์ตูนญี่ปุ่น การฆ่ากันตายพบเห็นได้ทั่วไป

ที่แท้มิใช่ลูกตาที่ถูกควักออกมา เป็นอัญมณีชิ้นหนึ่ง คือศิลาพลังงาน

เสียงปืนที่ดังขึ้นชักนำให้นักสืบคนหนึ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ เขาคือนักสืบหนวดมัสตะชิโอ อันจะเป็นตัวละครตลอดกาลตัวหนึ่งในการ์ตูนของโอซามุนับจากนี้ มัสตะชิโอพบกระต่ายพูดได้ชื่อมิมิโอะ มิมิโอะอาสาพาเขาไปพบเจ้าของสถานที่แห่งนี้คือ ดร.ชิกิชิมะ

มัสตะชิโอถามมิมิโอะว่าทำไมกระต่ายพูดได้ มิมิโอะตอบว่าชิกิชิมะได้ผ่าตัดเอาสมองของเขาออกมาแล้วปรับเปลี่ยนให้เป็นสมองมนุษย์ก่อนที่จะใส่กลับเข้าไปใหม่ สัตว์ต่างๆ ที่นี่จึงเดินได้และพูดได้

แต่มิใช่สัตว์ต่างๆ จะพูดได้ชั่วข้ามคืน สถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนสัตว์ด้วย หลังการผ่าตัดแล้วสัตว์ยังต้องฝึกฝนการยืนสองขา การพูด ละทิ้งสัญชาตญาณสัตว์ ให้มีกิริยามารยาทและรู้ธรรมเนียมปฏิบัติแบบมนุษย์

มัสตะชิโอพบชิกิชิมะ ที่แท้ชิกิชิมะเป็นเด็กหนุ่มอายุยังน้อยมาก แวดล้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์แก่ๆ หลายคนเป็นทีมงาน ชิกิชิมะเชิญมัสตะชิโอเข้าไปห้องปฏิบัติการด้านใน

มัสตะชิโอสอบสวนชิกิชิมะเรื่องดวงตาของผู้ตายที่หายไป คนตายเป็นนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ทำงานกับชิกิชิมะ ชิกิชิมะเล่าเรื่องดาวเคราะห์มะมังโงะให้ฟัง

ดาวเคราะห์มะมังโงะเป็นดาวเคราะห์น้อยที่หลุดออกไปจากโลกตั้งแต่โบราณกาล และจะโคจรกลับมาใกล้โลกทุกๆ ห้าล้านปี เชื่อกันว่าดาวมะมังโงะมีบรรยากาศเช่นเดียวกับโลกและน่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ดาวมะมังโงะจะเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 4 เมษายน เวลาสามนาฬิกาสามสิบนาทีสามสิบวินาที มีประกาศจากสมาคมดาราศาสตร์จะให้รางวัลแก่ผู้ค้นพบเรื่องราวที่น่าสนใจมากที่สุดเกี่ยวกับดาวแฝดของโลกในการมาเยือนครั้งนี้

คืนหนึ่ง ระหว่างที่ชิกิชิมะใช้กล้องดูดาวสังเกตความเป็นไปของมะมังโงะ มีสะเก็ดดาว 7 ดวงพุ่งจากมะมังโงะมายังโลก!

ชิกิชิมะเดินทางไปสำรวจบริเวณที่สะเก็ดดาวตก เขาพบหิน 7 ก้อน ซึ่งให้พลังงานมหาศาลเมื่อเร่งปฏิกิริยา มันคือศิลาพลังงาน และเป็นไปได้ว่ายังมีศิลาพลังงานอีกมากบนดาวมะมังโงะ

ระหว่างที่มัสตะชิโอนั่งคุยอยู่กับชิกิชิมะนั่นเอง มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายนักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งแล้วชิงศิลาพลังงานไปได้อีก 1 ชิ้น

บัดนี้เหลืออีก 5 ชิ้นที่เก็บอยู่กับชิกิชิมะเอง

คนร้ายที่เข้ามาชื่อ ฮอลล์ มันมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับนักสืบมัสตะชิโอ มันจึงปลอมตัวเป็นมัสตะชิโอเข้าออกนอกในตามสะดวกแล้วชิงเอาศิลาอีก 5 ก้อนไปจากชิกิชิมะสำเร็จ ในขณะเดียวกันมัสตะชิโอกลับถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้าใจว่าเป็นตัวปลอมสาดกระสุนระดมยิงฝุ่นฟุ้งกระจุย

หลายหน้าถัดจากนี้เป็นการตามล่าและช่วงชิงศิลาพลังงานระหว่างฮอลล์และมัสตะชิโอในสภาพบาดเจ็บอย่างชุลมุน คือยุคเริ่มต้นของการ์ตูนของโอซามุ เราจะไม่ได้เห็นฉากการต่อสู้ที่วุ่นวายติดต่อกันหลายๆ หน้าแบบนี้อีกในระยะหลังเมื่อประเด็นเนื้อหาของการ์ตูนยุคหลังเข้มข้นขึ้นอย่างมาก และมีความเป็นปรัชญามากยิ่งขึ้น

มัสตะชิโอในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บไปพบรังลับของเหล่าร้ายโดยบังเอิญ เขาต้องต่อสู้กับเหล่าร้ายหน้าตาช่างร้ายเสียจริงถึงห้าคนพร้อมกันรวมทั้งฮอลล์ที่ยังไม่ตาย ครั้งนี้ฮอลล์อาศัยพวกมากซ้อมเขารากเลือดเพื่อรีดเอาศิลาทั้ง 7 คืนแต่ก็หาไม่พบ เพราะที่แท้แล้วกระต่ายพูดได้มิมิโอะซึ่งซ่อนตัวไปมาอยู่ตลอดเวลาได้ชิงเอาศิลาไปเก็บไว้กับตัวก่อนแล้ว

อีกหลายสิบหน้านับจากนี้ มิมิโอะพามัสตะชิโอหลบหนีการไล่ล่าของเหล่าร้าย จบครึ่งเล่ม

มิมิโอะและมัสตะชิโอหนีกลับมาที่ศูนย์วิจัยของชิกิชิมะโดยปลอดภัย มัสตะชิโอต้องนอนพักฟื้นในสภาพพันแผลไว้เต็มตัว ระหว่างพักฟื้นนี้เองเขาได้พบกับ ดร.บุตาโนะ

ขณะที่ชิกิชิมะเป็นเด็กหนุ่มที่ทำการทดลองเปลี่ยนสมองสัตว์เป็นสมองมนุษย์ บุตาโนะเป็นคนมีอายุที่กำลังทำการทดลองสร้างพืชอัจฉริยะ คือพืชที่มีสมองและคิดวิเคราะห์ได้แบบมนุษย์ บุตาโนะประสบความสำเร็จขั้นแรกแล้ว ขั้นต่อไปที่เขาจะทำคือสร้างมนุษย์พืช!

บุตาโนะพามัสตะชิโอไปชมแม่พิมพ์มนุษย์พืชสองคนแรก ซึ่งจะเป็นฝาแฝดหญิงชื่ออายะเมะและโมมิจิ

“ทำไมต้องเป็นผู้หญิง” มัสตะชิโอซัก

“ในเมื่อพืชแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้มากมาย จะมีอะไรที่เหมาะไปกว่าให้มนุษย์พืชเป็นผู้หญิง” บุตาโนะตอบ

แต่เราจะได้ล่วงรู้ในเวลาต่อมาว่าบุตาโนะใช้สาวน้อยทั้งสองเป็นเครื่องบำเรอกามด้วย!

บอกแล้ว มังงะมิใช่การ์ตูนสำหรับเด็กเสมอไป

ครึ่งหลังของหนังสือเป็นเรื่องชิกิชิมะ มัสตะชิโอและมิมิโอะนำทีมนักวิทยาศาสตร์รวมทั้งบุตาโนะ อายะเมะและโมมิจิขึ้นจรวดออกเดินทางไปดาวมะมังโงะเพื่อตามหาแหล่งศิลาพลังงาน

พวกเขาไม่รู้ว่ามีเหล่าร้ายแอบซ่อนมากับจรวดด้วย นั่นทำให้น้ำหนักเกินไปมากมายสิ้นเปลืองพลังงานไม่พอยังมีเสบียงที่หายไป การสำรวจจึงจบลงด้วยความอดอยากอย่างรุนแรง ต้องปันส่วนอาหาร แล้ววันหนึ่งอายะเมะก็หายตัวไป มีเศษใบไม้ตกอยู่ตามพื้น!

ครึ่งหลังนอกจากเรื่องศิลาพลังงานแล้ว เนื้อหาจึงเริ่มล้ำลึกมากขึ้นมาถึงเรื่องการล่วงละเมิดสตรีและการกินเนื้อสตรี ก่อนที่จะค้นพบชีวิตดึกดำบรรพ์บนดาวเคราะห์มะมังโงะ

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายบนดาวมะมังโงะนำมาซึ่งตอนจบที่น่าทึ่ง