จดหมาย

จดหมาย | ประจำวันที่ 20-26 ตุลาคม 2566 

 

• ให้เงินเพื่อคนจน

ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์และการเงิน เข้าใจถึงความกังวลของนักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ และภาคเอกชนที่ออกมาเตือนและให้คำแนะนำรัฐบาลในการทำนโยบายแจกเงินดิจิทัล

และเข้าใจถึงความต้องการของประชาชนที่อยู่ในสภาพลำบากทางเศรษฐกิจและมีปัญหาหนี้สิน

ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องการให้รัฐบาลแจกเงินช่วยเหลือในช่วงนี้

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรรับฟังข้อคิดเห็นอย่างรอบด้านและนำมาปรับปรุงการทำนโยบายให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดประโยชน์สูงสุด

จึงขออนุญาตเสนอแนวทางที่ยังไม่มีใครพูดถึงมาก่อนคือ อาจจะทำการปรับนโยบายเป็นแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็น 5,000 บาทแรกให้ฟรี

ส่วน 5,000 บาทที่เหลือเป็นวงเงินหมุน หรือวงเงิน OD ดอกเบี้ยต่ำ ปลอดดอกเบี้ย 1-2 ปีแรก

ซึ่งจะทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณลงได้ แต่ยังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงระดับเดิม และไม่สร้างผลกระทบด้านความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลังมากเกินไป

ขณะที่ประชาชนยังมีวงเงินใช้ 10,000 บาท แต่จะใช้เงินเพื่อสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น หรือเลือกใช้เพื่อการลงทุนทำธุรกิจหารายได้ และหากมีกำลังใช้หนี้คืนได้

อนึ่ง อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ได้สำรวจเรื่อง “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2566 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2566”

ในการสำรวจครั้งนี้ มีการสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า ท่านคิดว่านโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ควรมีเงื่อนไขการใช้เงินอย่างไร

พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าควรแจกเงินหมื่นดิจิทัลให้ทุกคน

กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง หรือร้อยละ 57.7 ระบุว่าให้ใช้ที่ไหนก็ได้

รองลงมาร้อยละ 32.2 ระบุว่าให้ใช้ได้ภายในจังหวัด

ตามมาด้วยร้อยละ 7.4 ระบุว่าให้ใช้ได้ภายในอำเภอ

และมีเพียงร้อยละ 2.7 ระบุว่าให้ใช้ได้ภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ตามทะเบียนบ้าน

ส่วนผลสำรวจ “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2566 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2566”

พบว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม-กันยายน 2566) เท่ากับ 32.3 เต็ม 100 อยู่ในระดับแย่ ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนซึ่งมีค่า 32.8

อย่างไรก็ตาม คะแนนผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก 27.8 เป็น 31.6

และคาดว่าดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 4/2566 (ตุลาคม-ธันวาคม 2566) จะเท่ากับ 33.7 ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566

รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์

หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล

 

ขออนุญาตเรียบเรียงเนื้อหาที่ส่งมาจาก “ทีมงานอีสานโพล” ใหม่

โดยเน้นไปที่เนื้อหา “การแจกเงินดิจิทัล”

ซึ่งเป็นข้อเสนอของนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ในภาคอีสาน

ที่แม้สัมผัสกับฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย

แต่ก็ไม่ได้เห็นพ้องกับโครงการนี้ทั้งหมด

หากมีข้อเสนอและมุมมองที่แตกต่าง

ซึ่งรัฐบาลที่ต้องการเสียง “เชียร์” เป็นกำลังใจ

คงจะต้องรับฟัง และปรับจูน เพื่อที่จะผลักดันนโยบาย “ธงนำ” นี้

ให้เดินหน้าต่อไปให้ได้

แน่นอน ไม่ใช่เรื่องง่ายและนับวันจะร้อนแรงขึ้น

และที่สำคัญ รัฐบาลคงจะต้อง “ตั้งหลัก” โครงการให้ได้โดยเร็ว

เพราะกระแสที่ไม่เห็นด้วย ที่เกิดขึ้นมากมายตอนนี้

ส่วนหนึ่งมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายเอง

ซึ่งหากได้ความชัดเจนโดยเร็ว

คงทำให้ความสงสัยลดลง

แต่ถึงขนาดจะให้หายสงสัยเลยนั้นคงยาก

เพราะอย่างที่ว่า โครงการเงินดิจิทัล 10,000 นี้

ได้ทวีความดุเดือดจากประเด็นเศรษฐกิจ

ไปสู่ประเด็นการเมือง เรียบร้อยแล้ว

โดยมีเดิมพัน

ถึงอนาคตของพรรคเพื่อไทยอย่างสำคัญ

• มอบเงินให้คนด้อยโอกาส

7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก

ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) บริษัท เหล็กแผ่นรีด เย็นไทย จำกัด (มหาชน) (TCRSS) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด (NS Blue Scope) บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด (NS-SUS) บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (JSGT) บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (GSteel) และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) (GJS)

ร่วมมือกันจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอน 2023 (ครั้งที่ 15) เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2566 ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กทม. มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 1,200 คน

เพื่อมอบรายได้จากการจัดงาน โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ให้มูลนิธิ หน่วยงาน สถาบันการศึกษาที่ดำเนินงานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ 22 องค์กร จำนวน 3,200,000 บาท

อนึ่ง กิจกรรมฅนเหล็กมินิมาราธอน ที่จัดงานมาแล้ว 15 ครั้ง ได้มอบรายได้ช่วยเหลือองค์กรที่ดูแลและพัฒนาศักยภาพผู้ด้อยโอกาสรวมแล้วกว่า 37.2 ล้านบาท

สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารกลุ่ม

บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี

 

ผลิตเหล็ก แข็งๆ แกร่งๆ

แต่ก็มีกิจกรรมอ่อนโยน

ช่วยคนด้อยโอกาสมาต่อเนื่อง

ซึ่งต้องช่วย “เชียร์” กันหน่อย

และ “เชียร์” ด้วยความสบายใจ

เพราะเป็นการให้แบบการกุศล

ไม่ได้มีเงื่อนไขอันร้อนระอุ

เหมือนการให้เงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นของรัฐบาล

ที่แม้ใครจะว่าเป็น “รัฐบาลเหล็ก”

แต่ก็อาจเจอไฟหลอมให้ละลายได้

ถ้าบริหารจัดการไม่ดี! •