แดดไม่ร่ม ลมไม่ตก

พิชัย แก้ววิชิต

ผ่านไปในความรู้สึก ความอึมครึมในบรรยากาศได้เข้าปกคลุม ทำให้ผมอดที่จะละความคิดและเพิกเฉยกับความรู้สึกร่วมด้วยไม่ได้

การใช้ชีวิตอยู่ร่วมด้วยสังคมเดียวกัน บนโลกใบเดียวกันนี้ เรื่องราวของความสูญเสียจากผลลัพธ์อันเป็นลบ ความขัดแย้งทั้งในระดับประเทศ และความขัดแย้งในใจตน นำพามาซึ่งการใช้ความรุนแรงที่อาจเป็นคนใกล้ตัวและไกลตัว คนที่รักและคนที่ไม่รัก

อยากเริ่มต้นเขียนในแบบที่โลกสวย แต่มันก็ยากที่จะละและเลยผ่านไปในแบบที่ไม่สนโลก ดูจะไม่ถนัดนัก

ท้ายที่สุดคงต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกเล่าความรู้สึกนึกคิด ในฐานะคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง

และก็เชื่อว่า เราทุกๆ คนก็รู้สึกไม่ต่างกัน กับความสูญเสียของบุคคลอันเป็นที่รัก ไม่ว่าชาติหรือภาษาใดก็ตามที

ไม่ว่าชาติหรือภาษาใดก็ตามที

 

ในเมื่อ “แดดยังไม่ร่ม ลมยังไม่ตก” ความสบายดีจริงๆ ยังมาไม่ถึง กับเวลาชีวิตที่ยังมีจึงจำต้องออกเดินตามหาความสบายดีตามอัธยาศัยจากสิ่งพึงมีพึงได้ กับในวันที่โลกภายในใจยังพอมีอยู่ และยังจะมีความ “ใจดีสู้เสือ” อยู่บ้างให้พอเพลินเจริญใจ เมื่อมีโอกาสได้หาให้ตัวเอง

พระอาทิตย์บนท้องฟ้าขยับย้ายตำแหน่งตั้งแต่รุ่งเช้าไปตามช่วงของวัน ถึงตอนนี้ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆ พระอาทิตย์ตั้งตรงหัวเป๊ะที่12 นาฬิกา เงาจากแสงแรงๆ มองเห็นเป็นแนวตรงไม่เฉไฉ เป็นไปตามเงื่อนไขของธรรมชาติในแบบที่ไว้ใจได้

แสงแดดจ้าสาดส่องมาดับความร้อนรนของชีวิต จนเกิดแรงขับเคลื่อนให้เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ กับย่างก้าวไร้แรงเฉื่อยเหนื่อยหน่าย

จะรู้สึกอีกทีก็คงเป็นเพราะความอ่อนแอทางกายภาพที่ธรรมชาติจะมาแจ้งเตือนรัวๆ แต่พองามเพื่อไม่ให้เดินเกินพอดี

แม้ว่าในวิถีทางจะมีความหยาบกระด้างรายล้อมอยู่บ้างเป็นระยะ แต่เพื่อความอยู่รอดในความรู้สึก มันก็จะมีอยู่บ้างกับความละมุนละม่อมทางอารมณ์ที่นึกมโนเอาเอง “การสร้างเงื่อนไขให้ความเป็นอิสระแก่ใจตน” เพื่อให้ใช้ชีวิตได้ง่ายเข้า ในแบบไม่ยากนักตามใครเขาบอก

แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลา “ที่แดดไม่ร่ม ลมไม่ตก” ก็ตามที

แม้ว่าในวิถีทาง จะมีความหยาบกระด้างรายล้อมอยู่บ้างเป็นระยะ แต่เพื่อความอยู่รอดในความรู้สึก มันก็จะมีอยู่บ้างกับความละมุนละม่อมทางอารมณ์ที่นึกมโนเอาเอง / เทคนิค : F.8 1/2000s ISO 200 / สถานที่ : ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ

เมื่อเดินมาแล้วพอสมควร กับสิ่งที่เห็น ไร้สายลมเย็นแต่เพราะมีแดด เพราะร้านยังปิด จึงเปิดโอกาสให้กับผมได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า “ภาพเป็นจริงในใจตน” จินตนาการที่ไม่เคยมืดสนิทนานของผม ยังคงเป็นที่พึ่งได้เสมอมา ราวกับเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของชีวิต

ถึงตอนนี้ร้านค้าเล็กๆ ได้หายไป กลายเป็นผืนภาพที่ถูกวาดด้วยแสงเงาและฉาบทาอยู่ด้วยสีสันในแบบที่เขาเป็น

โลกภายในใจของผมไร้แล้งกับสิ่งกังวลใด

เพราะ “แดดร่มลมตก” ยังมาไม่ถึง ความคาดหวังจากช่วงเวลาดีๆ จากสิ่งที่อยากเห็น มักเป็นเพียงสายลมแล้งๆ เข้ามาทดแทน กระแสลมภายนอกจากโลกกว้างมันไม่แน่นอนและกำหนดได้ยากเหลือเกิน หากแต่ความสบายดีในใจเรายังเกิดขึ้นได้ ถ้าให้ใจได้พัดพา แม้มันจะ “แดดไม่ร่มลมไม่ตก” ก็ตามนั้น

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต