ฉัตรสุมาลย์ : เส้นทางสายไหม : ไปชมกระดูกข้อนิ้วพระหัตถ์

ออกจากโรงแรมที่พักในเมืองซีอาน เราเดินทางไปทางทิศตัวะนตกเฉียงเหนือ 120 ก.ม. ถึงวัดฝ่าเหมินค่ะ

สมัยที่พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ผู้เรืองนามของอินเดีย ในพงศาวดารของศรีลังกาบันทึกว่า พระองค์ได้สร้างพระสถูปเจดีย์ไว้ถึง 84,000 แห่ง ในแว่นแคว้นทั้งแปดทิศ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่โทณะพราหมณ์เป็นคนแบ่งให้เป็น 8 ส่วนตั้งแต่สมัยหลังพุทธกาลโน่น

หนึ่งในนั้น ชาวจีนเชื่อว่า พระบรมธาตุส่วนหนึ่งได้นำมาประดิษฐานที่วัดฝ่าเหมินแห่งนี้ และเชื่อด้วยว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุในส่วนข้อนิ้วพระหัตถ์นิ้วนาง

ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของจีน ได้มีการสร้างวัดฝ่าเหมิน บางทีเรียกว่า ฝ่าเหมินชื่อ ชื่อ เป็นภาษาจีน แปลว่า วัด ค่ะ ผู้เขียนจะเขียนว่า วัดฝ่าเหมิน นะคะ

แล้วก็สร้างพระเจดีย์ขึ้นตรงจุดเดียวกับพระเจดีย์เดิม ครั้นถึงราชวงศ์ถัง สมัยนี้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมาก ได้มีการบูรณะวัดฝ่าเหมิน และยกขึ้นเป็นวัดประจำราชสำนัก

จักรพรรดิในราชวงศ์ถังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปสักการบูชาในพระราชวัง ที่เมืองซีอาน จนกระทั่ง ค.ศ.874 พระเจ้าสี่จง จักรพรรดิองค์หนึ่งของราชวงศ์ถังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับไปประดิษฐานยังห้องใต้ดิน ซึ่งอยู่ภายใต้ฐานพระเจดีย์ของวัดฝ่าเหมินตามเดิม

พร้อมกับพระราชทานแก้วแหวนเงินทองและสิ่งของมีค่ามากมายเป็นเครื่องสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และได้ปิดห้องใต้ดินอย่างมิดชิด จนกระทั้งสิ้นสุดราชวงศ์ถัง

นานจนชาวจีนรุ่นหลังไม่ทราบว่ามีของมีค่าบรรจุอยู่ภายใต้พระเจดีย์เก่านั้น

 

พระเจดีย์ที่วัดฝ่าเหมินนี้ เป็นเจดีย์ไม้เก่าแก่ ตั้งตระหง่านอยู่กับคนจีนมานานถึง 1,502 ปี เมื่อ ค.ศ.1569 เกิดแผ่นดินไหว พระเจดีย์พังทลายลงมา อีก 10 ปีต่อมา ชาวพุทธในอำเภฝูฟง ได้ร่วมบริจาคเงินสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ เป็นเจดีย์ 8 เหลี่ยม 13 ชั้น ทำด้วยอิฐสูง 47 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างไป รวบรวมเงินไป จึงใช้เวลายาวนานถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จสมบูรณ์

หลังจากนั้นอีก 44 ปีต่อมา เกิดฝนตกหนัก และแผ่นดินไหวในอำเภฝูฟง ทำให้องค์พระเจดีย์ทรุดเอียงไปทางตะวันตกเฉียงใต้

ประกอบกับการที่ไม่ได้มีการบูรณะเลย ในช่วงฤดูฝนของปี ค.ศ.1981 พายุฝนพัดกระหน่ำพระเจดีย์พังลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงเศษอิฐบริเวณฐานพระเจดีย์

ต่อมาใน ค.ศ.1987 เนื่องจากฐานพระเจดีย์ไม่มั่นคงเสียแล้ว รัฐบาลจึงตัดสินให้ทำการรื้อถอนเพื่อสร้างพระเจดีย์ใหม่ในจุดเดิม

ขณะที่กำลังปรับพื้นที่ตรงฐานพระเจดีย์นั้นเอง ก็ได้ค้นพบห้องใต้ฐานพระเจดีย์เนื้อที่กว่า 30 ตารางเมตรที่ถูกปิดตายเป็นเวลาช้านาน

และได้พบพระพระบรมสารีริกธาตุองค์สำคัญซึ่งประดิษฐานสงบนิ่งอยู่ในห้องใต้ดินนี้นานกว่า 1,000 ปี พร้อมโบราณวัตถุที่มีค่ากว่า 2,000 ชิ้น ได้เปิดเผยสู่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนั้นอีก 1 ปี วัดฝ่าเหมินซึ่งมีอายุกว่า 1,600 ปี ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนจากทุกสารทิศ

ห้องใต้ดินได้รับการบูรณะให้คงสภาพที่สมบูรณ์ดังเดิม และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

นอกจากนี้ ทางวัดยังได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าที่ขุดพบจากห้องใต้ดินอีกด้วย

ส่วนพระบรมสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์นั้น หลายประเทศได้อัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราวให้ชาวพุทธนานาชาติได้สักการะ เช่น ประเทศไทย เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน

 

วัดฝ่าเหมินเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของมณฑลสานซี ตั้งอยู่ที่อำเภอฝูฟง ห่างจากซีอานออกมา 120 ก.ม.

ช่วงที่เราไปถึงนั้น อุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส กำลังสดชื่นทีเดียว เมื่อลงไปข้างล่างใต้ที่ฐานพระเจดีย์ เขาจัดตั้งนิทรรศการแสดงพระบรมสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์ไว้สามทิศ เป็นองค์จริง หรือที่เขาว่าจริงองค์หนึ่ง อีกสององค์ทำเทียมกันขโมย ดูด้วยสายตาน่าจะเป็นหยกสีเขียวอ่อนแกะสลักมากกว่า

ทั้งสามทิศ อยู่ในตู้กระจก มีไฟส่องชัดเจน องค์ที่ว่าจริงนั้น เนื้อเป็นกระดูก รูปทรงเป็นทรงกระบอกกลวง ยาวนิ้วกว่า

แพทย์ที่เรียนทางสรีรวิทยาเห็นแล้วอาจจะนึกไม่ออกว่าจะเป็นข้อนิ้วพระหัตถ์นิ้วนางได้อย่างไร

มีพระจีนนั่งกำกับคอยรับเงินบริจาคและให้พร ตรงกลางจะเห็นห้องลับใต้พระเจดีย์ที่ว่ามาแล้วชัดเจน ดูจะเป็นประเพณีปฏิบัติว่า ใต้ฐานพระสถูปเจดีย์มักมีห้องลับประดิษฐานของมีค่า

ตรงข้ามกับประเพณีของไทยภาคกลางที่จะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่ยอดพระเจดีย์

 

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 พระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ก็มีการนำกระดูกข้อนิ้วพระหัตถ์ที่ว่านี้ ไปแสดงที่ประเทศไทย

ตอนนั้น ผู้เขียนทำรายการทีวี ชีวิตไม่สิ้นหวัง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ท่านที่เป็นตัวแทนนำเอาพระบรมสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์มาแสดงให้ชาวพุทธไทยได้กราบไหว้ ตอนนี้ เมื่อได้เห็น 3 องค์พร้อมกัน ชัดเจนว่า องค์ที่นำไปแสดงที่ประเทศไทยนั้นเป็นองค์ปลอม ดังที่ผู้เขียนเคยกล่าวไว้แล้วในรายการทีวีตอนนั้นว่า คล้ายหยกแกะสลักมากกว่า

พวกเราในคณะร่วมทำบุญกันหลายคนหลังจากได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์แล้ว

ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ เราไม่ลบหลู่ดูถูกว่าจริงหรือไม่ แต่ถือเป็นวัตถุที่ทำให้เราน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ เราก็กราบไหว้ได้

 

ชาวไทยจะเชื่อและให้ความเคารพเรื่องพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุมาก มีอาจารย์ฝรั่งท่านหนึ่งเคยตั้งข้อสังเกตว่า หากพระบรมสารีริกธาตุที่เราเห็นอยู่นี้เป็นจริงหมด พระพุทธเจ้าของเราคงจะต้องมีพระวรกายใหญ่โตมากทีเดียว

อีกอย่างหนึ่ง ความเชื่อของคนไทยนิยมเชื่อว่า พระบรมสารีริกธาตุจะต้องกลายเป็นแก้ว จินดา จึงจะศักดิ์สิทธิ์

แต่ชาวพุทธอีกฝ่ายหนึ่งก็ว่า พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าต้องเป็นกระดูกคนจริงๆ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า พระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องที่กุขึ้น แต่เป็นมนุษย์เดินดินจริงที่เคยเกิดในดินแดนเชื่อมต่อระหว่างเนปาลและอินเดียเหนือในสมัยปัจจุบัน

แต่เราอย่าไปเสียเวลากับเรื่องปลีกย่อยเลยนะคะ เป็นชาวพุทธที่ดี คือต้องทำคำสอนของพระองค์ให้สัมผัสได้จริงในชีวิตของเรา