ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 กันยายน 2566 |
---|---|
เผยแพร่ |
ซีฟยัดไส้
แต่งแล้ว
คบกันมานานกว่า 10 ปี คู่รักสุดหวาน ‘บูม’ กิตตน์ก้อง ขำกฤษ กับ ‘กีฟ’ ดราภดา โสตถิพิทักษ์ ก็จูงมือเข้าพิธีวิวาห์แล้ว โดยทั้งคู่โพสต์ภาพแต่งงานและแคปชั่นประกาศข่าวดีลงอินสตาแกรมส่วนตัว
สำหรับเส้นทางความรักของทั้งคู่ เรียกว่าเป็นเหมือนดั่งนิยาย
ซึ่งกีฟเคยให้สัมภาษณ์ว่า เจอหนุ่มบูมจากไอจี ช่วงนั้นเธอเข้าไปดูไอจีเพื่อนนักแสดงในช่อง ไถดูคอมเมนต์และไปสะดุดตากับโปรไฟล์ไอจีรูปหนึ่งที่เป็นขาวดำ เป็นรูปผู้ชายยิ้ม จึงกดเข้าไปดูโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นนักแสดงช่อง 7 ที่เพิ่งเข้ามา
พอเห็นหน้าปุ๊บชอบ เลยกดติดตาม กดติดตามไม่ถึง 30 วินาที ปรากฏฝ่ายชายกดติดตามกลับทันที
หนุ่มบูมเฉลยว่า เพราะเขาแอบชอบสาวกีฟมาก่อนหน้านี้ ครึ่งปีได้ ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นนักแสดงช่อง เริ่มจากดูละครแล้วรู้สึกผู้หญิงคนนี้หน้าหมวยๆ ขายาวๆ น่ารัก เลยติดตามผลงาน แต่ที่ไม่กดฟอลโลว์ไอจีเพราะถ้าไปฟอลโลว์ กลัวมีคนถามเยอะ ด้วยปกติไม่ค่อยฟอลโลว์ใคร แอบชอบอยู่ห่างๆ
และพอรู้ว่ากีฟกดติดตาม ก็มั่นใจว่ากีฟก็แอบชอบเขาเหมือนกันรึเปล่า
จากนั้น หนุ่มบูมก็เขียนแคปชั่นถึงสาวกีฟตลอด โดยไม่บ่งบอกว่าเป็นเธอ ฟากดาราสาวเองก็ไม่แน่ใจ ต้องใช้จินตนาการเอาว่าฝ่ายชายเขียนถึง เลยเขียนแคปชั่นตอบกลับลงไอจีตัวเอง จะเป็นอย่างนี้ทุกวัน
จนวันหนึ่งทั้งคู่เดินสวนกันที่ช่อง 7 ต่างคนต่างเหมือนโลกหยุดหมุน มีแค่กันและกัน
คุยในไอจี 6-7 เดือนแล้ว จากนั้นก็มาทำความรู้จัก คุยกัน และดูกันนอกไอจีอีก
หลังทำความรู้จักและร่วมงานกันแล้ว บูมก็ได้บอกว่าเขาชอบฝ่ายหญิง แต่ไม่กล้าขอเป็นแฟน ไม่กล้าจีบ เพราะรู้ตัวว่ายังไม่ดีพอ ณ วันนั้นเลยขออนุญาตเป็นเพื่อนไปก่อน ขอเวลาพิสูจน์ตัว ทำตัวเองให้ดีขึ้น เพราะตอนนั้นตัวเขายังลำบากอยู่ มีครอบครัวที่ต้องดูแล
3 ปีเกือบ 4 ปี หนุ่มบูมพิสูจน์ตัวเองได้ ก็เดินหน้าจีบ แต่ยังไม่ใช้คำว่าแฟน จนก่อนเข้ากรมทหาร เขาบอกว่าที่ยังไม่ขอเป็นแฟน เพราะรู้ตัวว่าวันนี้จะมาถึง วันที่สมัครเป็นทหาร ไม่เจอกัน 6 เดือน ไม่อยากปิดกั้นฝ่ายหญิง และอยากให้เวลาเป็นเครื่องทดสอบทั้งคู่ ถ้าปลดทหารมาแล้วยังเหมือนเดิม เขาจะออกมาขอกีฟเป็นแฟน
ถามว่ากีฟชอบอะไรในตัวบูม กีฟตอบ ตอนแรกบอกตรงๆ ชอบหน้ามาก ประทับใจกับรูปโปรไฟล์นั้น และความโชคดีนอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว นิสัยก็น่ารักเหมือนหน้า ซึ่งการที่คนสองคนจะจับมือเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะพัฒนาไปสถานะไหน เราไม่ได้มีกันแค่สองคน เรามีครอบครัว ซึ่งคนจะมาอยู่กับเรา เขาต้องเข้ากับครอบครัวเราได้ด้วย ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่ค่อนข้างรักเขามาก
บูมกล่าวว่าก็เหมือนกัน อย่างแรกที่ชอบคือเห็นหน้าก่อน ซึ่งเป็นความโชคดีที่กีฟเป็นคนหน้าตาน่ารักที่นิสัยดี มองโลกแง่ดี มีเมตตาชอบช่วยคน
คบหาเป็นแฟน ปีแรกๆ ทั้งคู่ทะเลาะกันทุกเรื่อง ด้วยการใช้ชีวิตแตกต่างกัน บูมเป็นเด็กธรรมดา ในขณะที่กีฟเป็นลูกคุณหนู แต่ไม่ว่าจะทะเลาะกันขนาดไหน ทั้งคู่ต่างสัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือ พยายามปรับตัว รับให้ได้ในกันและกัน
จากวันแรกที่เห็นในจอแล้วชอบ จนเป็นแฟน สร้างตัวมีธุรกิจ และพร้อมใช้ชีวิตคู่ หนุ่มบูมก็พาผู้ใหญ่ไปสู่ขอสาวกีฟต้นมีนาคมที่ผ่านมา และจัดงานแต่งภายในครอบครัวเมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่หัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความทรงจำ ด้วยเป็นทริปเดตแรก
โดยเจ้าบ่าว บูม โพสต์ภาพแต่งงานลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “เจ้าสาวของผม @givedrarpdar_s พี่รักหนูอยู่แล้ว พี่ดูแลหนูอยู่แล้ว และพี่จะทำตลอดไป 11966 วันแต่งงานของเรา”
ด้านเจ้าสาว กีฟ ก็โพสต์เช่นกันว่า “อีก 1 วันสำคัญในชีวิตคู่ของเรา ขยับสถานะจากคู่รักมาเป็นคู่ชีวิต ขอบคุณพี่ ที่คอยมอบความรัก ความหวังดี ความห่วงใย และความเอาใจใส่ให้มาตลอด ดีใจที่เรามีกันและกันมาเสมอ ยินดีที่โชคชะตานำพาให้เราได้พบ สบตา ตกหลุมรัก จับมือเดินไปบนเส้นทางเดียวกัน จนวันนี้ได้มุ่งสู่เส้นทางความรักที่เรียกว่า นิรันดร์ กันและกันตลอดไป…ด้วยรักให้พี่หมดใจ 11966”
การจัดงานแต่ง หนุ่มบูมเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เป็นพิธีภายในครอบครัว ปรับตามความเหมาะสม ความปลอดภัย ด้วยโควิดยังอยู่ใกล้ตัว โดยงานที่จัดเป็นไปตามที่แฟนสาวต้องการทุกอย่าง เลือกเอง ทำเองหมด แหวนยังวาดและออกแบบเอง ชุดก็คุยกับดีไซเนอร์เอง ส่วนเพชรก็หาเจอเป็นจำนวนเป็นสีที่น้องอยากได้ที่อเมริกา
ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของเจ้าสาว ถามว่าเจ้าบ่าวมีส่วนตัดสินใจตรงไหน ดาราหนุ่มกล่าวว่า “ตัดสินใจโอนเงินครับ เพราะความสุขของผมก็คือได้เห็นเขามีความสุข”
เป็นความรักที่เรียกว่าจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง!!!
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022