เผยแพร่ |
---|
มีการโพสต์ถึงโรคที่เรียกขานในชื่อ AMNESIA แอมนีเซีย ในพื้นที่โซเชียล มีเดีย ถี่ยิบเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะบรรยากาศหลัง”เดือนพฤษภาคม”อัตราความถี่ดำเนินไปในลักษณะเร่งกระชั้นมากยิ่งขึ้นจาก
สถานการณ์อันเกิดขึ้นจากเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมเป็นต้นมา
ไม่ว่าที่”ดอนเมือง” ไม่ว่าที่”สัปปายสถาน”เกียกกาย พลันที่มีการเคลื่อนไหวผ่านกระบวนการ #conforall
ระดมรายชื่อกว่า 200,000 รายชื่อภายในเวลา 3 วันเพื่อนำไปสู่การมีส่วนในการกำหนดข้อความ”ประชามติ”รัฐธรรมนูญใหม่
เป็นรายชื่อสดๆบนแผ่นกระดาษ แล้วนำเอาแต่ละรายชื่อนั้นลงไฟล์ไม่ว่าจะเป็น PDF ไม่ว่าจะเป็น EXEL เพื่อนำเสนอตามกฎกติกาอันเป็นเงื่อนไขใหม่ของกกต.
ยิ่งเมื่อผ่านการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน การเอ่ยอ้างถึง AMNESIA ยิ่งกลายเป็นวาทกรรมกระตุกกระตุ้นต่อสำนึกในทางการเมืองอย่างเป็นพิเศษ
เนื่องจาก AMNESIA คือโรคเนื่องแต่ภาวะสูญเสียความทรงจำ
เห็นได้จากข้อสังเกตด้วยความห่วงใยจากสื่ออาวุโสระดับ สุทธชัย หยุ่น ที่ว่า โรคนี้รักษาไม่หายขาด (เพราะ)ต้องรักษาไปตาม”อาการ”เท่านั้น
น่าสังเกตว่า บรรดา”รัฐมนตรี” กลับติดอยู่ในอาการภาวะสูญเสีย”ความทรงจำ”ราวกับจะเป็น”โรคระบาด”
ไม่ว่าความทรงจำ”รัฐธรรมนูญ” ไม่ว่าความทรงจำ”บังคับ เกณฑ์ทหาร” ยิ่งเป็นความทรงจำอันเนื่องแต่ “ปิดสวิตช์ สว.” และ”ปิดสวิตช์ 3 ป.”ยิ่งแทบจะสลายเลือน
ผู้เชี่ยวชาญบางคนระบุว่าเป็นโรคอย่างที่เรียกว่า TGA นั่นก็คือ Transent Global Amnesia นั่นก็คือ โรคหลงลืมชั่วคราว
คือโรคที่ผู้ป่วยสูญเสียความทรงจำเฉียบพลัน โดยความจำที่สูญเสียเป็นความทรงจำของรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังแฝงไว้ด้วย Pseudo Amnesia
มีความจำเป็นที่แต่ละพรรคการเมืองจักต้องทบทวนอาการของโรค AMNESIA จากความเป็นจริงที่ปรากฏเบื้องหน้า ไม่ว่าจะ เป็นหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค
ทั้งพรรคที่เป็น”รัฐบาล” และพรรคที่เป็น”ฝ่ายค้าน”
บทบาทของสิ่งที่เรียกว่า Digital Footprint จึงมีเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะดำรงอยู่อย่างเป็นหลักฐานผ่าน”สื่อเก่า” ไม่ว่าจะดำรงอยู่อย่างเป็นหลักฐานผ่าน”สื่อใหม่”
นี่คือ”ปฎิกิริยา”ในลักษณะโต้กลับ และทวงคืน”ความทรงจำ” อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์