ขนบเดิม-ขนบตาม : องคาพยพ-ลูกไม้ใต้ต้น!

อภิญญา ตะวันออก

อัญเจียแขฺมร์ | อภิญญา ตะวันออก

 

ขนบเดิม-ขนบตาม

: องคาพยพ-ลูกไม้ใต้ต้น!

 

สหายที่รัก หรือ “สมัครมิตรเจียตีสรอรัญ” ในตอนหนึ่งที่เราเปิดตัวรัฐมนตรีแห่งคณะสมเด็จมหาธิบดีฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีนั้น เราได้เสนอคนหนุ่มผู้คุมกระทรวงการท่องเที่ยวเขมรคนใหม่ คือ นายสุข โสเก็น และพบว่ามีความผิดมหันต์อย่างมากที่มาพบภายหลังว่า แท้จริงแล้ว รมต.ท่านนี้มีฝาแฝดชื่อหน้าตาสะเดียง/เหมือนกัน!

แต่นั่นก็ไม่ยังไม่น่าตกใจว่า แท้จริงแล้ว แม้สมเด็จวิบุลปัญญาสุข อาน (1951-2017) จะสิ้นบุญไปแล้วก็ตาม แต่กระนั้น สมเด็จฮุน เซน เพื่อนเลิฟก็ให้การดูแลทายาททุกคนประหนึ่ง “เสาวิหารแห่งปราสาทนครวัด” เลยทีเดียว

โดยเฉพาะแฝด สุข โสกัน แฝดพี่เป็นรัฐเลขาธิการกระทรวงวางแผนก่อสร้างการพาณิชย์ ส่วนแฝดน้องสุข โสเก็น ที่ถูกวางตัวให้เล่นการเมืองเป็น ส.ส.มาก่อนพี่ กรณีไม่ต่าง ฮุน มานี-ฮุน มาแนต นั้น ได้นั่งกระทรวงการท่องเที่ยว

โดย 2 ปีก่อนหน้า สุข สังวาร น้องชายเคยดูแลกระทรวงนี้ในฐานะรัฐเลขาธิการประจำสำนักนายกฯ มาก่อน ขณะที่สุข โสเก็น ตอนนั้นถูกวางตัวให้ดูแลกระทรวงต่างประเทศและพาณิชยกรรม!

เช่นเดียวกับนายสุข พุทธิวุฒิ เขยเล็กของสมเด็จฮุน เซน ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐเลขาธิการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ที่เผยให้เห็นว่านอกจาก 2 ครอบครัวนี้จะเกี่ยวดองกันแล้ว ฮุน เซน นั้นให้ความไว้วางใจลูกเพื่อนทั้ง 4 คนนี้

เสมือนเป็นทายาทหรือสายเลือดของตน?

 

ย้อนไปกว่ายี่สิบปีก่อน ตอนเด็กๆ ตระกูลฮุนทั้งสาม ฮุน มาแนต, ฮุน มานิต และฮุน มานี ไปศึกษาต่างประเทศที่สหรัฐ ฮุน เซน ได้ฝากฝังให้เพื่อนเลิฟดูแลลูกๆ ของตนซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับหนุ่มน้อย “ตระกูลสุข” ที่กระเตงกันไปศึกษาต่อในต่างแดนเช่นกัน

เด็กๆ ทั้งหมดมีลุงสุข อาน ทำหน้าที่เสมือนผู้ปกครอง ขนาดตอนที่ฮุน มานี ฉลองวันรับปริญญา ลุงสุข อาน และครอบครัวเสียอีกที่อยู่เคียงข้างร่วมยินดีกับเขา

ฮุน เซน และสุข อาน มองตาก็รู้ใจในความคิดอ่านที่มีต่อลูกๆ ของตน ทั้งสองช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา ทั้งเรื่องการเมือง การมุ้งและครอบครัวทั้งสองฝ่าย

ดังนั้น ตอนสุข อาน ป่วยหนักและด่วนลาโลกกะทันหัน ไม่ทันรั้งงานแต่งของลูกชาย

สมเด็จฮุน เซน ดูแล จัดพิธีงานศพเพื่อนอย่างสะเทือนอารมณ์ ก่อนทำหน้าที่เป็นพ่อเจ้าบ่าว-สุข โสกัน อย่างยิ่งใหญ่ สมคำร่ำลือความร่ำรวยมั่งคั่งในหมู่ชนชั้นนำกัมพูชา

และนั่นทำให้เราเห็นสมเด็จฮุน เซน และภรรยาปฏิบัติต่อลูกเพื่อนรัก เสมือนพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลฮุน

จึงไม่แปลก จากแบบทดสอบหนักจากสมเด็จ x 2 พ่อแท้, พ่อบุญธรรม และหรือพ่อตาที่วางไว้ ทำให้ลูกๆ สุข อาน ที่เอาถ่านตามพ่อ มีแววนักการเมืองตั้งแต่อายุกะเม็งก็เป็นเสนาบดีในกระทรวงต่างๆ ในยุคของพ่อก่อนถ่ายผ่านจนมาถึง “ฮุน มาแนต”

ซึ่งเอาเข้าจริง ลูกๆ สุข อาน ที่กุมกระทรวงสำคัญในฐานะนักการเมือง พวกเขายังถือครองธุรกิจหัวแถวของกัมพูชา เช่น สุข โสกัน ในเครือแคปิตัล/Vattanac Capital บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ของกัมพูชา ส่วนสุข โสเก็น น้องชายที่คุมกระทรวงท่องเที่ยว ในกาลเดียวกันเขาก็มีพี่สาวภรรยาจุมเตียว จอม นิมล เป็น รมต.กระทรวงพาณิชย์

ว่าแต่ลูกๆ สุข อาน แต่ละนายไม่ธรรมดาอย่างไร? ทำไมพวกเขาจึงสร้างความประทับใจเพื่อนพ่อจอมบงการอย่างสมเด็จฮุน เซน คนนั้นได้? นอกเหนือจากสมัยที่พ่อทำงานหนักจนล้มป่วย นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่กระทบใจฮุน เซน แต่ในที่สุดเพื่อนเลิฟก็ยังทิ้ง “ทายาท” ให้ฮุน เซน ใช้สอยเป็นอะไหล่การเมือง

ในบางกรณี ยังเป็นคู่แข่ง-คู่ซ้อมลูกสมเด็จอา-ตัวตึง!

ทําไมถึงกล่าวเช่นนั้น? เพราะจริงๆ แล้ว ลูกๆ ของสุข อาน ทุกคนมีการศึกษาที่น่าสนใจ หรือโดดเด่นกว่าลูกๆ ของฮุน เซน? อย่างเห็นได้ชัด

สุข อาน สูญเสียลูกชายคนโตสมัยเขมรแดง และสุข พุทธิวุธ ลูกชายคนต่อมาที่แต่งงานกับลูกสาวฮุน เซน จากนั้น เขาได้ส่งเสริมลูกชายอีก 3คนที่เหลือ ทั้ง สุข โสกัน, สุข โสเก็น และสุข สังวาร พวกเขาศึกษาทั้งสหรัฐและยุโรป ทั้งธุรกิจ วัฒนธรรมและการปกครอง

นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมพี่น้อง “ตระกูลสุข” จึงเป็นผู้นำกลุ่มเดียวในระบอบฮุนเซนที่สามารถ “ถ่ายโอนกิจการและอำนาจ” หน่วยงานซึ่งกันและกันอย่างราบรื่น ซึ่งไม่เคยพบมาก่อนในแวดวงการเมือง!

ตัวอย่างน้องเล็ก-สุข สังวาร ที่สำเร็จการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์และชำนาญในภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส-สเปน เคยทำงานกองงานพิเศษ “องค์การอัปสรา” เมืองเสียมเรียบที่บิดาดูแล

สุข สังวาร ซึ่งทำงานกึ่งกระทรวงบริหารกิจการด้านการท่องเที่ยวองกอร์โบราณสถานและประสบความสำเร็จร่วมกับบิดาตั้งแต่ยังกะเม็ง/หนุ่ม และนี่คือเหตุผลว่า เมื่อสุข โสเก็น พี่ชายแฝดคนที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่กระทรวงต่างประเทศ ต้องย้ายมาเป็น รมต.การท่องเที่ยว เขาจึงสวมตำแหน่งนี้อย่างไร้รอยต่อตามที่สมเด็จอา ฮุน เซน ได้วางขั้นบันไดไว้ในการถ่ายโอนอำนาจ

จากพ่อ-สู่ลูก จากลูก-สู่พี่น้องและบุคคลในตระกูลเท่านั้น บัดนี้ เด็กหนุ่มทั้งหมดได้กลายส่วนหนึ่งของระบอบที่บิดาวางไว้ไปแล้ว

ในทันทีนั้น เราจึงเริ่มเห็นภาพองคาพยพของระบอบฮุนเซน การวางแผนถ่ายโอนอำนาจจากเจเนอเรชั่นที่ 1 สู่เจนที่ 2 และหน้าที่ที่พวกเขาพึงกระทำอย่างเคร่งครัดและจะแจ้งในผลงาน โดยเฉพาะบุคคล 2 ตระกูล “ฮุน-สุข” ที่ 2 บิดาสมเด็จวางไว้ให้เป็นแนวทาง

จึงไม่แปลกที่ครั้งหนึ่งแม้แต่เลือดข้นคนจางจากตระกูลฮุน อย่างฮุน มานี ก็เคยตกกระป๋องบิดามาแล้ว

ทันใดทันทีที่เขาผิดพลาดด้านประพฤติตนมาแล้ว!

ฮุน มานี เคยสารภาพว่าเขาเคยถูกบิดาลงทัณฑ์จากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง! กว่าจะกอบกู้ความไว้วางใจในบิดากลับมาได้ ฮุน มานี ต้องใช้เวลายาวนาน นั่นเป็นจุดที่น่าสังเกตว่า แม้ฮุน มานี จะเป็นหัวหน้าสหพันธ์ยุวชนพรรคประชาชนกัมพูชาซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะทำให้เขาเถลิงขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก่อนใครเมื่อเทียบกับพี่ชายซึ่งขณะนี้อยู่ในลำดับที่ 38 นั้น

แต่จริงๆ แล้ว ฮุน มานี ถูกพ่อดัดสันดานเรื่องความประพฤติอันฉาวโฉ่อย่างเงียบๆ ขณะเดียวกันเด็กๆ ที่เขาไว้วางใจกลับเป็น “ลูกเพื่อน” ซึ่งในที่นี้ได้กลายเป็นเครือญาติเสมือนลูกบุญธรรมของตน

ฮุน มานี จึงไม่ได้แข่งวาสนากับพี่ชายของตนเท่านั้น เขายังต้องแข่งกับพี่น้องตระกูลสุขถึง 4 คน ซึ่งมีแนวโน้มว่า ทั้งหมดคือบุคคลที่น่าจับตามากกว่ารุ่นที่ 2 ของตระกูลเตีย อย่าง เตีย สิงหา หรือตระกูลสอ อย่าง สอ สุขะ หรือลูกสมเด็จกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งซึ่งบิดายังมีชีวิตอยู่

จริงๆ แล้ว สมเด็จสุข อาน ยังไม่ตาย ตรงข้าม เขายังทิ้งลูกชายทั้งสี่ไว้เป็นแขนขาอะไหล่ชั้นดีแก่สมเด็จฮุน เซน เสียอีกตะหาก!

และเพราะอย่างนี้หรือเปล่า ฮุน เซน จึงปล่อยให้สุข อาน ดูแลฝึกฝนลูกชายของตนตลอดมาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจ พวกเขาเติบโต สั่งสมสิ่งที่เป็นสมบัติพิเศษแห่งโลกยุคสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ซึ่งประกอบด้วยองคาพยพและระบบที่ซับซ้อนในแบบ “old order” ของเจนพ่อ แม้บัดนี้ในรุ่นลูกของตน บางคนจะไม่ถือขนบแบบเจนพ่อหรือ old order “ขนบเดิม” ก็ตาม

อย่างน้อย ในจำนวนนี้ก็มีสมเด็จฮุน มาแนต คนหนึ่ง!

ไม่แปลกใจว่าทำไม ฮุน มาแนต จึงเอาแต่สรรเสริญบิดาตั้งแต่ย้อนไปก่อนหน้าและหลังเขาเป็นนายกฯ ว่า “สมเด็จฮุน เซน คือแบบอย่างแห่งแรงบันดาลใจ”

ก็ทำไมล่ะ? เมื่อทุกห้วงชีวิตของเขามีความทรงจำในความสำเร็จของพ่อที่ร้อยเรื่องราวทั้งหมดไว้ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาภายในวันเดียว แต่เป็นองคาพยพแห่งการสืบทอดที่ถูกวางแผนอย่างเป็นระบบ

ถ้ามีอะไรที่กัมพูชาจะผิดพลาดไปจากนี้?

ก็มาจากการที่รุ่นลูกอย่างพวกเขา ไม่เป็นลูกไม้ “ใต้ต้น!”