สรวงสวรรค์”นายฮ้อย” | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

สรวงสวรรค์”นายฮ้อย”

 

ในบรรดาบุคคลที่ได้ “วีซ่า”ไปสู่ “แดนสรวง(สวรรค์)” วิมานไทยคู่ฟ้า

ที่น่าสนใจมากคนหนึ่ง คือ นายสุทิน คลังแสง

เป็นนายสุทิน อดีตครูบ้านนอก ที่ น่าจะคุ้นเคยกับ “นายฮ้อย”—พ่อค้าวัวค้า ควาย ในภาคอีสาน มากกว่า “นายร้อย”คนโก้ ที่จบจาก “จปร.”หรือ สถาบันความมั่นคง อื่นๆ

แต่ในวันนี้ นายสุทิน ก้าวสู่ “แดนสรวง” ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(รมว.กห.) ให้เหล่านายร้อยตะเบ๊ะ

อย่างที่ทราบ ตำแหน่งนี้ มักจะสงวนไว้สำหรับผู้มียศทหารนำหน้า

หรือไม่ก็ต้องมีตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”แล้วมานั่งควบ

น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย ที่จะมีส.ส.ธรรมดาๆแถมเป็นส.ส.บ้านนอก เข้ามาสวมหมวกใบนี้

จึงไม่แปลกที่ชื่อของนายสุทิน กว่าจะนิ่งก็พลิกไปมาหลายตลบ

ตอนแรกชื่อโผล่มาสองสามวัน แล้วก็เปลี่ยนเป็นชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่มีดีกรีพ่วงท้ายมากมาย ตำแหน่งสุดท้ายคืออดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.)

ที่สำคัญ มีการบอกว่า เป็นนายทหารใกล้ชิดกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จนคนทั่วไปเข้าใจว่า นี่เป็น”โควต้าพิเศษ” ตามสูตรสมานฉันท์ “มีเราและมีลุง”ของเพื่อไทย

แต่ขนาดเป็น”บิ๊กดีล”ถึงปานนั้น สถานการณ์กลับพลิกผันอีก

เมื่อมีคนกลุ่มคนเสื้อแดงในอีสานเคลื่อนไหวต่อต้าน

ซึ่งแป๊ปเดียวเพื่อไทย ก็กลับไปดึงเอาชื่อของนายสุทิน มานั่งตำแหน่งนี้อีก

ท่ามกลางนานา ความสงสัยเพื่อไทยเล่นเกมอะไร

ไม่ว่า ดิสเครดิตกองทัพ ด้วยการเลือก”ใครก็ได้”มาคุมทหาร?

ไม่ว่าให้น้ำหนัก “มวลชน”คนเสื้อแดง”มาก”ถึงขนาดเปลี่ยนจากพล.อ.ณัฐพล เป็นนายสุทินเลยทีเดียวหรือ

ไม่ว่าเพื่อไทยไม่แคร์บทบาทกองทัพเลยหรือ

ซึ่งคำถามสุดท้ายนี้ เอาเข้าจริงก็ย้อนแย้งกับสิ่งที่เราได้เห็น คือหลังจากเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกฯมาครอง

ท่าทีที่จะ”ปฏิรูป”กองทัพก็อ่อนยวบลง

จาก”ปฏิรูปกองทัพ”กลายเป็น “พัฒนาร่วมกัน”

สะท้อนว่านี่อาจเป็น”น้ำลาย”อีกอึกใหญ่ที่จะกลืนลงคอ

พร้อมข้อสังเกตุว่า พรรคเพื่อไทย คงจะหวังขับเน้นไปในเรื่องเศรษฐกิจ ให้เป็น “ประชาธิปไตยกินได้” ที่สามารถเรียกคะแนนนิยมจากชาวบ้าน กลับคืนมา

ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง

โดยเฉพาะ เรื่อง “ความมั่นคง” ซึ่งเมื่อมองเข้าไปใน”แดนสรวงไทยคู่ฟ้า”แล้ว

นายกก็คงเน้นไปในเรื่องเศรษฐกิจ

ส่วนรองนายกฯไม่มีใครชำนาญเรื่องความมั่นคงเลย

กระทรวงด้านความมั่นคงอื่น ที่สำคัญ เช่น มหาดไทย ก็ไปอยู่ในมือภูมิใจไทย

ส่วนตำรวจ ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะต้องให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แห่งพลังประชารัฐ ดูแลหรือไม่

นี่จึงทำให้ มีการมองว่า เพื่อไทย ให้น้ำหนักกับเรื่องความมั่นคงน้อย

และพลอยมองเลยไปว่า การเลือกนายสุทิน ไปนั่งในเก้าอี้รมว.กห. จะเป็นเพียง “พิธีกรรม”หรือไม่

ขณะที่งานความมั่นคงจะปล่อยให้เหล่าทัพแต่ละเหล่าทัพขับเคลื่อนเอง

เพื่อลดความขัดแย้ง และกระทบกระทั่งเหมือนในอดีต

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง บิ๊กๆในเหล่าทัพ ก็คงพึงใจ

และยินดีต้อนรับ นายสุทินมานั่งในฐานะรมว.กห.

วิน-วิน มีความสุขใน”แดนสรวง”กันทั้งสองฝ่าย

แต่สำหรับประชาชน ที่หวังจะเห็นการ”ปฏิรูปกองทัพ”ก็คงหวังเหวิดต่อไป

จริงหรือไม่ นายสุทิน ส.ส.แห่งแดนอีสาน ผู้คุ้นเคยกับ”นายฮ้อย”ที่ต้อนวัวควายไปขาย ต้อง”ซ.ต.พ.”–ซึ่งต้องพิสูจน์