“ปากานี ฮูไอร่า บีซี” แรงสุด หรูสุด ที่สุดไฮเปอร์คาร์! 200 ล้านบาท

สันติ จิรพรพนิต

“ปากานี” ได้ชื่อว่าเป็นอภิมหารถไฮเปอร์คาร์ ที่แพงระยับที่สุดในโลก

เพราะนับตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกวางตลาดราคาก็แตะหลักหลายแสนจนถึงเกือบๆ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรียกว่าหากไม่ใช่อัครมหาเศรษฐีคงไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวมอง

สาเหตุที่ราคาทะลักทลายไปขนาดนั้นเพราะการออกแบบและทุกขั้นตอนของการผลิต หรือชิ้นส่วนต่างๆ คัดสรรมาแบบที่สุดของที่สุด

รวมถึงการผลิตจำนวนจำกัดแต่ละรุ่นแค่หลักสิบหรือร้อยคันเท่านั้น แถมเป็นการผลิตแบบที่เรียกว่าหมดแล้วหมดเลย

เสน่ห์ของ “ปากานี” ไม่เพียงแต่เนี้ยบและแรงเว่อร์ๆ เท่านั้น หากแต่ยังไม่ต่างจากของสะสมของอภิมหาเศรษฐีผู้รักความเร็วทั่วโลก

ที่น่าสนใจก็คือรุ่นเก่าๆ ที่ผ่านมาราคาขายต่อแพงกว่าตอนซื้อใหม่ทั้งสิ้น

เรื่องของเรื่องเพราะเจ้าของมักไม่ค่อยปล่อยออกมานั่นเอง ทำให้หาซื้อได้ยากเย็นแสนเข็ญเหลือใจ

ปากานี เป็นรถไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี หากดูอายุอานามถือว่าไม่มากเพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี ค.ศ.1992 ที่ผ่านมานี่เอง ผลิตรถออกมารวม 6 รุ่น

แพงระยับที่สุดต้องยกให้รุ่น “ปากานี ซอนด้า เรโวลูเชี่ยน” (Pagani Zonda Revolucion) ผลิตออกมาแค่ 5 คัน ราคาจำหน่ายในยุโรป 2.2 ล้านยูโร

ในเมืองไทยบริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป เจ้าพ่อนำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถหรู ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เมื่อ 3 ปีก่อนนำรุ่น “ปากานี ฮูไอร่า” เข้ามาเปิดตัว มีมหาเศรษฐีเมืองไทยจับจองไปเรียบร้อยในราคาเฉียดๆ 100 ล้านบาท

และรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่คือ “ปากานี ฮูไอร่า บีซี” (Pagani Huayra BC)

สำหรับชื่อรุ่น “ฮูไอร่า” มีที่มาจาก “ฮูไอร่า ตาตา” เทพแห่งวายุ ผู้บงการสายลม พายุ และพายุหิมะ มีความนุ่มนวล แต่ขณะเดียวกันก็ทรงพลังจนสามารถพัดถล่มทุกสิ่งให้พังทลายได้

ส่วนคำว่า “บีซี” มีที่มาจากชื่อ “เบนนี่ ไคโอล่า” (Benny Caiola) ลูกค้าคนแรกของปากานี

pagani-huayra-bc-rear-close

ฮูไอร่า บีซี ออกแบบสไตล์รถคูเป้ เน้นความโค้งมนช่องดักลมด้านหน้าขนาดใหญ่ ขณะที่ไฟหน้าออกแบบทรงเรียวข้างละ 2 เส้น ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรุ่น Zonda R และไฟ LED ส่องสว่างเวลากลางวัน

พร้อมเอกลักษณ์ที่กระจกมองข้างทำเป็นก้านยื่นออกจากตัวถัง ส่วนกระจกเป็นรูปทรงรี

กันชนหลังที่ผสานกับดิฟฟิวเซอร์ซึ่งสอดคล้องกับโครงโค้งมนที่โอบอุ้มท่อไอเสียทั้งสี่ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นแบบฉบับของยานยนต์ในตระกูลปากานี

bc_5-620x350-jpg

ประตูเปิดแบบปีกนก

การออกแบบรูปทรงของยานยนต์ใช้เวลานานถึง 5 ปี ในการค้นหาเส้นสายทุกเส้นอย่างประณีต โดยมีการสร้างแบบจำลองขึ้นถึง 8 รูปแบบ

โครงหลักชิ้นเดียวไร้รอยต่อแบบ Monocoque ใช้วัสดุคาร์บอน-ไทเทเนียมรูปแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งปากานีได้เปรียบค่ายอื่นๆ เพราะเป็นผู้ผลิตวัสดุคาร์บอนรายใหญ่ของโลกด้วย ทำให้สามารถลดจำนวนชิ้นส่วนและท่อต่อที่ไม่จำเป็นได้จำนวนมาก

ทำให้ฮูไอร่า บีซี มีน้ำหนักเพียง 1,350 ก.ก. เป็นรถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในคลาส

โครงสร้างภายนอกออกแบบเน้นหลักอากาศพลศาสตร์ ทั้งความสูงของส่วนหน้ารถ ซึ่งสามารถปรับระดับได้ตามการขับเคลื่อน ผ่านตัวปรับระดับ 4 ตำแหน่งตามมุมทั้งสี่ด้านของตัวรถ

เพื่อให้การควบคุมเข้าสู่ศูนย์กลางตัวรถมากที่สุดในทุกสภาพการขับขี่ และเพื่อป้องกันการพลิกคว่ำ

การทำงานของตัวปรับระดับควบคุมโดยหน่วยควบคุม รับข้อมูลจากระบบเบรกกันล้อล็อก (ABS) และชุดควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ซึ่งจะส่งข้อมูลทั้งความเร็วรถ อัตราการหันเห อัตราเร่งหนีศูนย์กลาง มุมเลี้ยว และตำแหน่งวาล์วปีกผีเสื้อ

ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ในทุกสภาพการขับขี่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสัมประสิทธิ์แรงต้าน ยกตัวอย่าง ในขณะเบรก ตัวปรับระดับล้อหลังและระบบกันสะเทือนล้อหน้าจะยกตัวขึ้นเพื่อถ่ายเทน้ำหนัก และช่วยกระจายน้ำหนักให้สมดุลระหว่างเพลาหน้าและหลัง ทำให้การใช้แรงเบรกที่ล้อหลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น

pagani-768x512

ภายในถือเป็นอีกจุดเด่นเพราะออกแบบได้หรูหราไฮโซเหลือใจ

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นมีระบบควบคุมหลักทั้งหมด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่ติดตั้งกับพวงมาลัย

แผงหน้าปัดอะลูมิเนียมได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานออกแบบนาฬิกาสวิสที่มีความละเอียดซับซ้อน ติดตั้งจอระบบ Multi-Function Display เพื่อแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดเมื่อใช้โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (SPORT mode)

แสดงการคำนวณเส้นทางอัตโนมัติเมื่อเลือกใช้โหมดคอมฟอร์ต (COMFORT mode)

สำหรับแผงคอนโซลอะลูมิเนียมทำขึ้นจากบล็อกอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียวในรูปทรงขลุ่ยแคลริเน็ตที่ติดตั้งสวิตช์ต่างๆ เพื่อการควบคุมระบบ HVAC system

จอทัชสกรีนความละเอียดสูงตรงกลาง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมทั้งระบบเสียง ดาวเทียมนำร่อง การทำงานระบบสำรอง และโทรศัพท์บลูทูธ

%e0%b9%82%e0%b8%8a%e0%b8%a7%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%a16-2%e0%b8%81%e0%b8%a2-768x512

คันเกียร์ประกอบด้วยมือทั้งหมด

เบาะนั่งถูกออกแบบให้มีความสบายเพื่อการวิ่งระยะไกล พร้อมส่วนซัพพอร์ตด้านข้างเมื่อเกิดแรงโน้มถ่วงในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง

ความปลอดภัยมากันครบเครื่องที่สุดแล้ว

ขุมพลังของฮูไอร่า บีซี ใช้เครื่องยนต์ของ Mercedes-AMG รหัส M158 พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ แบบ 12 สูบ Bi-Turbo ความจุ 5,980 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 730 แรงม้า บวกกับแรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์แบบซีเควนเชียล 7 สปีดและคลัตช์จานคู่ พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับนวัตกรรมการขับเคลื่อน

ทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 370 ก.ม./ช.ม.

ถือว่ามีกำลังจี๊ดสุดของปากานีแล้ว

%e0%b9%82%e0%b8%8a%e0%b8%a7%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%a15-2%e0%b8%81%e0%b8%a2-768x512

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงแบบ 2 ระดับใช้ปั๊มที่ควบคุมด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ 2 ตัวในการจ่ายน้ำมันเข้าเครื่องยนต์ โดยปั๊มที่สองจะทำงานเมื่อจำเป็นเท่านั้น จึงช่วยลดการใช้พลังงานและภาระความร้อนในช่องทางการจ่ายน้ำมัน

ถังเก็บน้ำมันที่ใหญ่ถึง 85 ลิตร เรียกว่าซัดกันได้ยาวๆ

เครื่องยนต์ M158 มีกำลังเครื่องเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ V12 รุ่นอื่นๆ แต่กลับมีอัตราการปล่อยไอเสียและการใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า

ระบบท่อไอเสียไทเทเนียมระบบท่อตรงของเทคโนโลยีรถแข่ง มีน้ำหนักรวมของระบบท่อไอเสียน้อยกว่า 10 ก.ก. ใช้หัวต่อหุ้มไฮโดรโฟมเพื่อลดแรงดันกลับและช่วยให้ไอเสียสามารถระบายได้อย่างราบรื่น

วัสดุไทเทเนียมยังช่วยให้ระบบท่อไอเสียมีน้ำหนักเบา และใช้วัสดุอินโคเนล (Incone) ในส่วนของระบบที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ปรับแต่งเสียงระบบท่อให้ได้เสียงกระหึ่มที่กลมกลืนเมื่อเร่งความเร็ว และมีเสียงครางของเครื่องที่บ่งบอกถึงพลังแม้ในยามขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ

แรงบันดาลใจของการแต่งเสียงคือจำลองเสียงเครื่องบินความเร็วสูงบนท้องฟ้านั่นเอง

ในเมืองไทยได้โควต้านำเข้ามาแค่คันเดียว

สนนราคาอยู่ที่ราวๆ 200 ล้านบาท