‘ลูกเพื่อน-ลูกพ่อ’ ผู้ว่าแบงก์ชาติ : เจีย สิรี

ไร้สาระ! หลังจากคิดว่าตัวเองมีภูมิหนักแน่นประมาณหนึ่งในความเท่าทันต่อสมเด็จฮุน เซน อย่างสกรรม (อันหมายถึงช่ำชอง) นั้น กระจ่างแจ้งว่า

เขาคือจอมขมังเวทย์แห่งอดีตลัทธิคอมมิวนิสต์เลยทีเดียว สำหรับสมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา

ครั้นเลือกตั้งคล้อยผ่าน เราจึงได้เห็นประจักษ์แจ้งดังกล่าว สำหรับองค์ความรู้อันเชี่ยวชาญในกลยุทธ์ที่ลึกล้ำของฮุน เซน และระบอบ

จนมาถึงจากพ่อถึงลูก “ฮุนเซน2/ฮุนมาแนต1” ซึ่งไม่ใช่แต่ทายาท ที่เตโชเสนให้ความสนใจในการวางหมากกลเกมการเมือง

แต่ยังรวมเหล่าขุนศึกและทายาทเหล่านั้นอีกด้วย

เจีย จันโต จากแฟ้มพนมเปญโพสต์

เดิมที ฮุน เซน เกือบจะบิดทางให้ฮุน มาแนต ร่ำเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์เพื่อที่จะกลับมาคุม “ธนาคารกลาง” หรือธนาคารแห่งชาติอย่างเบ็ดเสร็จ

และสิ่งที่พิสูจน์เรื่องนี้ คือการที่ฮุน มาแนต เมื่อเหยียบแผ่นดินอเมริกาในปี 1995 และระหว่างรอปรับภาษาในปีแรก ฮุน มาแนต ถือโอกาสเรียนเศรษฐศาสตร์ก่อนเข้าโรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์

ต่อพรสวรรค์คณิตศาสตร์ของฮุน มาแนต นี้เป็นที่เผยแพร่ตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขากลับส่งเสริมให้ศึกษาด้านการทหารเสียนี่ นัยทีแล้วอาจเป็นไปได้ว่า ขณะนั้นสหรัฐเองได้เสนอทุนเอาใจฮุน เซน ด้วย

ทั้งที่เป็นไปได้ว่า ใจจริงนั้น ฮุน เซน เองก็วางแผนอยากเห็นทายาทนั่งคุมธนาคารชาติ ทว่า เขามีลูกชายแค่ 3 คน แต่ละนายต้องศึกษาตามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง

ฮุน เซน และบุน รานี นั้น รักการมีครอบครัวขยาย พวกเขาไม่เคยลืมลูกชายคนแรกที่ตายในสมัยเขมรแดงตั้งแต่ยังเป็นทารก (1976) หากฮุน กำสรด ยังมีชีวิตจะคงจะคุมกองทัพและมีอายุ 47 ปี

หรือมิฉะนั้น ก็นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี!

อย่างไรก็ตาม เมื่อทายาทมีน้อยไม่เพียงพอสยายขุมกำลัง สมเด็จฮุน เซน จึงพึ่งพาเพื่อนรักอย่างเจีย จันโต ที่เขาเชื่อใจได้ว่าจะไม่หักหลัง ดังนั้น ปฏิบัติการสร้างระบอบฮุนเซนรุ่นที่ 2 ก็ถือกำเนิดขึ้นไม่นานหลังเหตุการณ์รัฐประหาร (1997)

1998 เจีย จันโต กลายเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ในปี 1989 เขาส่งลูกสาว เจีย สิรี (Chea Serey) ไปเรียนที่ฝรั่งเศสโดยหมายมาดจะศึกษาต่อในสถาบันดังๆ ของที่นั่น

ทว่า เจีย สิรี กลับมาจบมัธยมปลายที่สิงคโปร์ ในปี 1999 ที่ฮุน มาแนต สำเร็จนายร้อยเวสต์ปอยต์นั่นเอง

เจีย สิรี เข้าทำงานในแบงก์ชาติของพ่อ และไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่นิวซีแลนด์

เจีย สิรี สำเร็จการศึกษาในราวปี 2002 ขณะนั้น ฮุน มาแนต สำเร็จเศรษฐศาสตร์ในระดับปริญญาโทที่นิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม การฟูมฟักของบิดาเจีย สิรี มีส่วนทำให้เธอไม่ได้กลับเรียนต่อใดๆ อีกหรือไม่? ดูเหมือนว่าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติและอนาคตของกัมพูชาจะยังคงทำงานช่วยบิดาที่พนมเปญ และเธอเองที่สร้างครอบครัวต่อมา

นิวซีแลนด์ไม่ได้มีสถาบันเฉพาะด้านที่มีชื่อเสียงอย่างฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม หน้าที่การงานของเจีย สิรี ยังคงก้าวหน้าเช่นเดียวกับบิดาของเธอที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคาร ตั้งแต่ปี 1998 และต่อไป ตามจุดประสงค์ของสมเด็จฮุน เซน เพื่อนรัก

ว่ากันว่า แท้แล้ว พวกเขาหมายจะดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน

แต่เจีย สิรี มีครอบครัวไปก่อน และนั่นหรือไม่ที่ทำให้เจีย สิรี มีโปรไฟล์การศึกษาที่ไม่หรูหรานัก แม้กระทั่งเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาในปี 2013 โปรไฟล์ประวัติของเธอก็ยังไม่น่าเกรงขาม

ต่างจากฮุน มาแนต ที่แม้จะรับราชการทหารแล้วตอนนั้น แต่ยังไปศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์ที่สหราชอาณาจักรในระดับปริญญาเอก (2008) จนได้พบรักกับภรรยาโลกจุมเตียวเพ็ชร จันมุนี ที่นั่น

ราวปี ค.ศ.2015 เจีย สิรี กลับไปเรียนต่อที่อังกฤษด้านการเงินธนาคารจากสถาบันแห่งหนึ่งในระดับปริญญาโท กระทั่งอีกหลายปีที่ผู้คนรู้ว่า เธอคือตัวแทนของบิดาในแบงก์ชาติในที่สุด

น่าแปลก เจีย สิรี ที่มีแบ๊กกราวด์รู้จักนักกูรูเศรษฐศาสตร์ตะวันตกมากมาย กลับเลือกศึกษาต่อปริญญาเอกที่ออสเตรเลียที่ไม่โดดเด่นอะไร ในปี 2021 เธอสำเร็จปริญญาเอกแล้ว และอีก 2 ปีต่อมา ใน ครม.ซึ่งถ่ายเปลี่ยนผลัดใบนายกฯ คนใหม่ ฮุน มาแนต รวมทั้งบิดาของเธอที่หมดวาระไป และเปิดทางให้เธอเป็น :

“ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา” คนใหม่ในรอบ 25 ปี!

เจีย จันโต ภาพวันฉลองปริญญาเอกของลูกสาว : เจีย สิรี (พฤษภาคม 2565)

ใครกันที่จุดความคิด ฮุน เซน ในการสร้างคนตามระบอบของตนโดยมีลูกสาวเพื่อน เจีย สิรี เป็นตัวเลือก?

หรือ จูลง ซูมูรา ภรรยาสัม รังสี คนที่เคยนั่งตำแหน่งนี้มาก่อนในอดีต? (1992-1995)

ไม่หรอก ฮุน เซน มีเพื่อนที่ตนไว้ใจในจำนวนนี้คือรุ่นที่ 2 ของฮุน มาแนต แต่หรือ? จริงแล้ว เขาตั้งใจจะผลักดันฮุน มาแนต เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติเขมรเสียเองและมาแนตก็ฉายแววเสียด้วย?

ตอนนี้ เอกอุดมฮุน มาแนต มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี โลกสรัยเจีย สิรี ก็เช่นกัน มีตำแหน่งเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ สรุปบรรลุวัตถุประสงค์ที่ดำเนินมากว่า 20 ปี ทั้งลูกเพื่อนและลูกพ่อ ที่ฮุน เซน ปลุกปั้นมากับมือ

อย่างฮุน มาแนต เมื่อต้องไปเป็นตัวแทนพ่อในกองทัพ ก็พลิกความทันสมัยให้ข้าราชการทหารที่สามารถรับเงินเดือนผ่านการโอนตรงจากธนาคาร สร้างความฮือฮาให้กับชาวกัมพูชาอย่างมาก ทั้งๆ ที่ออกจะล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ฮุน มาแนต ก็นับว่ามีการริเริ่มใหม่ๆ ที่ช่วยลดปัญหาการคอร์รัปชั่น และถูกนำไปเป็นโมเดลของกระทรวงอื่นๆ

เถอะ! แม้จะพลาดไปเรื่องนั้น คือคลุมถุงชนไม่สำเร็จ!

แต่พอเห็นเค้าว่า รัฐบาลฮุน มาแนต ได้ถูกวางแผนอย่างรอบคอบไว้แล้วโดยบิดา ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงินการธนาคารก็ถูกสร้างโดยระบอบฮุนเซนมาแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ 25 ปีเต็ม!

นี่ดาวเด่นที่ฮุน เซน ปลุกปั้นเพื่อสืบสานระบอบของตนในรุ่นที่ 2 แห่งวงการการเงินการธนาคารกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน จึงไม่ได้บ้าแต่เรื่องกองทัพ แต่เขานี่แหละที่เป็นจอมบุกเบิกแบงก์ชาติกัมพูชา โดยเฉพาะมาตรการเงินประกันธนาคาร 13 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวเกือบ 500 ล้านบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนในปีนั้น ซึ่งขณะนั้น ได้สร้างปัญหาอย่างรุนแรงให้แก่แบงก์ต่างประเทศ โดยเฉพาะไทย! ที่ยังไม่ฟื้นจากต้มยำกุ้งปี 2540!

ฮุน เซน ยังเก๋า ที่วางหมากให้เจีย สิรี ลูกสาวเพื่อนบริหารแบงก์ชาติ ตามไอเดีย “ฮุน เซน คิด-เจีย จันโต ทำ” ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สำหรับธนาคารต่างชาติที่เพิ่มอัตรากองทุนวงเงินประกันเป็น 37 ล้านเหรียญสหรัฐ ในประเทศที่ภาคการเงินธนาคารมิได้เติบโตมั่นคงเทียบเท่าสิงคโปร์, ฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลก แต่กัมพูชาทำได้!

ในท่ามกลางความสำเร็จแห่งการพัฒนาประเทศตามระบอบฮุนเซนแต่กลับแปลกที่พบว่า ค่าเงินเรียลยังไม่เคยกลับมาเป็นที่นิยม แต่ในนามนโยบายผู้ว่าการ เจีย สิรี กลับส่งเสริมเงินหยวนเพื่อลดอิทธิพลยูเอสดอลลาร์และบาทอย่างน่าสนใจ

เจีย จันโต-ฮุน เซน (2555)

เจีย สิรี (42) วันนี้ เธอได้รับการจับตาจากหลายฝ่ายรวมทั้งแคมเปญ “บากง” (Bakong) แพลตฟอร์มเพื่อรองรับ E-Wallet Mobile Banking ที่เติบโตในโลกเงินดิจิทัลซื้อขายออนไลน์ในกัมพูชาที่ได้รับการโปรโมตและกวาดรางวัลผลงาน

ในฐานะผู้หญิงแถวหน้าที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพสำคัญของกัมพูชา เจีย สิรี ได้รับความสนใจจากนักบริหารระดับสูงของภูมิภาคที่ดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐมากกว่า 1,200 คน!

เธอเพิ่งกลับมาโสดหลังหย่าขาดจากสามีเมื่อปีที่แล้ว เธอหันมาเติมเต็มชีวิตด้วยเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมอีก 2 คน หลังจากลูกๆ ตัวเองเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีงานอดิเรกคือวาดภาพสีน้ำ เธอยังมีแกลเลอรีส่วนตัวสำหรับแสดงงานศิลปะสมัยใหม่ในกรุงพนมเปญ

แต่จากนี้ไป วิกฤตเศรษฐกิจมากมายที่รุกคืบกัมพูชากำลังจะถาโถมเข้ามา

ยินดีต้อนรับ “เด็กของพ่อ” เธอเขาทั้งสอง “เจีย สิรี-ฮุน มาแนต”

credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey
credit : @cheaserey