E-DUANG : ไฉนเสียงของ “คนใต้” จึงเปล่ง “พลัง”

ไม่เพียงแต่เสียงอันดังมาจาก นายชวน หลีกภัย ในเรื่อง”รายได้”ที่ลดลงของภาคใต้เท่านั้น

ที่เริ่มเปล่งพลานุภาพ

กระทั่ง “นายกรัฐมนตรี” ต้องบัญชา “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ออกมา

แสดง “ความขอบคุณ”

การนี้สามารถเข้าใจได้หากมองจาก “สถานะ” และท่าทีของ นายชวน หลีกภัย ที่มีต่อคสช.ที่มีต่อรัฐบาล

แม้ไม่ถึงระดับเดียวกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

กระนั้น ก็ต้องยอมรับในความปรารถนาดี ห่วงใย อัน นายชวน หลีกภัย มีต่อคสช.และมีต่อรัฐบาลนั้นมีค่อนข้างสูง

สันถวมิตร” จึง “สนิทสนม” อย่างเป็นพิเศษ

 

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การเคลื่อนไหวของ นายชวน หลีกภัย ก็ประ สานและสอดคล้องกับความเดือดร้อนของชาวใต้

เห็นได้จากเสียงของชาวประมงที่ตลาดปลา ปัตตานี

เห็นได้จากเสียงของ “คนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ที่สงขลา

เห็นได้จากเสียงของเกษตรกรชาว “สวนยาง”

ถามว่าเกษตรกรชาวสวนยาง ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางหรือไม่

ตอบได้เลยว่ามีชะตากรรมไม่แตกต่างกัน

แต่การแสดงออกของเกษตรกรชาวสวนยางจากภาคใต้ได้รับความสนใจ ล้างหูน้อมรับฟังมากกว่า

เหมือนๆกับกรณีของ นายชวน หลีกภัย

 

นี่มิใช่เรื่องที่ชาวภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะคอยแต่อิจฉาชาวภาคใต้

หากแต่จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ

จุดเด่นเป็นอย่างมากของชาวภาคใต้ก็คือ มีความเป็นเอกภาพ มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ยิ่งกว่านั้นยังมีลักษณะการรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน

พลานุภาพจากการเคลื่อนไหวของชาวภาคใต้จึงมีน้ำหนักและจำเป็นที่ส่วนกลางจักต้องให้ความสนใจ

ลักษณะ “จัดตั้ง” ลักษณะ”เอกภาพ”ต่างหากคือจุดสำคัญ