ไม่ว่าจะมีคำถามในเรื่องความเชื่อมั่นที่เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นรอบที่ 2 ไม่ว่าจะมีคำถามในเรื่องความมั่นใจต่อการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272

ยังไม่มีคำตอบจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่ได้ยินคำอธิบายจาก นายชัยธวัช ตุลาธน ตรงกันข้าม กลับมี”บาง”การเคลื่อนไหว”ปรากฏขึ้น”

สังคมเห็นการโพสต์ข้อความจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขานรับต่อคำแถลงล่าสุดจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อเรียกคะ แนนเสียงสนับสนุนจาก สว.

ขณะเดียวกัน เห็นการเผยแพร่ภาพผ่านอินสตาแกรมระหว่างการพบในลักษณะพักผ่อนร่วมฟังเพลงแจซของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ยิ่งกว่านั้น นส.พรรณิการ์ วานิช ก็จัดทำคลิปของตนเองออก มาอย่างต่อเนื่องฉายชี้ให้เห็นถึงพลัง”ต้าน”ความสำเร็จของพรรคก้าวไกล ความสำเร็จของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ในคำถามจึงมากด้วยคำถาม ในความสงสัยจึงมากด้วยความสงสัยในทางความคิด ในทางการเมือง

ตกลงพรรคก้าวไกลจะเอาอย่างไรต่อ”ปม”ที่บังเกิดขึ้น

 

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าพรรคก้าวไกลมองข้าม”ปัญหา”อันเหมือนกับเป็นมรสุมที่กระหน่ำเข้ามาด้วยความร้อนแรงและทวีความแหลมคม ณ เบื้องหน้า

ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการแก้ไขมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

หาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีโอกาสริบหรี่เป็นอย่างยิ่งที่จะกว้านคะแนนเสียง 376 มาอยู่ในความยึดครอง หากพรรคก้าวไกลไม่มีทางเลยที่จะแก้ไขมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ

แล้วการขับเคลื่อนของพรรคก้าวไกลจะไม่สูญเปล่าหรอกหรือ แล้วชัยชนะที่พรรคก้าวไกลได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือน พฤษภาคมจะไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ

ความสงสัยนี้ต่างหากที่สำคัญ การตั้งคำถามในประเด็นนี้ ต่างหากคือความต้องการของพรรคก้าวไกล

 

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าพรรคก้าวไกลมองไปยังการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าจะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีคือในปี 2570 หรือว่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม

สิ่งที่ทำ ณ วันนี้ จึงเป็นการเล็งผลเลิศไปยัง”อนาคต”

เนื่องจากพรรคก้าวไกลประเมินแล้วว่าโอกาสของพรรคก้าวไกลมิได้อยู่ตรงหน้า โอกาสของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มิได้อยู่ที่ วันที่ 19 กรกฎาคม

ความคิดของพรรคก้าวไกลจึงเหมือนกับความคิดของพรรคอนาคตใหม่ นั่นก็คือ การปักธงในทางความคิดแน่วแน่ มั่นคง