รายงานพิเศษ / เอ็กซเรย์ คสช. “พี่ป้อม-น้องตู่” เอาอยู่? จับอาการ “บิ๊กเจี๊ยบ-บิ๊กเข้” โฟกัส “บิ๊กน้อย” นั่ง “นายกฯ ใต้” จับตาลูกประดู่ “ชมพู-ฟ้า” ยุค “บิ๊กนุ้ย”

รายงานพิเศษ

เอ็กซเรย์ คสช. “พี่ป้อม-น้องตู่” เอาอยู่?

จับอาการ “บิ๊กเจี๊ยบ-บิ๊กเข้”

โฟกัส “บิ๊กน้อย” นั่ง “นายกฯ ใต้”

จับตาลูกประดู่ “ชมพู-ฟ้า” ยุค “บิ๊กนุ้ย”

ผลพวงจากการที่บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ปรับคณะรัฐมนตรี โดยเด้ง 2 รองหัวหน้า คสช. อย่างบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และบิ๊กเข้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศรัย พ้นเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี

และเด้งบิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่เป็นสมาชิก คสช. พ้นเก้าอี้ รมช.กลาโหม

จะเป็นจุดพลิกผันทำให้เกิดรอยร้าวใน คสช. หรือไม่ แม้ 3 ป.พี่น้อง ทั้ง “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” จะยังคงเหนียวแน่น อยู่ร่วมใน “ครม.ประยุทธ์ 5” ต่อไปด้วยกันก็ตาม

แต่ก็ไม่อาจมองข้ามบาดแผลในใจของ พล.อ.ธนะศักดิ์ พล.ร.อ.ณรงค์ และ พล.อ.อุดมเดช

แม้การที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์ ให้เหตุผลว่า ลาไปต่างประเทศ จึงไม่มาร่วมประชุม คสช. เมื่อ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกมากันครบ รวมทั้งปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทร. ผบ.ทอ. และ ผบ.ตร. และบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. ที่เป็น คสช. โดยตำแหน่ง มากันพร้อมหน้า

แต่ทว่า ก็เป็นการส่งสัญญาณแห่งความรวดร้าวในใจของเพื่อนเจี๊ยบ และน้องเข้ ตท.13 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับรู้ได้บ้าง

หากมองผิวเผินแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งคู่จะไม่มาประชุม เพราะตั้งแต่หลุดจาก ครม. ไป ทั้ง 2 คนก็เงียบหายไปเลย คนใกล้ชิดระบุว่า “เก็บตัว” เพื่อใช้เวลาในการทำใจ

อีกทั้งเพราะแม้จะเกษียณราชการ แต่ก็มาช่วยงานรัฐบาล คสช. มา 3 ปีกว่า ไม่ได้พักผ่อนเลย เมื่อไม่มีงานรับผิดชอบหลักๆ ก็จึงไปพักผ่อน พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์ จึงอาศัยเวลาช่วงนี้ลาพักผ่อน

แต่อยู่ที่ว่า จะลาไปนานแค่ไหน…

กระนั้นก็ตาม กลิ่นแห่งความน้อยใจ เสียใจ ก็โชยมา ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะปรับออก แต่ทว่าบอกล่วงหน้าแค่ 1-2 วันเท่านั้น มันไม่เพียงพอที่จะทำใจกับชีวิตของตนเองที่จะต้องเปลี่ยนไป รวมถึงทีมงานและลูกน้องด้วย

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวว่า ผมไม่จำเป็นต้องบอกใครก็ได้ เพราะมันเป็นอำนาจของนายกฯ อยู่แล้วในการปรับ ครม. ก็ตาม

แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้จะเป็นชายชาติทหาร ก็ย่อมต้องเกิดความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น แม้ว่าต่างจะเผื่อใจไว้บ้างแล้วก็ตาม แต่ในความเป็นจริง ก็ไม่มีใครคาดคิดว่านายกฯ จะปรับคนที่เป็น คสช. คนที่เคยร่วมแผง ผบ.เหล่าทัพ รัฐประหารด้วยกันมา ออกจาก ครม.

แม้ พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์ จะไม่ใช่ “คสช.เนื้อแท้” คือ ไม่ได้ร่วมวางแผนหรือรับรู้แผนการรัฐประหารตั้งแต่ต้น แต่ทว่าก็เป็น ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.ทร. ที่ร่วมเป็นแผงอำนาจ คสช. ช่วยงาน คสช. มาตั้งแต่วันแรก

ท่ามกลางการจับตามองว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์ จะมาประชุม คสช. นัดต่อไปหรือไม่ หลังจากที่คนใกล้ชิดเผยว่า “นาย” แทบอยากจะลาออก

แต่ทว่าก็เห็นแก่ภาพพจน์ของ คสช. ที่จะต้องคงความเป็นหนึ่งเดียว เหนียวแน่นกันไว้ เพราะหากลาออกไป ก็อาจถูกมองว่า เพราะไม่พอใจที่หลุด ครม. และจะมองหน้ากันไม่ได้ในอนาคต

“ไม่ได้เสียใจ แต่เสียความรู้สึกกันมากกว่า” ขุมข่าวระบุ

แต่ที่ทำให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์ เจ็บซ้ำสอง ก็เมื่อมีการปล่อยข่าวสาเหตุที่ทั้งคู่ถูกนายกฯ ปรับออกจาก ครม. ด้วยเรื่องต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

หรือแม้แต่ข่าวที่ว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ เตรียมไปตั้งพรรคทหาร และเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเอง

ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ เป็นเพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แม้จะไม่ได้สนิทสนมแนบแน่นกันเท่าใดนัก แต่เป็นรองหัวหน้า คสช. และเป็นรองนายกฯ มากว่า 3 ปี กลับถูกปลด

 

ส่วนเพื่อนรัก ตท.12 ทั้งบิ๊กเต่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ยังคงเป็น รมว.ทรัพยากรฯ ต่อ ส่วนบิ๊กฉัตร พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็ขยับขึ้นชั้นเป็นรองนายกฯ ที่มาดูแลงานแทน พล.ร.อ.ณรงค์

ท่ามกลางการจับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะแต่งตั้ง พล.อ.ฉัตรชัย เพื่อนรัก ที่นายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ “กล่องดวงใจ” หรือ “กล่องเงิน” คนนี้เป็นสมาชิก คสช. เพิ่มเติมด้วยหรือไม่ เพราะต้องคุมสายงานตามการแบ่งงานของรองนายกฯ

“ไม่มี ไม่ได้น้อยใจอะไร” บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร ปัดว่าไม่ได้เกิดรอยร้าวใน คสช. และไม่เชื่อว่าคนที่หลุด ครม. จะน้อยใจ

“อย่าพูดไปเรื่อย เขาลาไปต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธรอยร้าวใน คสช.

“เขาอยู่กันแค่นี้ ก็ประชุมได้” พล.อ.ประยุทธ์ สำทับถึงการประชุม คสช. ที่ไร้ พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.ร.อ.ณรงค์

แต่ก็ยังมี พล.อ.อุดมเดช ที่เป็น คสช. ที่แม้จะหลุด ครม. แต่ยังมาประชุม เพราะถือสัจจะตามที่ได้บอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ยินดีครับ และพร้อมที่จะช่วยงาน ในฐานะ คสช. ต่อไป

“ผมยินดี และเต็มใจ และไม่ได้เสียใจ หรือเฮิร์ตอะไร เพราะเข้าใจท่านนายกฯ และยังรักเคารพท่านเหมือนเดิม” พล.อ.อุดมเดช กล่าว

พล.อ.อุดมเดช นั้นพยายามทำให้ทุกอย่างดูเหมือนปกติ แต่เชื่อว่าในหัวใจของเขา ก็คงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

แต่สิ่งที่ พล.อ.อุดมเดช แสดงออกได้ มีแต่ความเข้มแข็ง ความเป็นนายทหารสุภาพบุรุษ และการเป็นน้องชายที่แสนดีของนายกฯ บิ๊กตู่

รวมทั้งการเป็นพี่ชายที่แสนดี เมื่อบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รุ่นน้อง ตท.16 มาพบและพูดคุยปรึกษาหารือ หลังจากที่มีโปรดเกล้าฯ ลงมา

ด้วยเพราะ พล.อ.ชัยชาญ เองก็ไม่สบายใจ ที่การมาเป็น รมช.กลาโหม ของตนเองทำให้ พล.อ.อุดมเดช ต้องหลุดเก้าอี้ และหลุดจาก ครม. ไปด้วยเลย

เพราะตั้งแต่ก่อนหน้าที่ พล.อ.ชัยชาญ จะเกษียณราชการจากปลัดกลาโหม เมื่อกันยายนที่ผ่านมานั้น แม้จะมีข่าวหนาหูว่า พล.อ.ประวิตร และนายกฯ ส่งสัญญาณที่จะให้กลับมาเป็นรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ชัยชาญ ก็ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ โดยเฉพาะเมื่อมีคนมาถามไถ่หรือทำนายทายทักต่อหน้า เพราะเกรงว่า พล.อ.อุดมเดช จะเสียใจ

พล.อ.ชัยชาญ จึงแสดงออกอย่างให้เกียรติ และแคร์ความรู้สึกของ พล.อ.อุดมเดช รวมถึงการไปพบหารือ หลังมารับตำแหน่ง

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งบิ๊กน้อย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ มาเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ (หน.ผทพ.) หรือ คปต.ส่วนหน้า หรืออาจเรียกว่า “ครม.ส่วนหน้า” แทน พล.อ.อุดมเดช นั้น ก็เพราะไม่ต้องการให้ทีมงานของ พล.อ.อุดมเดช ได้รับผลกระทบมากนัก

นอกเหนือจากที่ พล.อ.สุรเชษฐ์ เป็น รอง หน.ผทพ. ที่ทำงานกับ พล.อ.อุดมเดช มานานแล้ว และทำงานในพื้นที่มาตลอด 3 ปี และตั้ง “กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนหน้า” ที่ยะลาอีกด้วย จึงได้มาเป็นหัวของ ครม.ส่วนหน้า หรือที่เรียกกันว่า “นายกฯ ชายแดนใต้”

อีกทั้ง พล.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเพื่อน ตท.14 ของ พล.อ.อุดมเดช และถือว่าบรรดา 13 สมาชิกผู้แทนพิเศษรัฐบาล ส่วน พล.อ.ชัยชาญ เป็นรุ่นน้อง ตท.16 จึงให้มาเป็นรองหัวหน้า ผทพ. เท่านั้น

เรียกได้ว่า พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้เป็นหัว ได้เป็นเบอร์ 1 เสียที เพราะเป็นแค่ รมช.ศึกษาธิการมากว่า 3 ปี ที่ใครๆ ก็บอกว่าเหนียว แถมทั้งได้เป็นหัวหน้า ผทพ. อีกด้วย

ดังนั้น ใน 13 ผู้แทนพิเศษ เดิม ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก นอกจากตั้ง นายพรชาต บุนนาค เป็นเลขาฯ ผทพ. แทน นายภาณุ อุทัยรัตน์ ส่วนทีมงานของ พล.อ.อุดมเดช ก็สามารถทำงานต่อได้ ไม่ต้องถึงขั้นล้างบางทีมกันใหม่

ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ นั้น ได้รับการแบ่งงานจาก พล.อ.ประวิตร แล้ว เช่นที่เคยมอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช แต่ที่เพิ่มมาคือ ช่วยงานของคณะกรรมการเตรียมการปรองดองเพื่อการปฏิรูปฯ ต่อไป หลังจากที่เคยทำมา ตอนที่เป็นปลัดกลาโหม ตามที่นายกฯ ต้องการ

พล.อ.ชัยชาญ สร้างความฮือฮาตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานที่กลาโหม 1 ธันวาคม 2560 เพราะเข้ามาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ยังไม่ทันจะหกโมงเช้า โดยไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อนที่จะเข้ามาไหว้ศาลเจ้าพ่อหอกลอง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกลาโหม โดยไม่ได้ตั้งโต๊ะเครื่องบวงสรวง

“ไม่ได้ถือฤกษ์ถือยามอะไร เพราะปกติมาทำงานแต่เช้าอยู่แล้ว แต่ก็ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคล” พล.อ.ชัยชาญ เผย

แต่เป็นเรื่องธรรมดา ที่เมื่อมีการย้ายห้องทำงานใหม่ ก็ต้องมีการปรับฮวงจุ้ย ปรับเปลี่ยนทิศของโต๊ะทำงาน การวางพระในห้องที่ พล.อ.อุดมเดช เคยอยู่ เพราะอย่าลืมว่า ตอนที่ พล.อ.อุดมเดช อยู่ ก็เกิดเรื่องราวกรณีอุทยานราชภักดิ์เกิดขึ้น แต่ก็ผ่านมาได้ จนมาตอนนี้ก็ต้องหลุดเก้าอี้

 

พล.อ.ชัยชาญ บอกว่าไม่ตื่นเต้น เพราะเหมือนกลับมากลาโหม บ้านหลังเดิม มาทำงานกับน้องๆ ในกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็นเพื่อน ตท.16 ทั้ง บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. และ บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ.

ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มร้อนระอุขึ้น โดยมี 3 ป. บูรพาพยัคฆ์ ตกเป็นเป้าทางการเมือง โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่ว่าจะพูดอะไร ทำอะไร ก็จะโดนตรวจสอบ โดนโจมตีตลอด

แม้แต่การใส่แหวนเพชร ใส่นาฬิกาเรือนหรู ก็ยังโดน จนเจ้าตัวบ่นว่า “ทำไมถึงโดนตลอดเลย”

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นเป้าใหญ่ เพราะถูกมองเป็นคู่แข่งทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ เพราะเชื่อกันว่าจะมาเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มที่จะตั้งพรรค หรือสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค เพื่อกรุยทางสู่สนามการเมือง

ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จึงเป็นเหยื่ออันโอชะของนักการเมือง ที่จ้องถล่ม จิกตี เมื่อพลาด

ขณะที่กองทัพเรือ ในยุคบิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ เป็น ผบ.ทร. นี้ เป็นยุคที่เหนียวแน่น เพราะนอกจากเป็นพี่น้องเตรียมทหารด้วยกัน จบโรงเรียนนายเรือ เป็นชาวบางนาเกร็ง ด้วยกันแล้ว ยังเกิด “สวนกุหลาบ คอนเน็กชั่น” ขึ้นอีกด้วย

ก็เพราะ พล.ร.อ.นริส เป็น ผบ.ทร. คนแรกที่จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ถือเป็น OSK-Old Suan Kularb รุ่นที่ 89

จึงทำให้นายทหารเรือที่เรียกตัวเองว่า “ลูกประดู่ชมพู-ฟ้า” ดูมีความหวัง มีพลังและสดใสขึ้น เพราะ พล.ร.อ.นริส ก็เป็นคนที่รักเพื่อน พี่น้อง และรักโรงเรียน

นี่จึงทำให้กลุ่มประดู่ชมพู-ฟ้า เตรียมจัดงานเชิดชูเกียรติ พล.ร.อ.นริส ผบ.ทร. คนที่ 51 ของราชนาวีไทย แต่ทว่าเป็น ผบ.ทร. คนแรกที่จบสวนกุหลาบฯ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้

พร้อมถือโอกาสแสดงความยินดีกับบิ๊กโตน พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกุล OSK-90 ที่ได้เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) คุมกำลังรบของ ทร. คนแรกเช่นกัน

หากส่องกล้องไปที่กองทัพเรือแล้ว จะเห็นได้ว่า มีนายทหารเรือที่จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบฯ หลายคนที่นั่งในตำแหน่งสำคัญ และหลายคนจ่อในตำแหน่งสำคัญ และได้รับมอบหมายงานสำคัญ

ทั้งบิ๊กช่อ พล.ร.ท.ช่อฉัตร กระเทศ เจ้ากรมยุทธศึกษา ทร. บิ๊กอุ้ย พล.รท.ชาติชาย ศรีวรขาน รอง เสธ.ทร. บิ๊กเป้ง พล.ร.ท.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ ที่ถือว่าเป็นแคนดิเดตชิง ผบ.ทร. ในอนาคต

โดยเฉพาะ พล.ร.ท.ชาติชาย ที่เป็น ตท.20 และ พล.ร.ท.ช่อฉัตร ตท.19 ที่โปรไฟล์ก็ไม่ธรรมดา ที่พี่น้องสวนกุหลาบฯ อาจจะต้องชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. ในอนาคตกันเองอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมี พล.ร.ท.มิ่ง อิ่มวิทยา เจ้ากรมอู่ ทร. บิ๊กเหมียว พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ เจ้ากรมขนส่งทหารเรือ พล.ร.ท.กฤษฎาภรณ์ พันธุมโพธิ เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือ บิ๊กแก๋ง พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผอ.สำนักความมั่นคง กอ.รมน.ทร. พล.ร.ท.วรพล ทองปรีชา ผบ.กองการบินทหารเรือ พล.ร.ต.ภิญโญ โตเลี้ยง หัวหน้าฝ่าย เสธ.ประจำ ผช.ผบ.ทร. พล.ร.ต.อนุชา เอี่ยมสุโร เสธ.ทัพเรือภาค 3 พล.ร.ต.อะดุง พันธุ์เอี่ยม หัวหน้าฝ่าย เสธ.ประจำ เสธ.ทร. โดยมี พล.ร.อ.ปิติวัลยะเพ็ชร์ เป็นแกนนำกลุ่มประดู่ชมพู-ฟ้า

ที่จะทำให้เกิดคอนเน็กชั่นใหม่ OSK Connection ในกองทัพเรือ และเบ่งบานในยุค พล.ร.อ.นริส

แม้จะเป็นพี่เป็นน้องจากโรงเรียนเตรียมทหาร ในฐานะลูกจักรดาวด้วยกัน จนมาถึงอยู่โรงเรียนนายเรือด้วยกัน แต่สายสัมพันธ์สวนกุหลาบฯ ที่เจอกันมาตั้งแต่เป็นเด็กๆ จะยิ่งทำให้สายสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้น

แต่กระนั้น ในทุกประเด็น ทุกความเคลื่อนไหว ย่อมมีความเห็นที่แตกต่าง เพราะหากหมดยุค พล.ร.อ.นริส ไปแล้ว พลังชมพู-ฟ้า จะแผ่วลงหรือไม่

เพราะ ผบ.ทร.คนต่อไป ในเวลานี้นั้น ก็ชิงกันระหว่าง บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. กับบิ๊กตุ๋ย พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. ที่ไม่ใช่ OSK แต่ทว่าทั้งคู่เป็น ตท.18 ด้วยกัน

แต่ไม่ว่าจะคอนเน็กชั่นไหน เมื่อถึงเวลา “อำนาจ” มันไม่เข้าใครออกใคร…ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ หรือน้อง

ประวัติศาสตร์มีมาเยอะแล้ว…