ในเครื่องแบบขาว : เสถียร โพธินันทะ [ดังได้สดับมา]

เมื่อนำเอาข้อเขียนของ “คณะกรรมการนักศึกษา ม.ม.ร.” ประสานเข้ากับข้อเขียนของ สมพร เทพสิทธา ซึ่งรู้จักมักคุ้นกับ เสถียร โพธินันทะ ตั้งแต่เมื่อปี 2491

ก็จะมองเห็นภาพของ เสถียร โพธินันทะ เด่นชัดขึ้น

สิ่งหนึ่งที่คุณเสถียรไม่ชอบก็คือการแต่งกายสากล ไม่ว่าจะได้รับเชิญไปแสดงปาฐกถาหรือบรรยายธรรม ณ ที่แห่งใด และไม่ว่าผู้ฟังจะเป็นคนชั้นไหน เช่น ชั้นรัฐมนตรีหรืออธิบดีก็ตาม คุณเสถียรก็จะแต่งกายตามสบายตามที่ตนพอใจ คือ สวมเสื้อฮาวายปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง

ดูเหมือนจะมีเพียง 2 ครั้งที่ข้าพเจ้าเห็นคุณเสถียรแต่งชุดสากล ครั้งแรกในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษซึ่งคุณเสถียรร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย และครั้งที่ 2 เมื่อคุณเสถียรรับออกรายการโทรทัศน์กองทัพบก

ข้าพเจ้าเลยถามว่า เหตุใดจึงไม่ยอมใส่ชุดสากล

คุณเสถียรได้ตอบข้าพเจ้าว่า เขาเองไม่ต้องการและไม่มียศศักดิ์หรือตำแหน่งทางโลก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแต่งชุดสากล ผู้ใดที่มาเชิญให้ไปแสดงปาฐกถาก็ควรจะสนใจในธรรมะที่จะพูดอย่างเดียว

ไม่ควรจะมาสนใจว่าจะแต่งชุดสากลหรือไม่

ข้าพเจ้ายังจำได้ดีว่า ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการได้เชิญให้สมาคมจัดการอภิปรายเรื่องพระพุทธศาสนาให้บรรดาครูฟังที่หอประชุมกระทรวง ข้าพเจ้าได้รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการอภิปรายเองและได้เชิญคุณเสถียรไปร่วมด้วย

ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของกระทรวงซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าได้มองคุณเสถียรซึ่งนั่งอยู่บนเวทีใกล้ๆ กับข้าพเจ้าด้วยความประหลาดใจ

และอาจจะไม่พอใจในการแต่งกายของคุณเสถียร

ทำนองจะนึกสงสัยอยู่ในใจว่า เจ้าเด็กหนุ่มที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยนี้เป็นใครกันหนอ แต่หลังจากข้าพเจ้าได้กล่าวแนะนำคุณเสถียรและขอให้ผู้ฟังสนใจในธรรมะที่คุณเสถียรพูดยิ่งกว่าเสื้อผ้าที่คุณเสถียรใส่ และคุณเสถียรได้เริ่มบรรยายธรรมะให้ผู้ที่อยู่ในหอประชุมฟัง ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่าสายตาที่มองดูคุณเสถียรด้วยความไม่พอใจนั้นเริ่มเปลี่ยนไป

แต่ท่านจะเลื่อมใสคุณเสถียรสักแค่ไหนนั้นข้าพเจ้าไม่ทราบได้ เพราะข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่านักการศึกษาบางคนในสมัยนั้นไม่ค่อยจะเลื่อมใสและชอบหน้าพวกนักศาสนาเท่าใดนัก เนื่องจากพวกเราที่เป็นนักศาสนาได้เรียกร้องให้มีการปรับปรุงการสอนวิชาศีลธรรม ให้เพิ่มคะแนนวิชาศีลธรรมและให้มีครูสอนวิชาศีลธรรมหรือครูจริยศึกษาโดยเฉพาะ

แต่พวกนักการศึกษาหลายคนไม่เห็นด้วย และหาว่าพวกเรานักศาสนาไม่มีความเข้าใจในเรื่องการศึกษา ลำพังวิชาศีลธรรมจะทำให้คนดีมีศีลธรรมได้อย่างไร

คุณเสถียรไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านปริยัติแต่อย่างเดียว หากแต่ยังได้เป็นผู้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน

นอกจากการบำเพ็ญธรรมทานอันยิ่งใหญ่ที่กระทำอยู่เป็นประจำแล้วคุณเสถียรยังเป็นผู้มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

ผู้ใดที่มีความทุกข์และมาปรับทุกข์กับคุณเสถียร คุณเสถียรก็จะใช้ธรรมะพูดปลอบใจให้คลายทุกข์ และเมื่อมีทางใดจะช่วยเหลือได้ก็มักจะช่วย กุศลกรรมที่คุณเสถียรทำอยู่เป็นประจำก็คือการปล่อยสัตว์ เช่น ปลาและปู ให้พ้นจากการถูกฆ่า

คุณเสถียรจะมาที่ตลาดท่าเตียนเสมอเพื่อซื้อปลาไปปล่อย

บางครั้งก็อุตส่าห์นั่งเรือไปปล่อยถึงกลางแม่น้ำ และบางครั้งก็นั่งรถไปบางปูซื้อปูที่เขาจับไว้ไปปล่อยที่วัดอโศการาม

สุชีพ ปุญญานุภาพ ระบุ ปกติบริจาคทรัพย์ปล่อยปลาเดือนละ 50 บาท

ต่อมาเมื่อได้เงินเดือนขึ้นก็บริจาคเดือนละ 100 บาท และมักจะซื้อปลาที่ตลาดท่าเตียนและจ้างเรือจ้างไปปล่อยปลากลางแม่น้ำ กระทั่งคนแจวเรือจ้างมีศรัทธาขอมีส่วนร่วมในความดีด้วย

โดยรับอาสาแจวเรือไปปล่อยปลาให้โดยไม่คิดค่าจ้าง

การแต่งกายอย่างที่นักศึกษาสรุปว่า “ปอนๆ” ของ เสถียร โพธินันทะ กลับกลายเป็นเอกลักษณ์และยอมรับในการยืนหยัดอย่างมั่นคง ดังที่ สมพร เทพสิทธา ยืนยัน

ขณะเดียวกันจุดเด่นของ เสถียร โพธินันทะ กลับอยู่ที่ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง อุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อการเผยแผ่และเพื่อการปฏิบัติ

ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะพุทธศาสนิก ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะครูบาอาจารย์