เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
“ผี”ลีลา
คำชี้แจง ของคณะกรรมการบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)
ที่ว่า “บริษัทไม่ได้ต้องการจะสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด”
แพรวพราวด้วยลีลา และ มากด้วยความกำกวม
ลีลากำกวมว่า แม้ ไม่ได้ทำสื่อ แต่ยังดำรงความเป็นองค์กรสื่ออยู่
ซึ่งย่อมนำไปสู่การถกเถียงหน้าดำคร่ำเครียด ยืดเยื้อ ไร้ข้อสรุป กันต่อไป
และ เพิ่มน้ำหนักให้ เรื่องนี้”ไปต่อ” ทั้งในระดับคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ไปจนถึง ศาลฏีกา และศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งในทุกขั้นตอนที่ไปต่อก็พร้อมจะมีประเด็นต่างๆเข้ามาแทรกซ้อน ให้เป็น”ปัญหา”ต่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตลอดทาง
ส่งผลให้ การตั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่ กลายเป็นเรื่องเรื้อรัง เป็นเรื่องของความไม่แน่นอน
บั่นเซาะทำลาย เจตนารมณ์ของประชาชน ที่แสดงออกผ่าน ผลการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่ย่อมเข้าทางฝ่ายที่ “ปลุกผีไอทีวี”ขึ้นมาเต็มๆ
แม้ว่าการปลุกผีนี้ จะไม่เป็นธรรมชาติ ถูกจับโป๊ะ ได้ถึงขนาดคาเขาคาหนัง
แต่ ผี ตัวนี้ ก็ยังมีลีลา ฤทธิ์เดช ไม่ยอมให้ปราบให้ง่ายๆ
ว่ากันว่าเพราะมีจอมขมัยเวทย์ คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง อย่างแข็งขัน
จนน่าเป็นหว่งว่า นายพิธา และพรรคก้าวไกล ซึ่งวันนี้ แม้จะอุ่นใจ ด้วยมีประชาชนเสียงส่วนใหญ่ พากันเอาสายสายสิญจน์มาผูกแขน ปลุกปลอบขวัญและป้องกัน”ผี” จนเต็มแขน
แต่ เพียงสายสิญจน์ ผูกแขนของชาวบ้าน จะขลังเพียงพอที่จะป้องกัน ผีที่”เฮี้ยน”อย่างมากนี้ได้หรือไม่
กระนั้นดูแนวโน้มแล้ว คงป้องกัน”ผี”ที่ถูกปลุกขึ้นมาและมากด้วยลีลา ไม่ได้
อาจจำเป็นจะต้อง เรียกร้องให้ ประชาชน ออกมาทำหน้าที่ “หมอผี”เพื่อ ปราบผีนี้ ให้ได้
ซึ่ง เมื่อ พูดถึง”ปราบ”แล้ว ก็ย่อม หมายถึง การต้อง”ปะทะ”หรือ กระทำต่อกันอย่างรุนแรง เพื่อเอาชนะกันให้ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วควรเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง
เพราะเมื่อปะทะกันแล้วมักนำไปสู่การสูญเสียทั้งสองฝ่าย
และสำคัญยิ่งกว่านั้น อาจจะไปเข้าทาง ฝ่ายที่”ปลุกผี” ที่จะตลบหลังอีกชั้น
คือเมื่อปล่อยผีออกมา”หลอน”เพื่อบีบหรือกดดันให้มี “หมอผี” ออกมาปราบ จนนำไปสู่ความวุ่นวายและสูญเสีย
ฝ่ายที่ปลุกผี ก็จะเปลี่ยนเกมไปอีกเกม
นั่นคือฉกฉวยประโยชน์จากการห่ำหั่นกันโดยอ้างถึงเหตุแห่ง”ความไม่สงบเรียบร้อย” เข้ามาเป็น”ฮีโร่”ดับไฟแห่งความขัดแย้ง
พร้อมกับนำเสนอรูปแบบต่างๆที่เราคุ้นชินกันดี ออกมาใช้อีก ไม่ว่า นายกรัฐมนตรีคนนอก รัฐบาลแห่งชาติ หรือแม้กระทั่งเลยเถิดไปถึง คณะรักษาความสงบ ก็มีความเป็นไปได้
ซึ่ง นั่นก็จะนำพาประเทศหนุนเวียนกลับไปสู่ วงจรอุบาทว์ อีกครั้งและอีกครั้ง
ดูเหมือนจะเป็นการมองโลกในแง่ร้าย
แต่กระนั้น หากมองปรากฏการณ์ “ปลุกผีไอทีวี” ต้องยอมรับว่านี่เป็นการผนึกรวมของตั้งแต่เบี้ย คือ”นักร้อง” เรื่อยไปถึงกลุ่มทุน-นิติบริกร-องค์กรอิสระ-การเมือง-ฯลฯ ในนามฝ่ายอนุรักษ์ รวมพลังสะกัด ฝ่ายเสรีนิยมอย่างเข้มข้น
จึงยากอย่างยิ่งที่ผลการเลือกตั้ง14พฤษภาคม จะได้การยอมรับ
ผีถูกปลุกขึ้นมาโชว์ลีลา เขย่าขวัญและ ขัดขวางเจตนารมณ์ของชาวบ้านอย่างไม่เกรงใจ
—————–