คนเรียกเหยี่ยว | เรื่องสั้น : วาริส วารินทร์กวี

เรื่องสั้น | วาริส วารินทร์กวี

คนเรียกเหยี่ยว

 

1. คนแปลกหน้า

เช้าวันนี้ท่าเทียบเรือตำมะลังคลาคล่ำไปด้วยผู้โดยสาร บ้างเป็นคนทำงาน บ้างเดินทางเข้าเมือง บ้างเป็นแม่ค้าต้องเข้าไปซื้อของเข้าร้านชำ บ้างเป็นนักเรียน นักศึกษา ต้องนั่งเรือข้ามฝากหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าฆาโก้ไปยังฝั่งแผ่นดินใหญ่ ผมยืนรอคิวขึ้นเรือไปลงเกาะตำมะลัง ในขณะที่ชาวตำมะลังกำลังทยอยกันขึ้นฝั่งเข้าป่าคอนกรีต

แสงแดดค่อยๆ แผ่รัศมี แต่เราอยู่ใกล้น้ำทะเลและสายลมก็ขยันพัดมาเป็นระลอกอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่ ที่ผมมายังท่าเรือแห่งนี้ ไม่ใช่เพราะการท่องเที่ยว แต่เพราะงานวิจัยที่ยังค้างคา

ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงกำหนด ผมจึงจับสลากมาลงพื้นที่เกาะนี้เพื่อตามหาชายคนหนึ่งซึ่งมีฉายาว่า “คนเรียกเหยี่ยว” ซึ่งผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

เราคุยกันผ่านโทรศัพท์แล้ว ชายคนนั้นจะยืนรอรับผมอยู่ที่ท่าน้ำอีกฝั่ง ที่นั้นไม่มีรีสอร์ตหรือโฮมสเตย์ ผมเกรงใจจนไม่กล้าขอค้างบ้านของเขา เราไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น น้ำเสียงผมเกร็งผิดปกติ อาจจะเป็นมัสยิดตอนนี้เท่าที่นึกออกก็มีแค่นั้นสำหรับพื้นรองหลังเย็นๆ สักที่ให้พอผ่านคืนต่อจากนี้ไป ผมไม่ควรกังวลให้มากไปกว่านี้ พนักงานเรือข้ามฟากผิวคล้ำคนนั้นเรียกให้ผมสาวเท้าขึ้นเรือ ผมลืมสังเกตไปว่าชาวเลตำมะลังได้หายตัวไปจากท่าเรือตั้งแต่เมื่อไหร่

โชคดีที่ผมไม่เมาเรือ แต่ไม่รู้ทำไมยาดมถึงติดตัวมาด้วย ผู้โดยสารเรือส่วนใหญ่เป็นคนแปลกหน้าแทบทั้งหมด จะมีก็แค่ชาวบ้านดั้งเดิมสองสามคน คนขับเรือ และลูกน้องที่เป็นคนในพื้นที่ ผมฟังจากภาษามลายูที่พวกเขาใช้สื่อสารกันอย่างกระชับ จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าไปแล้วผมเองต่างหากที่แปลกจากพวกเขา

ระหว่างยืนจับเหล็กเสาเรือผมนึกถึงใบหน้าคนเรียกเหยี่ยว อันที่จริงเขาชื่อ สุไลมาน แต่นักท่องเที่ยวมักเรียกเขาตามความสามารถพิเศษจนติดปาก ผมเคยดูคลิปการเรียกนกของเขาในติ๊กต็อก เขาทำได้จริงๆ ราวกับว่ารู้ภาษาของนก ซึ่งไม่ใช่แค่นกเหยี่ยวทะเล แต่นกอื่นๆ บนราวฟ้าไม่ว่าชนิดไหนเขาก็สื่อสารได้ราวกับมีอภินิหาร บ้างก็ลือว่าเขามีคาถาโบราณที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ บ้างก็ว่านายสุไลมานทำสัญญากับชัยฎอนมารร้ายเพื่อให้ได้พรสวรรค์นั้นมา ถึงขั้นว่าผู้นำศาสนาในพื้นที่บางคนไม่กินเส้นกับเขาไปโดยปริยายเลยทีเดียว

ข้ามระหว่างคลองน้ำเค็มไปยังผืนดินอีกฝั่งเพียงชั่วครู่ ผมเห็นที่จอดเรือลาดด้วยปูนซีเมนต์หยาบๆ ดูจากสภาพแล้วมันคงใช้งานหนัก วันหนึ่งก็หลายเที่ยว หลายเท้า หลายล้อที่บดย่ำ

คนที่นี่เขาเดินทางเข้าเมืองกันทุกวัน คนในเมืองก็เข้ามาเที่ยวที่นี่แทบทุกวัน ตำนานเรื่องเล่าที่นี่ก็ใช่ย่อย ปืนใหญ่สนิมเขลอะตั้งไว้เหมือนอนุสาวรีย์อยู่ริมฝั่งชเล บ้างเล่าว่าเป็นอาวุธของทหารญี่ปุ่นทำตกไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บ้างก็เล่าว่าเป็นของบรรณาการจากมาเลเซียให้ไว้กับผู้ใหญ่บ้านของเกาะตำมะลังในสมัยนั้น บางทีเรื่องเล่าอาจร่วงหล่นหรือเสริมเติมแต่งเข้ามาตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน

บนท่าเทียบเรือผมเห็นหญิงสาวคนหนึ่งคลุมฮิญาบสีขาว สวมชุดลายปาเต๊ะสีฟ้า ใบหน้าคมเข้มแบบคนมลายู-ชวา ผมเพลิดเพลินกับนางฟ้าท่าเรืออยู่ได้ไม่นานก่อนจะเห็นว่าชายไว้หนวดเครารุงรังเหมือนอับราฮัม ลินคอล์น สวมหมวกกะปิเยาะสีขาวขุ่น สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งผ้าโสร่งลายหมากรุกสีน้ำตาลดำ กำลังม้วนลำใบจากอย่างตั้งอกตั้งใจและบรรจงจุดไฟปลายลำ ก่อนคีบคาบขึ้นสูบพร้อมปล่อยควันสีขาวนวลสู่เวิ้งอากาศ ในขณะที่ผมกำลังจ่ายค่าโดยสารพลางเดินลงจากเรือฆาโก้ ซึ่งขณะนั้นแสงแดดกำลังแผดเผาป่าโกงกางอย่างเงียบๆ

“อัสสลามมูอาลัยกุม” สุไลมานยื่นมือมาสลาม ผมรับไว้ตามมารยาท แล้วถามชายวัยกลางว่ามารอที่ท่านานหรือยัง เขาว่าไม่นานเพราะว่าออกมานั่งร้านน้ำชาใกล้ๆ แล้วเขาวาดนิ้วชี้ไปยังสถานที่ที่กล่าวถึง เขาให้ผมขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พ่วงสามล้อ ซึ่งดูแล้วผมประเมินว่าผ่านการใช้งานมาหลายสิบปี โครงเหล็กบางส่วนมีสนิมเกาะ ผมคิดว่าไม่ใช่ว่าแกเป็นคนไม่ดูแลรักษาหรอก ถ้าจะโทษก็คงโทษละอองเกลือของทะเลเบื้องหน้านั้นทำปฏิกิริยากับรถมากกว่า

บ้านชุมชนภายในเกาะแออัดบ้างบางพื้นที่ ประชากรส่วนใหญ่ค่อนไปทางวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ และวัยชรา จิ๊กซอว์ส่วนที่ขาดหายไปจากหมู่บ้านเท่าที่สังเกตระหว่างนั่งรถคือ คนวัยเดียวกับผม พวกเขาหายไปไหนกัน จะว่าไปแล้วผมเองก็หายไปจากหมู่บ้านของตัวเอง

สุไลมานถามผมว่ากินอะไรมาหรือยัง ผมบอกว่ากินข้าวมาแล้วก่อนจะมา ด้วยความเกรงใจเท่านั้นแหละผมดื่มน้ำเปล่ามาแก้วเดียวหลังจากตื่นนอน จะว่าไปแล้วผมกับเขายังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลยสักคำ ผมเองก็แปลกใจ สุไลมานดูเป็นคนใจเย็น แต่เดี๋ยวผมคงต้องดึงเขาเข้าสู่ประเด็นสิ่งมหัศจรรย์ หรือที่บางคนเรียกว่าพรจากพระเจ้า เขาเรียกนกเหยี่ยวระหว่างผืนฟ้าและท้องทะเลนั้นได้อย่างไร

เขาน่าจะพูดเก่งกว่านี้ เท่าที่เคยสืบประวัติชายวัยกลางคนนี้ไม่ธรรมดา ออกข่าวมาแล้วแทบทุกช่อง ในเฟซบุ๊กคนกดไลก์ กดแชร์หลักหมื่น ด้วยความเป็นที่นิยมถึงขนาดที่ว่านักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศต้องนั่งเครื่องบินส่วนตัวเพื่อมาล่องเรือชมนกเหยี่ยวทะเลกับสุไลมาน ซึ่งเขาเรียกมาจากโลกไหนก็ไม่รู้ เยอะแยะมากมาย

วันหยุดสุดสัปดาห์นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาในเกาะ ส่วนใหญ่เป็นเพราะกระแสของชายเรียกนก เรื่องเงินทิปไม่ต้องพูดถึง เงินสะพัดภายในเกาะก็มหาศาลตั้งแต่เขามีชื่อเสียง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเย็นชามีใบหน้าอมทุกข์ หรือว่าผมคิดไปเอง

เขาจอดรถพ่วงใต้ต้นมะม่วงพันธุ์มาเลเซีย บ้านไม้สองชั้นทรงมลายูตั้งอยู่ในซอยแคบๆ ข้างบ้านที่เห็นได้ชัดบริเวณพื้นหญ้าคือ เปลือกหอย กระดองปู ซากสัตว์ทะเล เมื่อสายลมพัดก็ส่งกลิ่นรบกวนจมูกมาทีหนึ่ง แต่ผมก็ไม่ใส่ใจนัก

เขาชวนผมขึ้นนั่งบนบ้าน ในบ้านหลังนั้นมีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นผู้อาศัย ผมสังเกตเห็นรูปสุไลมานตอนหนุ่มถ่ายคู่กับภรรยา มันดูเก่าตามวันเวลาแต่ยังแวววับสะอาด ผมไม่กล้าเอ่ยถาม แต่รูปหญิงสาวอีกคนคงจะเป็นลูกสาว เธอคลุมฮิญาบ ใส่ชุดแบบนักเรียนสาวมุสลิม

ลมทะเลพัดหยอกใบมะม่วงเต้นระบำไหวระริก เราสนทนากันน้อยคำ สุไลมานรู้งานแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาขอสัมภาษณ์ บ่ายวันนี้หลังละหมาด เขาจะพาผมขึ้นเรือพานักท่องเที่ยวไปให้อาหารเหยี่ยว อย่างน้อยเขาก็ไม่แสดงอาการรำคาญ นั่นทำให้ผมอุ่นใจได้บ้าง

นั่งอยู่ดีๆ เขาก็เฉลยว่าหญิงสาวในชุดปอเนาะนั้นเป็นลูกสาวคนเดียวของเขา ตอนนี้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ซึ่งผมทายไว้ไม่ผิด แม้แต่อายุของเราก็เท่ากัน “ฮีดายะฮ์” นั่นคือชื่อของเธอ สุไลมานบอกผมว่าเธอจะกลับมาเยี่ยมบ้านในวันพรุ่งนี้ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของชายวัยกลาง

 

2. ฮีดายะฮ์

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นในขณะที่วงดนตรีสดกำลังเล่นเพลงเลือดกรุ๊ปบี เธอกดปุ่มวางเมื่อเห็นชื่อพ่อโดยไม่ลังเล นี่ไม่ใช่สายแรกของวัน แต่มันดังถี่จนน่ารำคานจนเธอต้องตัดสินใจตั้งค่าปิดเสียงเรียกเข้า นานเท่าไหร่แล้วที่สายลมแห่งการศึกษาพัดพาเธอมาสู่ป่าคอนกรีตศิวิไลซ์ ที่นี่ไม่ต้องนั่งเรือข้ามฟาก ไม่มีกลิ่นปลาเค็มโชยตามลม ไม่ต้องทนฟังเสียงเครื่องเรือรบกวนโสตประสาทให้หัวเสียในยามหลับฝัน

กลางวันเข้าเรียนให้ตรงเวลา กลางคืนเข้าสู่โหมดวิญญาณเริงระบำ ปลดปล่อยตัวเองเสียบ้าง เธอบอกกับเพื่อนว่าแค่รับผิดชอบเอาตัวเองให้รอดก็เป็นอันพอ หลังจากนั้นเธอก็สลัดผ้าฮิญาบแขวนไว้ในตู้ เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดแขนสั้น นุ่งกางเกงลายสก๊อตหลวมๆ พรมน้ำหอมวิกตอเรีย ซีเคร็ท เธอบอกว่าราตรีเป็นช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อย แต่ปลอดปล่อยจากอะไรนั้นเธอไม่เคยเฉลยให้ใครได้ฟัง

โลกยุคเมตาเวิร์สทำให้การใช้ชีวิตสะดวกทุกครั้งที่ลืมตาตื่น สังคมแห่งจิตวิญญาณอิสระได้ถือกำเนิดเพื่อสร้างความหรรษาขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราวในระหว่างการสวมชุดนักศึกษาตอนกลางวัน และห่อเรือนบางๆ ไปปลดปล่อยผีเสื้อในตอนกลางคืน ที่นี่ไม่มีใครเตือนใคร ไม่มีโต๊ะครู หรือพ่อแม่คอยกำชับ วันๆ หนึ่งรวดเร็วเหมือนการอ้าปากหาวเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างเคลื่อนไปตามวันเวลาแห่งการหั่นซอยถี่ๆ บางครั้งก็ติดขัดเหมือนรถสัญจรในเช้าวันจันทร์ บางครั้งลื่นไหลเหมือนการมีเซ็กซ์กับชู้รักในม่านรูด

ฮีดายะฮ์ เป็นผ้าขาวในวันแรกที่เดินเท้าก้าวมาสู่รั้วมหา’ลัย แต่คลื่นแห่งการเย้ายวนและสถานการณ์ชวนลิ้มลองรสชาตินั่นแหละค่อยๆ เติมสีแต่งสันผ้าขาวผืนนั้นให้เลอะเกราะกรัง แน่ล่ะ ใครกันเล่าจะต้านทานนกในกรงขังให้โบยบินสู่น่านฟ้ากว้าง

เธอเปรียบเสมือนนกตัวหนึ่ง คนรอบข้างบางคนนิยามคนประเภทนี้ว่าเด็กเก็บกด แต่จะเป็นการกดทับจากอะไรนั้นใครเล่าจะล่วงรู้กว่าตัวเธอ แน่ละคนเราต่างมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง เธอมีชีวิตของเธอแต่บางครั้งเธอเองก็คงสับสน ป่าคอนกรีต แอลกอฮอล์ ดนตรีสด ล้มพับไปในตอนฟ้าทอแสงทอง และตื่นให้ทันเช็กชื่อ แค่นั้นแหละสิ่งที่หญิงสาวต้องจัดระบบ ตำราศาสนาของพ่อถูกซุกซ่อนไว้ในตู้หลังไม้แหวนชุดนอนลายตัวการ์ตูน ลืมไปแล้วว่ามีหมู่บ้านน้ำเค็มที่เธอจากมานานนม คราบน้ำเค็ม กลิ่นซากกุ้ง หอย ปู ปลา กลิ่นคาวๆ โชยๆ มาในยามเช้าที่คุ้นเคย ค่อยๆ จางหายไป บางทีเธอก็คิดถึงมันในเชิงที่ว่ามีเงินโอนเข้ามาจากหมู่บ้านนั้นทุกอาทิตย์ไม่ขาดตก ขนมพื้นบ้านบนโต๊ะนั่นก็ด้วย อากาศจากหมู่บ้านนกเหยี่ยวทะเลคงเดินทางมาด้วย

ฮีดายะฮ์ เธอเองก็เป็นนก นกที่ไม่เคยบินกลับรัง บางทีรังสำหรับเธอคือ ท้องฟ้า

 

3. สุไลมาน

เขามั่นใจ หนุ่มนักศึกษานอนไม่หลับ ได้ยินเสียงพลิกตัวไปมาและแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างจ้าตลอดคืน ไม่แปลกคงนอนผิดที่ผิดทางเป็นเรื่องธรรมดา แต่นี่ยังดีสุไลมานไม่เคยเล่าเรื่องยักษ์แห่งเกาะตำมะลัง ชาวบ้านที่นี่ต่างหวาดกลัว แม้เป็นแค่เรื่องเล่าผสมผสานกับตำนานพื้นถิ่นแต่บ่อยครั้งที่ชาวบ้านออกเลหาปลา แล้วผูกเรือกับโคนต้นไม้เข้าใจผิดอย่างแรง เพราะนั่นคือขาของยักษ์มันจมไปเรือไปหลายลำแล้วในคาบสมุทรแห่งนี้ และสิ่งที่สุไลมานเกลียดที่จะฟังเรื่องนี้มากที่สุดคือเพื่อนชาวประมงเล่าว่าอาหารจานหลักของยักษ์ท่าน้ำเค็มไม่ใช่อะไรอื่น นกเหยี่ยวนั่นเอง หากเหยี่ยวทะเลสูญพันธุ์ สุไลมานกลัวว่าชีวิตเขาจะสูญพันธุ์ด้วย

แน่ล่ะ เขาจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้กับหนุ่มนักวิจัยไฟแรงจากเมืองฟังเป็นอันขาด การไม่สร้างความสัมพันธ์มากเกินไป อาจดูหยิ่งไปหน่อยสำหรับเจ้าบ้าน หากแต่มันปลอดภัยที่สุดสำหรับคนนอก เรื่องยักษ์นั่นยังฝังอยู่ในหัวสุไลมานบางครั้งบางคราวเขาพยามยัดมันไปรวมกับเหตุผลที่ฮีดายะฮ์ไม่กลับบ้านคงเพราะกลัวยักษ์กินคน

ชายวัยกลางตื่นตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้าเพื่อทำการละหมาด หลังจากนั้นก็ไม่นอนต่ออีก เป็นเรื่องปกติ เขาปลุกหนุ่มหน้าใสไปนั่งร้านน้ำชาใกล้บ้าน แนะนำให้กินอาหารพื้นถิ่นที่มีเฉพาะในเกาะ หนุ่มนักวิจัยคงชอบข้าวเหนียวไส้กุ้ง เห็นซัดเข้าไปตั้งสี่ห้าชิ้น ชาร้อนสูตรจากรัฐเคดะห์ เห็นได้ชัดว่าเขาหลงใหลในภาษา สำเนียงของคนที่นี่ และเหมือนว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างซึ่งก็เดาไม่ยาก เขาเป็นคนหนุ่ม นั่นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ

แบบสัมภาษณ์เดิมๆ ไม่ต่างจากที่เคยพูดเท่าไหร่นัก แต่ประเด็นคำถามสุดท้ายนี่เล่นเอาชายวัยกลางจุกอกต้องหยุดคิดวิเคราะห์ “คนหนุ่มสาวหายไปไหนกันหมด” ไม่ได้ถามเพื่อเอางานวิจัย แต่เป็นข้อสงสัยส่วนตัว ง่ายที่สุดก็แค่บอกว่าไปเรียนและทำงาน นักศึกษาหนุ่มพยักหน้า เรื่องพลังวิเศษเรียกเหยี่ยวหรืออินทรีทะเลดูเหมือนว่าเขากลับไม่ให้ความสนใจนัก

สุไลมานคาดว่าเขาพอมีฐานข้อมูลอยู่บ้าง ไฟฟ้าเข้าถึง มีน้ำจืดใช้มาหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้หากแหงนคอมองขึ้นไปจากระยะรัศมีทะเลจะเห็นว่ากำลังมีการสร้างสะพานข้ามมายังเกาะแห่งนี้ พ่อมด แม่หมด หมอผี หรือผู้วิเศษอะไรนั่นตายกันไปหมดแล้วล่ะ

ธุรกิจเรือข้ามฝากนั่นก็กำลังจะตาย ส่วนวิถีชีวิตดั้งเดิมน่ะ ถ้าไม่ใช่คนชราเคี้ยวหมากแล้วละก็ จางหายไปตามช่วงอายุคน สุไลมานคิดระหว่างสาธยายกับชายหนุ่ม เราน่าจะหาตัวการมารับผิดสักอย่างอะไรก็ได้ ยักษ์ สะพาน สมาร์ตโฟน หรือจะเป็นนกเหยี่ยวสักตัวหนึ่ง เอามันมารับโทษ

 

4. เหยี่ยวทะเล

เที่ยงวันนี้นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ เหมาโปรแกรมทัวร์ล่องเรือชมเหยี่ยวพร้อมรับประทานอาหารมื้อเที่ยง ประจวบเหมาะพอดี สุไลมานจึงอนุญาตให้นักศึกษาหนุ่มขึ้นเรือไปด้วย เผื่อจะเก็บภาพและสังเกตการณ์เรียกนกเหยี่ยวบินโฉบเหนือผืนน้ำ เพราะเรื่องที่เขาเป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่เรียกนกให้ร่อนลงมาเกาะบนแขนได้นี่แหละ พวกผู้นำศาสนาบางคนแอบซุบซิบว่าทำสัญญากับซาตาน แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยคิดเลยว่านั่นเป็นพรจากพระเจ้า

ก่อนเวลานัดหมายกับแขกเขาควบมอเตอร์ไซค์ไปกับคนหนุ่มจัดแจงเรือ นับจำนวนเสื้อชูชีพ ดวงอาทิตย์จากองศาเหนือน้ำทะเลยังคงไม่ลดละหน้าที่ฉายแสงความร้อน ทำให้ลมที่พัดมาจากป่าโกงกางร้อนอบอ้าวไปด้วย

รอบนเรือไม่นาน นักท่องเที่ยวหิ้วของพะรุงพะรัง สุไลมานขึ้นไปคุยกับแขก ในขณะที่หนุ่มนักศึกษาหยิบกล้องโทรศัพท์บันทึกภาพไปเรื่อย ชายวัยกลางพูดไทยได้แต่ติดสำเนียงมลายู เป็นที่ตื่นเต้นของผู้มาเยือน ถูกขอเซลฟี่ไปหลายรูปก่อนลงเรือ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ลูกน้องของสุไลมานเพิ่งจะโผล่หน้ามาตอนกรุ๊ปทัวร์สวมเสื้อชูชีพเสร็จแล้ว นกเหยี่ยวคงฟังภาษามลายูนั่นออกว่าเขากำลังด่าเด็กหนุ่มผิวกร้านแดดคนนั้นอยู่ไม่ผิด

ไม่มีอะไรพิเศษเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ แต่อาหารนกและเศษเหยื่อปลาที่แกซื้อมาจากแพเมื่อเช้า ซึ่งราคามันถูกเหมือนได้ฟรี แขกนั่งกันพร้อมเพรียง เรือติดเครื่องค่อยๆ เคลื่อนสู่เส้นทางชมระบบนิเวศ ผ่านมัสยิด แพปลา ร้านน้ำชา อนุสาวรีย์ปืนใหญ่ โรงเรียน ผ่านสถานที่ไหนก็พูดถึงที่นั้น บนโต๊ะอาหารว่างเปล่า เป็นความตั้งใจของการท่องเที่ยวชุมชน สุไลมานทำสัญญากับกลุ่มแม่บ้านเกาะตำมะลัง พวกเขาจัดการเรื่องอาหารเมื่อเรือแวะจอดตรงจุดนัดพบ เขามีหน้าที่ขับเรือและเรียกนกเหยี่ยวให้คนดูเท่านั้น

ชายหนุ่มเริ่มบันทึกวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว ไกลลิบๆ เขาเห็นฝูงเหยี่ยวใต้ฟ้าคราม พลางสังเกตสุไลมานก็ไม่เห็นเขาจะมุบมิบปากเหมือนพ่อมด พ่อหมอในละครแต่อย่างใด แค่เปลี่ยนทิศหันหัวเรือเข้าเทียบจอดรับอาหารให้ลูกค้า แน่ล่ะเขาคนเจนจัดเรื่องนก เดี๋ยวก็คงได้เห็นพลังวิเศษอะไรนั่น

พลันนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าใส่ซองใบจากยาเส้นของสุไลมาน เขาหยิบวัตถุกำเนิดเสียงอย่างลุกลี้ลุกลน รอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าชั่วขณะเมื่อเห็นรายชื่อปลายสาย ฮีดายะฮ์ คุยกันไม่นานรอยยิ้มนั้นวูบหายเหมือนไม่เคยมี “รายอนี้หนูไม่ได้กลับบ้านนะป๊ะ” ระเบิดบางลูกถูกวางอย่างเงียบๆ และระเบิดอย่างเงียบๆ แต่แหลกสลาย น้ำตาบางหยดจึงถูกซุกซ่อนไว้

สุไลมานโยนเศษปลามีกลิ่นคาวๆ ให้เหยี่ยวทะเล มันบินโฉบอย่างรู้งานเหมือนเป็นเป็นข้อตกลงกันไว้ หนุ่มนักศึกษาบันทึกภาพเคลื่อนไหวลงสตอรีไอจี นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ตบมือและส่งเสียงเชียร์ชายวัยกลาง

ระลอกลมจากเวิ้งทะเลแห่งคาบสมุทรมลายูพัดมาจากทิศของรัฐเกดะห์ หอบเอาไอเกลือเค็มปะปนมาด้วย บนท้องฟ้า เหยี่ยวทะเลยังคงวาดวงปีกแต่งแต้มศิลปะในอากาศ ห้วงเวลานั้นสุไลมานฉุกคิดถึงก้อนความอึดอัดภายใน นี่ฉันถูกสาปหรือได้พรจากพระเจ้า

คนบ้าอะไรเรียกนกให้บินมาหาได้ทุกชนิด แต่ลูกสาวสุดรักกลับบินจากไปไม่คืนรัง •