‘ระยะห่าง’ | ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

ในความสัมพันธ์ระหว่างชีวิต ผมเชื่อในเรื่องของระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับชีวิตใด กับคน หรือกับสัตว์

ระยะห่างเป็นบทเรียนบทหนึ่ง ซึ่งผมพูดถึงเสมอ ทั้งในงานเขียน และพูดคุย

แต่สิ่งที่ผมไม่ได้บอก นั่นคือ บทเรียนบทนี้ เริ่มต้นสอนโดยหมา

 

ปลายฤดูฝน

สายน้ำในลำห้วยไหลเอื่อยๆ หาดทรายขยายเป็นแนวกว้างจากผลของกระแสน้ำใหญ่ที่ไหลผ่านตั้งแต่ช่วงกลางฤดูฝน ริมลำห้วยด้านซ้ายมือของซุ้มบังไพร เป็นแนวหินระเกะระกะ ถัดจากโขดหินมีแอ่งน้ำซับเล็กๆ ที่มีหญ้าเขียวขึ้นรอบๆ

บนสันทรายกลางลำห้วยมีซากวัวแดงขนาดย่อมนอนตะแคงหันหน้าไปทางแอ่งน้ำ ซากไม่เพียงไร้ชีวิต แต่ร่างเหลือชิ้นส่วนไม่มาก กระดูกท่อนโต และหนัง กระจายอยู่ใกล้ๆ

ห้าวันก่อน วัวแดงตัวนี้วิ่งหนีหมาไนอย่างตื่นตระหนกมาจนมุมอยู่ที่นี่ มันพยายามสู้อย่างจนตรอก ไม่ได้อยู่ในสถานะอันยอมจำนนง่ายๆ แต่ก็สู้ทักษะ รวมทั้งความว่องไวของนักล่าที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างหมาไนได้

หมาไนกระโจนเข้ากัด วัวแดงวิ่งลงน้ำ เสียงกระชากเนื้อ แทรกมากับเสียงร้องโหยหวน

เสียงเงียบลง พร้อมกับภารกิจของหมาไนสำเร็จอีกครั้ง

งานเสร็จสิ้น การพักผ่อนเริ่มต้น หมาไนฝูงนี้ไม่ไปไหนไกล มันวนเวียนอยู่ที่นี่

ราวกับว่า หลังจากอนุญาตให้ผมได้เห็นการทำงานที่คล้ายจะแฝงไว้ด้วยความโหดเหี้ยมของพวกมันอย่างใกล้ชิดแล้ว

พวกมันก็เปิดโอกาสให้ผมได้เห็นความเป็นจริงในชีวิต

ความเป็นจริงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของชีวิตนักล่า

 

หมาไนอยู่รวมกันเป็นฝูง ช่วยกันล่า ตัวขนาดเล็กของพวกมันเปรียบเสมือนนักล่าขนาดใหญ่ ที่ทำงานอย่างได้ผล

พูดได้ว่ากว่ารัอยละ 90 สัตว์กินพืชล้มตายเพราะการล่าของหมาไน

หมาไนตัวผู้รูปร่างล่ำสัน สีค่อนข้างเข้มกว่าตัวอื่น นอนแช่น้ำตื้นๆ จ้องมองมาทางซุ้มบังไพร มันอยู่ห่างออกไปสัก 5 เมตร

มันมองมาทางผม สลับกับการมองรอบๆ นานๆ ก็หลับตาหัวโยกไป-มา เหมือนจะง่วงเต็มแก่ แต่พอรู้สึกตัวจะสะบัดหัว และจ้องมาทางผมต่อ

ในขณะที่หมาไนตัวอื่น หลายตัววิ่งเล่น หยอกล้อ บางตัวนอนเหยียดยาว หลับตาพริ้ม เจ้าตัวนี้แสดงอาการระวังภัยให้ตัวอื่นตลอดเวลา

ในวันแรกที่ล้มวัวแดงได้ เจ้าตัวนี้เป็นตัวแรกที่ลงมือกิน มันกินลูกนัยน์ตาและเนื้อช่วงท้องไปไม่มาก ก่อนตัวอื่นจะรุมทึ้งซากอย่างชุลมุน

มันถอยห่างออกจากซาก และคงสัมผัสได้ว่า ผมอยู่ใกล้ๆ จึงก้มลง จมูกดม วิ่งเหยาะๆ ไปรอบๆ สักพักก็จับทิศทางกลิ่นผมที่อยู่ในซุ้มบังไพรได้ กลิ่นที่มันสัมผัสได้ เป็นสัญญาณของอันตราย มันย่อขาลงเล็กน้อย ส่วนคอและหัวล้ำมาด้านหน้า เดินเข้าใกล้ซุ้มบังไพรมากขึ้น

ด้วยท่าทางอันพร้อมเข้าโจมตี

มันเดินเข้ามาใกล้จนผมได้ยินเสียงลมหายใจ ระหว่างเรามีเพียงผ้าลายพรางบางๆ กั้น

บังไพร และกลิ่นกายคน ทำให้มันไม่วางใจ แต่เมื่อเดินรอบๆ ทุกอย่างเงียบสงบ มันเดินถอยหน้าถอยหลังอีกพักใหญ่ ก่อนกลับไปนอนแช่น้ำบริเวณร่องน้ำตื้นๆ

มันอยู่ที่นั่น มองมา

5 เมตร เป็นระยะระยะที่มันอนุญาต เป็นระยะห่างระหว่างเรากับมัน

 

เมื่อกินอิ่ม หลายตัวเล่นหยอกล้อ หลายตัวนอน และทำเพียงเงยหน้าขึ้นมอง ตอนมีหมูป่าตัวหนึ่งเดินอาดๆ เข้ามาคาบเนื้อชิ้นโตไป

หมูจะเข้ามาเอาเนื้อชิ้นโตวันละสองครั้ง คือ ตอนเช้า และบ่าย

ผมไม่รู้หรอกว่า เป็นเพราะเหยื่อตัวโตพอที่จะแบ่งปัน หรือเป็นเพราะว่า การพบกันครั้งนี้ เรามีระยะห่างที่มันกำหนด ไม่ใกล้ และไม่ไกลเกินกว่าผมจะได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกมัน

หมาไน – หมาไนได้รับการออกแบบมาให้มีใบหูใหญ่ ทำให้พวกมันมีทักษะในการได้ยินดี เมื่อรวมกับประสาทรับกลิ่นที่ดีด้วย ทำให้พวกมันเป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพมาก

เช้ามืด หมาไนตัวนั้นนอนอยู่บนโขดหิน และรู้ว่าผมมาถึง มันจะเดินเข้ามา หยุดในระยะ 5 เมตร นั่งๆ นอนๆ

ตัวอื่นๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนอน ในช่วงเที่ยงและบ่าย สภาพอากาศค่อนข้างอบอ้าว พวกมันจะลงเล่นน้ำ วิ่งไล่ หยอกล้อ

ผ่านไปสองวัน ซากเริ่มส่งกลิ่น อีกาสี่ห้าตัวเข้ามาบินวนเวียน ช่วงบ่าย เหี้ยก็เข้ามาร่วมวง

เมื่อสัตว์กินพืชล้มตายเพราะคมเขี้ยวของนักล่า นั่นหมายถึงเวลาเริ่มต้นงานเลี้ยง

ในป่า ตลอด 24 ชั่วโมง มีชีวิตต่างๆ ดำเนินไปตามวิถี มีนักล่า มีผู้ถูกล่า

มีความตายเกิดขึ้นเสมอ ในป่าอาจพูดได้ว่า ไม่ใช่ดินแดนแห่งความสุขสงบ

แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นดินแดนของสัตว์ร้าย

 

หมาไนตัวนี้ทำให้ผมเข้าใจเรื่องของระยะห่าง เมื่อยอมรับในระยะที่มันอนุญาต ระยะของเราก็แคบลง

มันทำให้ผมเข้าใจถึงความเป็นธรรมดาของชีวิต ซึ่งมีอีกด้านที่มองไม่เห็น

ก่อนเที่ยงของวันที่ 5 ซึ่งผมได้รับโอกาสให้อยู่ใกล้ มันลุกขึ้นจากการนอนแช่น้ำ เงยหน้า สะบัดขน มองมาทางผม และหันหลังเดินช้าๆ ตามหมาไนตัวอื่นที่เดินหายเข้าชายป่าไปแล้ว

พวกมันคงไปทำภารกิจตามหน้าที่ เดินมุ่งหน้าไปตามเส้นทางของพวกมัน

 

พลบค่ำ ผมเดินกลับแคมป์ไปตามด่านเล็กๆ หมาไนตัวหนึ่งสอนให้ผมเข้าใจ และรู้ถึงความสำคัญของระยะห่าง

ในความสัมพันธ์ “ระยะห่าง” จำเป็น

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ต้องเรียนรู้ว่า ระยะห่างเท่าใดจะไม่ไกล้ ไม่ไกลเกินความพอดี

เริ่มจากทำความรู้จักตัวเองให้ถ่องแท้ รู้ว่าเราเป็นตัวอะไร

และไม่พยายามเปลี่ยนระยะห่างที่ผู้อื่นกำหนด ให้เป็นระยะอย่างที่เราอยากให้เป็น… •

 

หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ