เผยแพร่ |
---|
วลีที่ว่า”ข้าราชการของผม” อันหลุดจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนความนัยอันลึกซึ้งยิ่ง และเหมือนจะไม่แน่ใจว่าจะเป็นที่เข้าใจหรือไม่
จึงมีความพยายามขยายให้เกิดความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นผ่านรูปคำที่ว่า “คนของผม”
เหมือนกับเป็นความชอบธรรมยิ่งในเมื่อคนพูดคือ”นายกรัฐมนตรี” อันยืนอยู่ในสถานะแห่งประมุขของ”อำนาจบริหาร”
กระนั้น ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดคือ การประกอบส่วนขึ้นแห่งคำว่า “ข้าราชการ”
จึงไม่มีใครแปลกใจหากในยุคหนึ่ง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จะเคยเน้นอย่างหนักแน่นแทบทุกครั้งของการกล่าวคำปราศรัยผ่านประโยคที่ว่า
ในฐานะ”ข้าราชการ”ใน”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”อันเท่ากับเป็นการยืนยันอย่างต่อเนื่องถึงรากฐานและความ
เป็นมาแห่งคำว่า”ข้าราชการ” ไม่ว่าจะเป็น “ผู้บัญชาการทหารบก” ไม่ว่าจะเป็น”นายกรัฐมนตรี”
บทสรุปที่ว่า “ข้าราชการ”ของผม”คนของผม”จึงอ่อนไหวยิ่ง
หลายคนเมื่อฟังคำอันมาจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยอมรับอย่างนิ่งเงียบ
นิ่งเงียบเหมือนเมื่อหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลากปืนและรถถังออกมายึดอำนาจจากรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะออกมาแข็งขืนไม่ยอมรับ แม้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จะออกมาแข็งขืนไม่ยอมรับ แต่พวกเขาก็ถูกจุบกุมและคุมขังด้วยคำสั่งของหัวหน้าคสช.
นั่นคือการสะสมอำนาจอย่างมีพลวัตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 แม้จะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
สำนึกแห่งความเป็นเจ้าของ”อำนาจ”ก็ยังดำรงคงอยู่
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้คำประกาศที่ว่า “ข้าราชการของผม” เมื่อประสานกับคำว่า “คนของผม” เริ่มกลายเป็นปัญหาและนำไปสู่คำถามด้วยความกังขา
เป็นเหตุปัจจัยอันมาจากผลการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม คะแนนที่พรรคก้าวไกลได้มากว่า 14 ล้าน คะแนนที่พรรคเพื่อไทยได้มากว่า 10 ล้าน มากกว่ากว่า 4 ล้านของพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างชัดเจน
นี่คือรูปธรรมอันเป็นเครื่องสะท้อนและยืนยันว่าอำนาจได้เริ่มเปลี่ยนมือไปแล้ว