ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 มิถุนายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | เอกภาพ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
เชื่อ
เหตุการณ์ในวันเก่าที่ผมยังคงจำได้ดี ไม่ลืมหลงไปกับก้าวเดินของเวลาแม้จะผ่านมาเนิ่นนาน
“เรื่องราวไม่ปกติในวันธรรมดา” ได้กลายมาเป็นประสบการณ์ที่ข้องเกี่ยวอยู่กับความเชื่อใจที่ผมมี ด้วยความทรงจำได้นำผมพาให้ย้อนไปในเย็นวันนั้น
ในวันเย็นย่ำของช่วงเวลาหกโมงเย็น บนถนนจตุรทิศในวันที่การจราจรไม่ได้มีรถหนาแน่น ด้วยความคล่องตัวจึงทำให้รถบนถนนแส้นนี้ในเย็นวันนั้น วิ่งกันค่อนข้างเร็ว
ผมขี่มอเตอร์ไซค์กลับหลังจากเสร็จธุระจากย่านรัชดา มุ่งหน้าไปยังห้องเช่าแถวราชเทวี
การขับขี่ดูปกติดีมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสัญญาณเตือนอันผิดปกติจากรถคู่ใจของผม
มันเริ่มมีอาการกระตุกอยู่เป็นระยะๆ จนกระทั่งเครื่องยนต์ดับในที่สุด
มันเป็นเช่นนี้ด้วยเหตุอันใด
ปัญหายอดนิยมที่หลายคนมีประสบการณ์เดียวกันนี้ กับคำว่า “น้ำมันหมด” แน่นอนว่าปัญหานี้โทษรถไม่ได้ คงต้องโทษตัวเอง ที่ไม่รอบคอบกับการเหลือบมองดูเกจ์วัดระดับน้ำมันก่อนออกเดินทางหรือระหว่างขับขี่ เรื่องเล็กน้อยที่มักสร้างปัญหาใหญ่ เมื่อบางครั้งอาจอยู่ผิดที่ผิดทางกับปั๊มน้ำมัน ที่ไกลกันออกไปจากจุดที่จบเห่
เมื่อได้สติ ใจเย็นลง ผมจึงค่อยๆ ใช้ความคิดหาจุดจบของปัญหา เส้นทางที่ผ่านมาไร้เงาปั๊มน้ำมันแม้เพียงสักปั๊ม
แต่ถ้ามุ่งหน้าตรงไปบนถนนศรีอยุธยา ยังมีอยู่หนึ่งปั๊มที่อยู่ใกล้กับแยกพญาไท แม้ระยะทางยังอีกไกลจากจุดที่จอด แต่ก็เป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้ความยุ่งยากนี้จบลงได้
ถึงตอนนี้ ผมตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะค่อยๆ เดินเข็นจูงรถมอเตอร์ไซค์ที่ไร้น้ำมันให้เคลื่อนตัวไปด้วยกำลังขาของคนขี้ลืม
สักระยะของของการเข็นรถไร้น้ำมัน ด้วยความเร็วเท้า ทำให้รู้สึกถึงรถหลายคันที่วิ่งผ่านไปเร็วราวกับจรวด จนทำให้รู้สึกเสียวสันหลัง
ความเหนื่อยอ่อนที่ยังไม่ทันได้สาแก่ใจ ก็มีเสียงบีบแตรดังทักมาจากรถมอเตอร์ไซค์ทรงผู้หญิงคันเก่าที่จำสีไม่ได้ของใครบางคนมาทางด้านหลังของผม
ชายที่อายุเลยวัยกลางคนคร่อมขี่รถมอเตอร์ไซค์ ชายที่ผมเรียกได้เต็มปากว่าคุณลุง ในยามคับขันเช่นนี้เมื่อมีใครสักคนยื่นมืออาสาเข้ามาช่วย ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ มันชัดเจนแล้วกับคำว่าเพื่อนมนุษย์
บางครั้งเรื่องแย่ๆ ที่แถมมาให้ด้วยกับเรื่องดีๆ
คุณลุงขันอาสาจะไปซื้อน้ำมันจากปั๊มที่ผมกำลังจะมุ่งหน้าไป มันจะง่ายกว่าถ้าคุณลุงจะขี่รถไปซื้อน้ำมันให้ โดยให้ผมพักรออยู่ก่อน เมื่อซื้อเสร็จแล้วคุณลุงจะวนเอาน้ำมันที่ซื้อมาเติมให้ ในตอนนั้นผมปลื้มใจในความมีน้ำใจของคนที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน
ทั้งเนื้อตัวของผมมีเงินอยู่ร้อยหกสิบบาท คุณลุงบอกกับผมว่า เอาเงินให้คุณลุงไปซื้อน้ำมันมาเติมหกสิบบาทก็พอ ร้อยบาทมันจะเยอะไปหากระป๋องใส่ลำบาก ซื้อน้ำมันหกสิบบาทกำลังดี เอามาเติมพอขี่ได้ก่อน
และนั่นก็เป็นคำแนะนำดีจากผู้ใหญ่ใจดีที่ผมเชื่อใจ
ผมให้คุณลุงไปหกสิบบาทตามคำขอ หนึ่งร้อยบาทติดตัวไว้
การรอคอยผ่านไปครึ่งชั่วโมง โลกของผมยังคงสวย แต่เมื่อการรอคอยถูกลากยาวไปถึงหนึ่งชั่วโมง โดยไม่มีทีท่าและไร้ซึ่งวี่แววของการกลับมา ในที่สุดผมก็เข้าใจได้ว่า เงินหกสิบบาทหาใช่เงินที่จะมีไว้ซื้อน้ำมันไม่ แต่เป็นการซื้อใจคุณลุงต่างหาก
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมยังคงไม่เสียศรัทธาที่จะเชื่อใจผู้คน มีแต่ตัวเองเท่านั้น ที่ยังเชื่อใจตัวเองไม่ได้ในบางเรื่อง
ถึงตรงนี้อยากจะบอกคุณลุงว่า ในวันนั้นผมเข็นมอเตอร์ไซค์จนถึงปั๊มและเติมน้ำมันด้วยเงินร้อยบาทสุดท้าย และในวันนี้แน่นอนว่า มีหลายคนได้อ่านเรื่องราวของคุณลุงแล้วนะครับ
ขอบคุณมากมายครับ •
เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022