เชื่อ

พิชัย แก้ววิชิต

เชื่อ

 

เหตุการณ์ในวันเก่าที่ผมยังคงจำได้ดี ไม่ลืมหลงไปกับก้าวเดินของเวลาแม้จะผ่านมาเนิ่นนาน

“เรื่องราวไม่ปกติในวันธรรมดา” ได้กลายมาเป็นประสบการณ์ที่ข้องเกี่ยวอยู่กับความเชื่อใจที่ผมมี ด้วยความทรงจำได้นำผมพาให้ย้อนไปในเย็นวันนั้น

ในวันเย็นย่ำของช่วงเวลาหกโมงเย็น บนถนนจตุรทิศในวันที่การจราจรไม่ได้มีรถหนาแน่น ด้วยความคล่องตัวจึงทำให้รถบนถนนแส้นนี้ในเย็นวันนั้น วิ่งกันค่อนข้างเร็ว

ผมขี่มอเตอร์ไซค์กลับหลังจากเสร็จธุระจากย่านรัชดา มุ่งหน้าไปยังห้องเช่าแถวราชเทวี

การขับขี่ดูปกติดีมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสัญญาณเตือนอันผิดปกติจากรถคู่ใจของผม

มันเริ่มมีอาการกระตุกอยู่เป็นระยะๆ จนกระทั่งเครื่องยนต์ดับในที่สุด

มันเป็นเช่นนี้ด้วยเหตุอันใด

 

ปัญหายอดนิยมที่หลายคนมีประสบการณ์เดียวกันนี้ กับคำว่า “น้ำมันหมด” แน่นอนว่าปัญหานี้โทษรถไม่ได้ คงต้องโทษตัวเอง ที่ไม่รอบคอบกับการเหลือบมองดูเกจ์วัดระดับน้ำมันก่อนออกเดินทางหรือระหว่างขับขี่ เรื่องเล็กน้อยที่มักสร้างปัญหาใหญ่ เมื่อบางครั้งอาจอยู่ผิดที่ผิดทางกับปั๊มน้ำมัน ที่ไกลกันออกไปจากจุดที่จบเห่

เมื่อได้สติ ใจเย็นลง ผมจึงค่อยๆ ใช้ความคิดหาจุดจบของปัญหา เส้นทางที่ผ่านมาไร้เงาปั๊มน้ำมันแม้เพียงสักปั๊ม

แต่ถ้ามุ่งหน้าตรงไปบนถนนศรีอยุธยา ยังมีอยู่หนึ่งปั๊มที่อยู่ใกล้กับแยกพญาไท แม้ระยะทางยังอีกไกลจากจุดที่จอด แต่ก็เป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้ความยุ่งยากนี้จบลงได้

ถึงตอนนี้ ผมตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะค่อยๆ เดินเข็นจูงรถมอเตอร์ไซค์ที่ไร้น้ำมันให้เคลื่อนตัวไปด้วยกำลังขาของคนขี้ลืม

สักระยะของของการเข็นรถไร้น้ำมัน ด้วยความเร็วเท้า ทำให้รู้สึกถึงรถหลายคันที่วิ่งผ่านไปเร็วราวกับจรวด จนทำให้รู้สึกเสียวสันหลัง

ความเหนื่อยอ่อนที่ยังไม่ทันได้สาแก่ใจ ก็มีเสียงบีบแตรดังทักมาจากรถมอเตอร์ไซค์ทรงผู้หญิงคันเก่าที่จำสีไม่ได้ของใครบางคนมาทางด้านหลังของผม

ชายที่อายุเลยวัยกลางคนคร่อมขี่รถมอเตอร์ไซค์ ชายที่ผมเรียกได้เต็มปากว่าคุณลุง ในยามคับขันเช่นนี้เมื่อมีใครสักคนยื่นมืออาสาเข้ามาช่วย ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ มันชัดเจนแล้วกับคำว่าเพื่อนมนุษย์

บางครั้งเรื่องแย่ๆ ที่แถมมาให้ด้วยกับเรื่องดีๆ

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมยังคงไม่เสียศรัทธาที่จะเชื่อใจผู้คน มีแต่ตัวเองเท่านั้น ที่ยังเชื่อใจตัวเองไม่ได้ในบางเรื่อง / เทคนิค : F.8 1/500s ISO200 / สถานที่ : ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ

คุณลุงขันอาสาจะไปซื้อน้ำมันจากปั๊มที่ผมกำลังจะมุ่งหน้าไป มันจะง่ายกว่าถ้าคุณลุงจะขี่รถไปซื้อน้ำมันให้ โดยให้ผมพักรออยู่ก่อน เมื่อซื้อเสร็จแล้วคุณลุงจะวนเอาน้ำมันที่ซื้อมาเติมให้ ในตอนนั้นผมปลื้มใจในความมีน้ำใจของคนที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน

ทั้งเนื้อตัวของผมมีเงินอยู่ร้อยหกสิบบาท คุณลุงบอกกับผมว่า เอาเงินให้คุณลุงไปซื้อน้ำมันมาเติมหกสิบบาทก็พอ ร้อยบาทมันจะเยอะไปหากระป๋องใส่ลำบาก ซื้อน้ำมันหกสิบบาทกำลังดี เอามาเติมพอขี่ได้ก่อน

และนั่นก็เป็นคำแนะนำดีจากผู้ใหญ่ใจดีที่ผมเชื่อใจ

ผมให้คุณลุงไปหกสิบบาทตามคำขอ หนึ่งร้อยบาทติดตัวไว้

การรอคอยผ่านไปครึ่งชั่วโมง โลกของผมยังคงสวย แต่เมื่อการรอคอยถูกลากยาวไปถึงหนึ่งชั่วโมง โดยไม่มีทีท่าและไร้ซึ่งวี่แววของการกลับมา ในที่สุดผมก็เข้าใจได้ว่า เงินหกสิบบาทหาใช่เงินที่จะมีไว้ซื้อน้ำมันไม่ แต่เป็นการซื้อใจคุณลุงต่างหาก

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมยังคงไม่เสียศรัทธาที่จะเชื่อใจผู้คน มีแต่ตัวเองเท่านั้น ที่ยังเชื่อใจตัวเองไม่ได้ในบางเรื่อง

ถึงตรงนี้อยากจะบอกคุณลุงว่า ในวันนั้นผมเข็นมอเตอร์ไซค์จนถึงปั๊มและเติมน้ำมันด้วยเงินร้อยบาทสุดท้าย และในวันนี้แน่นอนว่า มีหลายคนได้อ่านเรื่องราวของคุณลุงแล้วนะครับ

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต