เบนซ์ ‘A 200 AMG Dynamic’ | น้องเล็กแต่งจัดเต็ม-พลัง ‘เทอร์โบ’

สันติ จิรพรพนิต

เบนซ์ ‘A 200 AMG Dynamic’ | น้องเล็กแต่งจัดเต็ม-พลัง ‘เทอร์โบ’

 

ยังเดินหน้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่พ้นค่ายดาวสามแฉก “เมอร์เซเดส-เบนซ์”

ด้วยในปีหลังๆ มานี้อวดโฉมรถรุ่นใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนซ์ และไมเนอร์เชนจ์ กันแทบจะรายเดือน

ถือเป็นการปรับแผนการตลาดครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้ปล่อยให้บรรดาเกรย์มาร์เก็ต หรือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ นำเข้ารถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด

ตัวเลขน่าตกใจที่ผมเคยคุยกับผู้บริหารค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ พบว่ามีอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

เมื่อมองเห็นจุดนี้ทำให้ค่ายดาวสามแฉก ปรับแผนทั้งนำเข้าและผลิตรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาให้ทันความต้องการของผู้บริโภค

เรียกว่าเมืองนอกเปิดตัวรถใหม่เมื่อใด ผ่านไปไม่นาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเร่งนำเข้ามาจำหน่าย และหากโมเดลไหนได้รับความนิยมจะขึ้นสายพานการผลิตในไทยทันที

จึงทำให้ในช่วงหลายปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพิ่มยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ

และในช่วงก่อนสิ้นไตรมาส 2 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งรถยอดนิยมอีกรุ่นเข้ามาทำตลาด

เป็นการปรับโฉมน้องเล็ก “The new A-Class” ในรุ่น “A 200 AMG Dynamic” ตัวแต่งเต็มยศ โมเดลเยียร์ 2023 (MY 2023)

A 200 AMG Dynamic มาในคอนเซ็ปต์ “CLASS FOR EVERY DAY” หรือรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน แต่ยังคงความหรูหราสะดวกสบาย เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น คนทำงานใหม่ๆ รวมไปถึงหัวหน้าระดับกลางๆ

จุดเด่นไม่พ้นความคล่องตัวด้วยขนาดตัวถังไม่ใหญ่เทอะทะ มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,796 x 4,558 x 1,429 มิลลิเมตร

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตซีดานยุคใหม่ น่าจะถูกใจวัยโจ๋ทั้งชาย-หญิง

ออกแบบภายในใหม่กระจังหน้าดีไซน์ Star pattern radiator grille

กระโปรงหน้าแบบ Power dome ออกแบบให้มีมิติมากยิ่งขึ้น

ตกแต่งด้วยชุด AMG bodystyling บริเวณกันชนหน้า-หลัง

ระบบไฟหน้าใหม่แบบ LED High-Performance ดีไซน์รูปแบบการแสดงแสงไฟหน้าใหม่แบบ reflection technology

พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist รุ่นล่าสุด

กระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า

ล้ออัลลอยด์ใหม่ดีไซน์สปอร์ต AMG 5-twin-spoke สีดำ ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/45 หน้ากว่างแต่แก้มต่ำเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น

ระบบเบรกแบบสปอร์ตพร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz

ระบบเปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS)

ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO

ห้องโดยสารขนาดกำลังเหมาะ เน้นโทนสีดำตัดกับสีเงิน

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยหนัง Nappa เสริมความดุดันด้วยเบาะหุ้มหนัง ARTICO สไตล์สปอร์ต ตัดสลับ MICROCUT microfibre สีดำ ตกแต่งเดินด้ายสีแดง

ติดตั้งระบบเปลี่ยนเกียร์ด้วย Paddle shift ที่พวงมาลัย

มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว

พร้อมควบคุมการสั่งการภายในรถ ผ่านหน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟนทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

พร้อมระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด “MBUX7” ที่เพิ่มระบบ AI (Artificial intelligence) ซึ่งสามารถเรียนรู้และประเมินพฤติกรรมและการใช้งานของแต่ละผู้ใช้งาน

รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง 27 ภาษา

นอกจากนี้ ระบบ MBUX ยังสามารถอัพเดตและปรับปรุงระบบได้ด้วยตัวเองผ่านสัญญาณไร้สาย LTE อัตโนมัติ

ผสานการทำงานอย่างลงตัวกับบริการ Mercedes me connect เชื่อมต่อโลกดิจิทัลและเข้าถึงฟังก์ชั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างสะดวก

หน้าจออันนี้ยังรวมถึงฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก อาทิ ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ DYNAMIC SELECT

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แยกปรับอุณหภูมิ 2 โซน พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง

เบาะนั่งคู่หน้าติดตั้งระบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำแบบ memory seat และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง

ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อมช่อง USB Type-C 4 ช่อง

มีไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสารแบบปรับได้ 64 เฉดสี

ครั้งแรกของ The new A-Class กับหลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายของห้องโดยสาร

ขุมพลังจิ๋วแต่แจ๋ว เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.3 ลิตร เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์

ติดตั้งระบบ Cylinder shut-off ที่ทำให้เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนด้วยลูกสูบเพียง 2 ลูกสูบ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ

ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) แบบคลัตช์คู่ จับคู่กับระบบอัดอากาศ Turbocharger

ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 8.3 วินาที

ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ คือ Eco, Comfort, Sport และ Individual

ระบบช่วงล่างแบบ Lowered comport suspension

รองรับการใช้น้ำมันได้ถึง E85 ตามมาตรฐาน EURO6 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยสูงสุด 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร

เรียกว่าประหยัดพอตัวทีเดียว

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS

ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ADAPTIVE Brake ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบแอคทีฟ (Active Break Assist system)

ไฟกะพริบเบรกฉุกเฉิน, ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว

ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)

ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู (Exit Warning Function)

ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)

ควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP

ติดตั้งถุงลมนิรภัยไว้รอบคัน ปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า-หลัง

ตำแหน่งผู้ขับขี่ยังมีถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าอีกด้วย

มีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย สีขาว (Polar white) สีดำ (Cosmos black) สีเงิน (Iridium silver) และสีเทา (Mountain grey)

The new A-Class รุ่น A 200 AMG Dynamic ราคา 2,320,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]