ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 มิถุนายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
ทอมกับเจอรี่มีมาตั้งแต่ปี 1940 แล้ว วิลเลียม ฮันนา ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี 2001 โจเซฟ บาร์เบร่า ถึงแก่กรรมเมื่อปี 2006 วันนี้เวลาล่วงเลยมาถึงปี 2023
แต่ทอมกับเจอรี่ก็ยังอยู่
วันก่อนนั่งอ่านหนังสือพ่อมดอ๊อซอีกรอบให้บังเอิญเปิดเฮชบีโอพบทอมกับเจอรี่กับพ่อมดอ๊อซพอดี เป็นหนึ่งในวิดีโอของทอมกับเจอรี่ที่ได้รับคำชื่นชมพอประมาณด้วยสามารถแทรกทอมกับเจอรี่เข้าไปในเรื่องราวของโดโรธีและพ่อมดอ๊อซโดยไม่เสียเนื้อเรื่องหรือเนื้อหาดั้งเดิมเลย
แม้ว่าเจอรี่จะทุบทอมตลอดทั้งเรื่องก็ตาม
พ่อแม่สมัยใหม่หลายบ้านมีคำถามเรื่องความรุนแรงที่มากับทอมกับเจอรี่ บ้างไม่ชอบเพราะรุนแรงมากซึ่งเป็นความจริงหากประเมินจากจำนวนครั้งที่ทอมถูกทุบ มิใช่ทุบธรรมดา แต่ทุบกันตัวบี้ตัวแบนกันเลยทีเดียว ตกจากที่สูงถูกรถบดทับก็หลายครั้ง ก้อนหินใหญ่กลิ้งใส่ ตกน้ำไปก็มี
กล่าวเฉพาะทอมกับเจอรี่กับพ่อมดอ๊อซนี้ที่เสียววูบไปทั้งตัวคือฉากเจอรี่กับมันชกิ้นเมาส์ถลกหนังทอมตอนกลางเรื่อง บรื๋อวว์
ฝ่ายแก้ต่างว่าเด็กๆ รู้บริบท นี่เป็นการ์ตูน และไม่มีอะไรจริงสักอย่างเดียว
ไม่นับว่าหลายครั้งที่เจอรี่ก็แสดงออกว่ารักและเป็นห่วงเป็นใยทอม (ตอนไหน?)
เมื่อโดโรธีและหมาโตโต้หายไปพร้อมบ้านเพราะถูกพายุไซโคลนหอบเอาไป ทอมกับเจอรี่ได้ตกลงจับมือทำสัญญาว่าจะร่วมมือกันช่วยโดโรธีและโตโต้กลับมาให้ได้ แล้วพวกเขาก็พยายามอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกัน แต่ดูเหมือนการร่วมมือกันนั้นจะเป็นความเจ็บตัวของทอมทุกที
การ์ตูนอ๊อซเรื่องนี้เริ่มต้นแบบในหนังและละครเวทีที่เคยดู คือเมื่อป้าข้างบ้าน (ซึ่งหน้าตาจะเหมือนแม่มดตะวันตกในเวลาต่อมา) จับเอาโตโต้ไป ทอมกับเจอรี่ออกไล่กวดแม่มดด้วยความสนุกสนานเป็นประเดิมก่อนที่จะมาถึงฉากพายุไซโคลนที่พัดเอาทอมกับเจอรี่ไปด้วย ทั้งสองตกลงบนถนนสีเหลืองแล้วพบกับมันชกินส์เมาส์ที่ตัวเล็กยิ่งกว่าเจอรี่เมาส์เสียอีก
มันชกินส์เมาส์อยากตัวสูง เขาชวนทอมกับเจอรี่เดินทางตามถนนสีเหลืองเพื่อตามหาโดโรธี เป็นว่าหุ่นไล่กาที่พวกเขาพบตัวแรกมิใช่ตัวที่ไร้สมอง แต่เป็นนกอีกาตัวแสบสองตัว Heckle and Jeckle เจ้าเก่าที่เกาะอยู่บนหุ่นไล่กา
การ์ตูนใช้เพลงประกอบเหมือนในหนัง ดังนั้น Over the Rainbow ยังอยู่แม้มิใช่เสียงของจูดี้ การ์แลนด์ แต่ความไพเราะนั้นพอฟัดพอเหวี่ยง การ์ตูนข้ามตอนที่โดโรธีพบหุ่นไล่กาอยากได้สมอง คนตัดไม้ดีบุกอยากได้หัวใจ และสิงโตอยากได้ความกล้าหาญไปเสีย หนังข้ามไปตอนที่สหายทั้งสี่เดินทางบนถนนสีเหลืองเพื่อไปเมืองมรกตสีเขียวแล้ว โจทย์ของเรื่องจึงมีห้าข้อรวมทั้งโดโรธีอยากกลับบ้านและมันชกินเมาส์อยากตัวสูง
แล้วทอมกับเจอรี่อยากได้อะไร
หนังผจญภัยไปตามหนังปี 1939 ไม่ผิดเพี้ยน แม้แต่รองเท้าของโดโรธีก็เป็นสีทับทิม (คือรองเท้าของแม่มดตะวันออกที่บ้านของโดโรธีตกลงมาทับตาย) หนังสือปี 1900 ของแฟรงก์ โบม รองเท้าคู่นี้จะเป็นสีเงินและมีบทวิจารณ์ที่ว่าโดโรธีใส่รองเท้าเงินที่มีมูลค่าลดลงในสหรัฐ เวลานั้นเดินไปตามถนนสีทองเพื่อไปเมืองธนบัตรสีเขียว ที่เธอต้องการมิใช่ความสมบูรณ์พูนสุข หากแต่เธอต้องการกลับไปแคนซัสอันแสนแห้งแล้งของเธอเพราะ No Place Like Home ไม่มีที่ใดเหมือนบ้าน
เมื่อสหายทั้งสี่ถึงเมืองมรกตพบพ่อมดอ๊อซผู้ยิ่งใหญ่และขอสิ่งที่ต้องการ พ่อมดอ๊อซไม่ให้จนกว่าจะไปเอาไม้กวาดวิเศษของแม่มดตะวันตกมาให้ ทั้งสี่จึงต้องเดินทางต่อไป
แม่มดตะวันตกพร้อมฝูงวานรบินเป็นผู้ร้ายเช่นเคย หล่อนจับโดโรธีไว้บนปราสาท ทอมกับเจอรี่กับมันชกิ้นเมาส์พวกหนึ่ง หุ่นไล่กาช่างตัดไม้ดีบุกกับสิงโตพวกหนึ่ง สองพวกหาหนทางขึ้นปราสาทอย่างสนุกสนาน ช่วงนี้จะมีดารารับเชิญสำคัญคือหมาขาวหาวนอนเสียงแก่ Droopy เจ้าเก่าซึ่งเล่นได้มันมากหลายฉาก แต่ที่มันยิ่งกว่าคือฉากเจ็บตัวของทอมซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเฉพาะกรรมวิธีที่จะต้องไปหาน้ำมาสาดแม่มดตะวันตก
ทอม (กับเจอรี่ด้วยแม้จะน้อยกว่า) ที่แท้แล้วเป็นพวกมนุษย์ยางยืดเหมือน Mr.Fantastic ในสี่มหัศจรรย์ Fantastic Four ทอมถูกทุบบี้แบนเท่าไรก็พองตัวขึ้นมาตามเดิมได้ทุกครั้งแต่ถ้านั่งสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคุณสมบัติยางยืดของทอมเป็นเพียงการตั้งรับ (passive)
เราไม่เคยเห็นทอมยืดแขนยาวออกไปทำอะไรเหมือนแม่นาก (active) เลย
หนังจบลงเมื่อแม่มดร้ายถูกน้ำสาดละลายหายไป ทุกคนได้สิ่งที่ต้องการจากพ่อมดอ๊อซหลังจากฉีกหน้ากากพ่อมดอ๊อซออกแล้วแบบในหนัง มันชกิ้นเมาส์จะสูงได้อย่างไรลองไปหาดูกันโดยเริ่มตั้งแต่ฉากที่มันชกิ้นเมาส์สูงเทียมประตูปราสาท กวัดแกว่งทวนสองมืออย่างน่าเกรงขามนั้นแล้ว
สนุกดีนะครับ ห้าสิบกว่านาทีเท่านั้น เหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุดูระลึกความหลัง
วิลเลียม ฮันนา เขียนหน้าคำนำหนังสือ Tom and Jerry Fifty Years of Cat and Mouse ของ TR Adams ปี 1991 ว่าเมื่อได้รับทาบทามให้ทำการ์ตูนสั้น พลันความคิดเรื่องแมวไล่หนูก็บังเกิด แมวจับหนู สัตว์ใหญ่ทำร้ายสัตว์เล็ก คนใหญ่ทำร้ายคนเล็ก
พล็อตเรื่องแบบนี้กินใจคนได้ง่ายถ้าทำให้คนเล็กตอบโต้คนใหญ่ได้ทุกๆ สมรภูมิ
หากจำกันได้สมรภูมิแรกของทอมกับเจอรี่คือห้องครัว ห้องครัวเละเทะกันได้ทุกๆ ตอน โดยที่เราจะได้เห็นเฉพาะขาของแม่ครัวที่ร่างน่าจะอ้วน
ทอมกับเจอรี่ไม่เคยพูด พวกเขาใช้ภาษาท่าทางสื่อสารกับคนดูได้สบายๆ ว่าผิดใจกันเรื่องอะไรในแต่ละตอน ช่วงหลังมีการสร้างหนังใหญ่กันแบบพ่อมดอ๊อซอีกหลายเรื่อง มีตัวละครอื่นๆ แทรกเข้ามามากมายชวนให้สงสัยว่าทอมกับเจอรี่จะพูดเมื่อไร กล่าวเฉพาะเรื่องพ่อมดอ๊อซนี้มันชกิ้นเมาส์พูดได้จ๋อยๆ
ทอมกับเจอรี่ไม่ต้องพูด เขาสื่อสารกับทุกตัวละครในหนังใหญ่เหล่านี้ได้เสมอ เก่งจริงๆ •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022