คนที่ไม่เคยมีใครมองเห็น | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

1

Rehan Stanton เป็นนักศึกษาที่ Harvard Law School และกำลังจะเรียนจบ

วันหนึ่ง เขากำลังเดินไปเรียนหนังสือที่คณะ เขาเห็นภารโรงกำลังทำความสะอาดอยู่ จึงกล่าวทักทาย

“สวัสดีครับ คุณเป็นไงบ้าง” Rehan ทัก

“คุณทักฉันเหรอคะ?” ภารโรงคนนั้นหันมาด้วยความประหลาดใจ

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้เลยว่าคุณพูดกับฉัน” แล้วเธอก็เงียบไป

“ปกติแล้วเวลานักศึกษาเดินมาเห็นฉัน พวกเขาจะมองไปที่กำแพง มากกว่าจะพูดคุยกับฉันน่ะค่ะ”

Rehan รู้ดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร

2

ก่อนที่จะมาเป็นนักศึกษากฎหมายในสถาบันอันทรงเกียรติ เขาก็เคยทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดมาก่อน

และเป็นเพื่อนร่วมงานชาวพนักงานทำความสะอาดนั่นแหละที่สนับสนุนให้เขาเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้ได้

ทุกครั้งที่เขาเห็นภารโรง คนที่ไม่มีใครเคยมองเห็น

เขาจึงมองเห็นตัวเขาเองด้วย

เพราะเขาก็เคยเป็นคนที่ไม่มีใครมองเห็นมาก่อนเหมือนกัน

3

ก่อนที่จะเข้า Harvard Law of School ได้ Rehan ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะหาเงินเลี้ยงชีพและเรียนไปด้วยพร้อมกัน

เขาต้องเก็บขยะในตอนเช้าแล้วรีบมาเรียนให้ทัน

วันไหนที่ไปเก็บขยะแล้วกลับไปอาบน้ำไม่ทัน เขาจะไปนั่งอยู่แถวหลังสุดของห้องเรียน เพื่อหลบเร้นจากสายตาของเพื่อนร่วมชั้นที่มองมาที่เขาด้วยความรังเกียจ

ครอบครัวของ Rehan ก็เป็นพนักงานทำความสะอาดเหมือนกัน

เขาจึงเข้าใจดีว่างานประเภทนี้ต้องเผชิญความยากลำบากอะไรบ้าง ทั้งการทนอยู่กับความไม่สะอาดที่ไม่มีใครอยากอยู่ รายได้ที่ไม่เพียงพอ ฯลฯ

เขายังจำความหิวโหยได้ดีว่าเป็นอย่างไร

4

สำหรับ Rehan เขารู้สึกว่าพนักงานทำความสะอาด ภารโรง ช่างไฟ เจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆ ทั้งหลายในมหาวิทยาลัย เป็นเหมือน “ครอบครัว” ของเขา

เขาจึงไม่รู้สึกแปลกที่จะทักทายหรือใกล้ชิดสนิทสนมกับ “ครอบครัว” ตัวเอง

การมาเรียนสำหรับเขาจึงเหมือนการได้เจออีกครอบครัวหนึ่ง

ก่อนที่เขาจะเรียนจบ เขาอยากทำบางอย่างเพื่อคนที่ไม่เคยมีใครมองเห็นเหล่านี้

คนที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนให้ชีวิตของผู้คนในมหาวิทยาลัยดำเนินต่อไปได้อย่างดี แต่กลับไม่มีใครเคยมองเห็น

Rehan อยากให้พวกเขารู้ว่า มีคนเห็นคุณค่าของเขา

“ปกติแล้วเวลานักศึกษาเดินมาเห็นฉัน พวกเขาจะมองไปที่กำแพง มากกว่าจะพูดคุยกับฉันน่ะค่ะ”

คำพูดของภารโรงคนนั้นยังฝังใจเขา

5

หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เขาได้ฟังคำพูดที่น่าเจ็บปวดของภารโรงคนนั้น Rehan ใช้เงินเก็บจากการทำงานช่วงฤดูร้อนที่มหาวิทยาลัยเพื่อซื้อของขวัญให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ของมหาวิทยาลัยทุกคน พร้อมกับเขียนโน้ตขอบคุณพวกเขาแต่ละคนด้วยลายมือ

ไม่เพียงเท่านั้น Rehan ยังตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ “Reciprocity Effect”

เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงยกย่องให้เกียรติเจ้าหน้าที่ให้เป็นที่รู้จักและมีตัวตน

คนเหล่านี้คือ “ฮีโร่ผู้อยู่เบื้องหลังที่ไม่มีใครมองเห็น”

งานของพวกเขามีส่วนช่วยให้นักศึกษา Harvard มีชีวิตการศึกษาที่ดี ในขณะที่พวกเขาอาจไม่เคยเรียนจบที่ Harvard เลยด้วยซ้ำ

บริษัทแรกที่มาร่วมบริจาคให้กับ Reciprocity Effect คือ Bates Trucking & Trash Remover

เป็นบริษัทที่ Rehan เคยทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด

และเป็นบริษัทที่อยากให้เขามาเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้

6

Rehan และนักศึกษากลุ่มเล็กๆ ช่วยกันระดมเงินบริจาคจนได้เงินมากกว่า 70,000 เหรียญ

วันที่เปิดตัว Reciprocity Effect พวกเขาจัดงานมอบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย

มีนักศึกษาร่วมกันแสดงความยินดีและแสดงความขอบคุณ

เจ้าหน้าที่หลายคนทำงานในมหาวิทยาลัยมานานแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะได้รับการยอมรับเท่านี้

พวกเขาไม่ได้มาเพื่อเสิร์ฟอาหารหรือบริการใคร แต่มาเพื่อได้รับการยกย่องความทุ่มเทที่พวกเขามีมาตลอดหลายปี

จากเดิมที่ผู้คนเลือกจะมองดูกำแพงมากกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้พวกเขามองเห็นคนตรงหน้า

และกำแพงได้ถูกทำลายลง

7

หลังจากเรียนจบ Rehan กำลังจะเริ่มต้นงานใหม่ที่สำนักงานกฎหมายที่ New York

เขายังคงตั้งใจที่จะนำสิ่งที่เขาทำที่ Harvard ขยายผลไปสู่สถาบันการศึกษาทั้งประเทศ

เขาอยากให้คนตัวเล็กๆ ได้รู้ว่าตัวเองมีคุณค่า

และอยากให้คนได้มองเห็นพวกเขาเต็มตาและเต็มหัวใจ

8

เมื่อมีคนอยู่ตรงหน้า

เราเลือกหันไปมองกำแพง

หรือมองเห็นคนที่อยู่ตรงนั้น

และเมื่อเรามองเห็นเขา

มองให้เห็นความเป็นมนุษย์เหมือนกัน

มองให้เห็นชีวิตของเราในชีวิตเขาเชื่อมโยงกัน

มองให้เห็นความเป็นเราที่เท่ากัน

มองให้เห็นคุณค่าของกันและกัน