“สายลม – ทิม พิธา” ซิงเกิ้ลของอนาคตว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

อัษฎา อาทรไผท

สำหรับใครที่ติดตามชมการสัมภาษณ์ของ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาโดยตลอดน่าจะทราบจากการบอกเล่าของเขาว่า เมื่อสมัยเป็นวัยรุ่นเขาเคยไว้ผมทรงเดรดล๊อค หรือแม้แต่ทำสีผมตามสไตล์วงกรีนเดย์มาแล้ว แน่นอนว่าเขาเป็นผู้ชื่นชอบดนตรีตัวยง เล่นกีตาร์ได้ดี และจากที่ได้ชมคลิปที่เขาเล่นกีตาร์ร้องเพลง “คืนนี้…ขอหอม” ของพี่โป้โยคีเพลย์บอยแล้ว แม้จะร้องเพียงสั้น ๆ แต่ก็สัมผัสได้ว่าเป็นคนร้องเพลงเพราะ

ยิ่งเมื่อได้ชมคลิปที่ คุณพิธา ไปร้องคาราโอเกะร่วมกับคุณธนาธร ยิ่งตอกย้ำว่าเขาน่าจะร้องเพลงได้เพราะที่สุดในพรรค

ในช่วงเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา มีเพลงที่ใช้ในการเลือกตั้งหลายเพลง ที่ได้ยินบ่อยจนติดหู จนผมจำเนื้อเพลงได้ ฮัมเมโลดี้ได้แบบไม่รู้ตัว จนแอบไปเสาะแสวงหาว่าใครเป็นคนทำ และตั้งใจจะหยิบมาเขียนถึงสักหน่อย แต่บังเอิญไปได้ยินเพลง “สายลม” นี้เข้าเสียก่อน จากการที่ช่วงนี้ผมชมคลิปการเมืองมากอยู่สักหน่อย อัลกอริทึมของยูทูปเขาเลยจัดมาให้ เลยขอนำเสนอเพลง “สายลม” ของคุณทิม พิธา ที่เสนอช้าไปราว 10 ปีได้ เพราะเขาออกเพลงนี้มานานแล้ว

เพลง สายลม เป็นเพลงสบาย ๆ ที่เริ่มมาด้วยเสียงบรรยากาศ คล้ายลมพัดกระทบใบไม้ หรือฟังเผิน ๆ อาจคล้ายเสียงฝนตกพรำ ๆ ตามด้วยเสียงอคุสติกกีตาร์สองตัว สตรัมคอร์ดเคล้าเกาคลอเคลียกันไป ให้อารมณ์ออกเย็น ๆ ชวนฝันปนเหงา ปูเป็นท่วงทำนองให้เสียงร้องของ ทิม พิธา ที่เนื้อเสียงฟังสบายๆ แบบสมัยใหม่ เคล้าเสียงเชลโล่ที่เพิ่มเข้ามา พรรณนาถึงความห่างไกล ความเหงา เมื่อพลัดพรากคนรัก เขาขอฝากสายลมให้นำความรู้สึกคิดถึงและความรักไปให้เธอคนนั้นได้รับรู้

ตัวเพลงเป็นเพลงอคุสติกแท้ ๆ ฟังสบาย ๆ โดยไม่มีกลองหรือเบสมากระตุกต่อมตื่นเต้น แต่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งของอคุสติกกีตาร์ ความละมุนของเสียงเชลโล บวกกับเสียงร้องของคุณพิธา มาขับเคลื่อนบทเพลงให้โอบเอาความรักแบบเหงา ๆ ล่องลอยไปสู่หัวใจผู้ฟัง เหมือนชื่อเพลงว่า สายลม

สำหรับเพลงนี้เวลาฟัง คงไม่มีใครอินเท่าคุณต่าย ชุติมา อดีตภรรยาของคุณพิธา เพราะเมื่อลองดูที่มาที่ไปของเพลง ก็พบว่าเพลงสายลมนี้ คือเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อฉลองงานแต่งงานของคุณพิธา และคุณต่าย โดยได้มีบันทึกเป็นภาษาอังกฤษไว้ว่า

“This song was made in celebration of marriage between Pita and his wife, Chutima Limjaroenrat.  The lyrics is inspired by their long journey of distance & intimacy, hardship & company, and destiny & commitment.  During their relationship, Pita spent most of his time as a student at Harvard University in Boston while Chutima was an actress here in Bangkok.  They met while Chutima was acting in the movie, “Galileo” in 2008.  Against all odds, they had put up a fight against loneliness and pains of being far apart and made it.  Finally.  Chutima & Pita tied the knot on May 5 2012 and will celebrate their marriage in December 2012.”

พอจะแปลเป็นไทยได้ว่า “เพลงนี้ทำขึ้นสำหรับงานฉลองแต่งงานของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และชุติมาภรรยาของเขา เนื้อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจาก ความห่างไกลกับความรัก ความลำบากกว่าจะได้มาพบเจอ และโชคชะตากับความมุ่งมั่น ตลอดระยะเวลาที่คบกัน พิธาเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน ส่วนชุติมาเป็นนักแสดงอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พวกเขาได้เจอกัน (ที่อิตาลี) ขณะที่ชุติมากำลังถ่ายภาพยนต์เรื่อง “ตามหากาลิเลโอ” ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาทั้งสองต่อสู้กับความเหงาและความปวดร้าวของความห่างไกลจนได้ ชุติมาและพิธาแต่งงานกันเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2555 และจะมีพิธีฉลองแต่งงานในเดือนธันวาคม 2555”

เพลงสายลมนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Sailom : Song for His Wife หรือ สายลม เพลงแด่ภรรยาของเขา เพลงนี้น่าเสียดายที่คุณทิม พิธา ร้องอย่างเดียวไม่ได้แต่ง แต่ถ่ายทอดความรู้สึกให้โปรดิวเซอร์ คุณกอล์ฟ วง  Good September เป็นผู้เขียนเนื้อเพลง โดยได้ออกเป็นซิงเกิ้ล ลงอยู่ในยูทูปมาได้ 9 ปีกว่าแล้ว ภายใต้ค่ายเพลง มันส์เดย์ มิวสิค ที่ก่อตั้งโดย คุณกอล์ฟ และเพื่อนอีกสองท่าน คุณติ๊ก คุณเก่งวง Playground ที่มีผลงานชั้นนำในวงการดนตรีของไทยมาจนทุกวันนี้

ในขณะที่เขียนบทความนี้ คุณพิธา ได้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย กำลังจัดตั้งรัฐบาล และลุ้นว่าจะได้รับคะแนนโหวตเพียงพอให้ขึ้นเป็นนายกหรือไม่ คำตอบเรายังไม่ทราบ เหมือนเช่นวันที่คุณพิธาออกซิลเกิ้ลเพลงนี้ ผมก็คิดว่าเขาคงยังไม่ทราบว่า อีกราว 10 ปีต่อมา คุณต่ายชุติมา จะต้องมาเหินห่างกันอีกครั้ง และเขากำลังจะได้มาเป็นผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดในประเทศไทย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อนาคตเราไม่มีทางคาดเดาได้ แต่หากเราทิ้งผลงานดี ๆ เอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปผลงานนั้นจะมีคนกล่าวถึง เพลง สายลม ก็เช่นกันครับ