จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 1-7 ธันวาคม 2560

จดหมาย

0 หนาว

มนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาว
เริ่มดึงดูดผู้คนให้เดินทางไปสัมผัสไอหมอกชื่นฉ่ำเย็นสบายเหนือขุนเขาเหล่าดอยอุทยานต่างๆ ในท้องถิ่น
ที่ “เมืองน่านบ้านเฮา” ก็เริ่มคึกคัก
คาดว่าวันหยุดยาวในช่วงฤดูกาล
ทั้งบิ๊กไบก์และคาราวานยานยนต์คงขนสัมภาระทยอยขึ้นไปพักผ่อนสังสรรค์กันอย่างล้นหลามดั่งปีที่ผ่านมา
ซึ่งหากการจัดวางแผนผังแบ่งเขตพื้นที่พัก, ที่จอดรถ, ที่ทำอาหารไม่เป็นสัดส่วน
ก็จะสร้างความยุ่งยาก พลาดหวัง ให้แก่นักท่องเที่ยว
ด้วยกลุ่มผู้มาทีหลังจะมีเนื้อที่ให้เลือกพักผ่อนน้อยลงทุกขณะ
บางดอยเต็มตั้งแต่บ่ายสามบ่ายสี่ ทว่ายังมีรถวิ่งตามกันขึ้นไปกระทั่งเกิดภาวะ “รถติดดอย”
กว่าจะแก้ไขได้ต้องใช้เวลานานถึงย่ำค่ำซึ่งเป็นช่วงที่มืดสลัวและหนาวเย็นเร็วกว่าฤดูอื่น
…การเดินทางถึงที่พักแต่ละแหล่งอาจล่าช้าเลยเวลามื้ออาหารก็จะหิว-เร่งรีบต้มยำทำแกง
จึงต้องเพิ่มความรอบคอบระมัดระวัง การใช้อุปกรณ์หุงต้มทั้งเตาแก๊สและถ่านไฟหลังการปิ้งย่าง
กอปรกับจุดสูบบุหรี่ในพื้นที่มีรถยนต์อยู่อย่างเบียดเสียดแน่นขนัด
อีกประการสำคัญอย่างยิ่งในการเดินทางคือ โชเฟอร์ต้องพร้อม-มีสติระวังระไวในการนำพาเพื่อนร่วมทริปท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มที่นอนดอยละคืน (ตื่นเช้ามาพากันตะลุยไปอีกดอย) ซึ่งเขาบางลูกต้องขับรถไปอีกสามสี่อำเภอกว่าจะถึง
หากง่วงเปลี้ยเพลียแรงก็อาจจะพลาดพลั้งได้ง่าย ด้วยเส้นทางบางช่วงขึ้นเขาลงโค้งบนหุบห้วยลาดชัน…
ความสุขสำราญช่วงเวลาสั้นๆ สองสามวันหากได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นที่ไปเยือนก็ได้เพื่อนเพิ่ม
จึงควรหาโอกาสแวะยืดแข้งยืดขาออกกำลังเดินแอ่ว “กาดเจ๊า-กาดแลง-ถนนคนเดิน” ทักทายสนทนาพ่อค้าแม่ขาย-อุดหนุนขันโตก “จิม” แก๋งก้าม แก๋งม่ะหนุน น้ำพริกผักนึ่ง-น้ำปู๋กับ “ซะป๊ะ” ของฝากนานาสารพัน…
ซึมซับรับเอามิตรภาพไว้ฤดูกาลต่อไป
ใคร-ใครถามหนาวนี้เที่ยวไหนดี ก็ไม่รีรอที่จะตอบ “แอ่วน่าน…แอ่วน่าน” เจ้าาาา
ด้วยความเคารพและนับถือ
สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

“จดหมายหนาว” อันหมายถึง จดหมายฉบับนี้
มีความแตกต่างจาก “จดหมายฝน” ที่เป็นจดหมายฉบับต่อไปอย่างมาก
แตกต่างที่อารมณ์-ความรู้สึก
ความหนาว ทำให้อารมณ์ดี แจ่มใส
ผู้คนรู้สึกอยากท่องเที่ยว
“เมืองน่านบ้านเฮา” ของ สงกรานต์ บ้านป่าอักษร จึงคึกคัก
น่าจะตลอดทั้งเดือนนี้ไปจนถึงปีใหม่
เฮฮาสนุกสนานกันแล้ว ก็ควร “ปิ๊ก” บ้านอย่างมีความสุข
อย่ามีอุบัติเหตุ หรือเหตุร้ายใด-ใด
ซึ่งการจะ “ไม่มี” นั้น
การระมัดระวัง รอบคอบ ไม่ประมาท อย่างที่ “สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” แนะ ช่วยได้

0 ฝน

นํ้าท่วมประเทศเกิดขึ้นทุกปี
ซ้ำซาก น่าเบื่อหน่าย
เศรษฐกิจเสียหาย
ประชาชนเดือดร้อนกันทั่ว
เห็นบอกว่าจะยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ขณะนี้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
หรือกำลังยุ่งเรื่องจะตั้งพรรคการเมืองดีหรือไม่ดี
น้ำท่วมที่เดิมๆ แต่เราไม่ทำคูคลองระบายน้ำตรงจุดนั้น ไม่หาวิธีเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง
ไม่ให้น้ำท่วมบ้านเรือนและที่ทำกินของชาวบ้าน
นี่แหละประเทศไทย หน้าแล้งเก็บกักน้ำให้เกษตรกรปลูกพืชผลไม่ได้
หน้าฝน ปล่อยน้ำให้ท่วมเกือบทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ ก็เช่นกัน ก่อนฤดูฝนทำไมไม่เตรียมขุดลอกคูคลอง ท่อระบายน้ำ กรมราชทัณฑ์ก็พร้อมใจจะส่งผู้ต้องขังมาช่วย ทหารก็พร้อมจะช่วย แล้ว กทม. ทำอะไรอยู่
ปล่อยให้ขยะ วัชพืชกั้นทางน้ำไหล ประชาชนคนไทยบางคนก็เหลือเกิน ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง มักง่าย
ที่มีบ้านอยู่ริมน้ำก็ปล่อยปละละเลย
ถือว่าธุระไม่ใช่ ขยะวัชพืชลอยมาถึงบันไดบ้าน น่าจะช่วยเก็บขึ้นเสียหน่อย
พอวัชพืชเต็มท้องน้ำ ก็ร้องให้ทางการมาจัดการ
ไหนพูดกันว่าจะทำดีเพื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 แค่ขยะยังทิ้งไม่เป็นที่ แล้วจะไปทำดีอะไรได้
ม.44 จะช่วยให้คนไทยมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมและช่วยให้มีระเบียบวินัยบ้างไหม
คนอีสาน

แม้ลมหนาวจะมาแล้ว
แต่ภาคอีสาน และภาคกลาง บางจังหวัดก็ยังชุ่มน้ำ
ส่วนภาคใต้ ไม่ต้องพูดถึง หลายจังหวัดต้อง “ลอยคอ”
“จดหมายฝน” ของคนอีสาน จึงมากด้วยความหงุดหงิด เบื่อหน่าย
และถามถึงความคืบหน้าในการจัดการปัญหานี้
แจ้งให้ทราบหน่อย
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ ม.44
ตั้ง นายสมเกียรติ ประจําวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน
ให้ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าแห่งชาติแล้ว
และให้ นายทองเปลว กองจันทร์ ขึ้นจากรองอธิบดีมาเป็นอธิบดีกรมชลประทาน แทน
ส่วนตั้งแล้ว ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง จะดีขึ้นหรือไม่
บ่ฮู้ คร้าบ