แนวโน้ม : จากปัจจุบัน ถึงปี 2578 ถ่านหิน พลังไฟฟ้าหลัก

“วูด แม็กเคนซี” กลุ่มวิจัยและที่ปรึกษาด้านพลังงานของอังกฤษ เปิดเผยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำเป็นต้องลงทุนเป็นมูลค่ารวม 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการอันล้นหลามในภูมิภาค

อาเซียนซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ราว 2.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐจะต้องเพิ่มความสามารถในการผลิตไฟฟ้าอีก 270 กิกะวัตต์ภายในปี 2578 จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 209 กิกะวัตต์

บรรดาประเทศที่มีการบริโภคไฟฟ้าต่ำอย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เมียนมา ลาว กัมพูชา มีข้อด้อยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือด้านการผลิตไฟฟ้า

ดังนั้น จึงคาดว่าจะเห็นพัฒนาการมากขึ้นในตลาดเหล่านี้

ภายในปี 2578 โรงไฟฟ้าใหม่ที่ผลิตไฟฟ้าได้ 89 กิกะวัตต์ในอินโดนีเซีย และ 72 กิกะวัตต์ในเวียดนามจะเริ่มดำเนินการได้

ถึงแม้จะมีกระแสต่อต้านถ่านหินมากขึ้นทั่วโลก แต่ถ่านหินยังคงเป็นแหล่งผลิตพลังงานหลักในอาเซียน และนับตั้งแต่ปัจจุบันถึงปี 2578 พลังไฟฟ้าเพิ่มเติม 98 กิกะวัตต์จะมาจากถ่านหิน อีก 49 กิกะวัตต์จะมาจากก๊าซธรรมชาติ

และ 44 กิกะวัตต์จะมาจากพลังน้ำ