คอลัมน์ประจำ

ยอดแฟนพันธุ์แท้แมนฯ ยู

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 พฤษภาคม 2566
คอลัมน์คลุกวงใน
เผยแพร่

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

ยอดแฟนพันธุ์แท้แมนฯ ยู

 

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม เป็นวันสุดท้ายของฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก

สำหรับแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ เวลาฤดูกาลฟุตบอลสิ้นสุดลง จะรู้สึกเศร้าสร้อย หงอยเหงา อีกหลายเดือนกว่าฤดูกาลใหม่จะเริ่ม

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-2024 จะเริ่มวันที่ 12 สิงหาคม ต้องรอกันอีกเกือบ 3 เดือน

ฤดูกาลสิ้นสุดทีไร แฟนพันธุ์แท้เศร้าใจทุกครั้ง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ฤดูกาล

 

ในปี 2003 มีการทำโพลสำรวจที่น่าสนใจโดยบาร์กเลย์คาร์ด (Barclaycard) บัตรเครดิตของสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ว่าแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ในสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ, เวลส์, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ มีอาการซึมเศร้าระดับไหนเมื่อฤดูการแข่งขันสิ้นสุดลง โดยทำการสำรวจแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ 2,000 คน

ได้ผลการสำรวจว่า

60% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่ามีอาการซึมเศร้าเมื่อฤดูกาลฟุตบอลสิ้นสุดลง อาการต่างๆ เช่น ไม่มีแรงจูงใจในการทำอะไร, ไม่อยากพูดคุยกับลูก เมีย เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน, รู้สึกชีวิตว่างเปล่า ไม่มีเป้าหมาย อารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

86% บอกว่าวางแผนต่างๆ ในชีวิตโดยยึดตารางการแข่งขันฟุตบอลเป็นหลัก

83% บอกว่าฟุตบอลมีผลต่ออารมณ์ทางบวกของตัวเอง

75% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่าฟุตบอลเป็นสิ่งสำคัญระดับต้นๆ ของชีวิต สำคัญยิ่งกว่า ลูกเมีย ครอบครัว ญาติพี่น้อง การเมือง และศาสนา

หลายคนอาจสงสัยว่ามีด้วยหรือที่แฟนพันธุ์แท้ระดับที่เห็นฟุตบอลสำคัญกว่าลูก เมีย ญาติพี่น้อง คำตอบคือ มี

 

ปีเตอร์ โบลตัน (Peter Bolton) อดีตคนขับรถแท็กซี่ วัย 65 ปี ที่ปัจจุบันเกษียณแล้ว ถือเป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เพราะนับตั้งแต่ปี 1974 เขาไม่เคยพลาดชมการแข่งขันของทีมแมนฯ ยู ที่สนาม Old Trafford แม้แต่ครั้งเดียว รวมแล้วเกิน 1,000 นัดติดต่อกันหากไม่รวมช่วงสถานการณ์โควิด-19

ในแต่ละฤดูกาล ปีเตอร์เข้าชมทีมแมนฯ ยู, ทีม U23 และทีม U18 แข่งที่สนามจริง รวมแล้วกว่า 100 นัดต่อฤดูกาล

วันแต่งงานพี่ชาย ปีเตอร์ โบลตัน ยังไม่ไปร่วมงานพิธีตอนกลางวันเพราะเลือกที่จะเชียร์แมนฯ ยูที่สนาม Old Trafford แต่ปีเตอร์ก็ไปร่วมงานเลี้ยงตอนกลางคืน ซึ่งพี่ชายก็เข้าใจ ไม่โกรธ ทราบล่วงหน้าแล้วว่าหากจัดงานวันแต่งตรงกันวันที่แมนฯ ยูแข่ง ปีเตอร์จะเลือกแมนฯ ยูก่อน

 

ปีเตอร์เริ่มเป็นแฟนแมนฯ ยูตอนปี 1962 และนับตั้งแต่ปี 1974 ไม่เคยพลาดการแข่งขันที่สนาม Old Trafford แม้แต่หนเดียว

ปีเตอร์ตามเชียร์ทีมแมนฯ ยูมาเป็นพันๆ นัด แต่ไม่น่าเชื่อว่า ภรรยาของเขาเคยเข้าชมการแข่งขันของทีมแมนฯ ยูที่ Old Trafford เพียงครั้งเดียวเมื่อ 45 ปีก่อน โดยพาไปหลังจากเป็นแฟนกันแล้วก่อนแต่งงาน ครั้งนั้นทีมแมนฯ ยูแพ้ ปีเตอร์เลยไม่ชวนไปดูแมนฯ ยูแข่งอีกเลย!

ถามปีเตอร์ว่า ภรรยาไม่น้อยใจหรือที่ปีเตอร์ใช้เวลาไปกับการตามเชียร์แมนฯ ยูทุกนัด

ปีเตอร์ตอบว่า ภรรยาเข้าใจว่าเขารักฟุตบอลมาก และยังมีวันอื่นอีกมากมายใน 1 ปีที่ทีมแมนฯ ยูไม่ได้แข่ง ซึ่งเขาสามารถใช้เวลากับภรรยาได้อย่างเต็มที่

และท้ายที่สุดแล้ว ตัวเขาก็ไปแต่สนาม Old Trafford และสนามฟุตบอล ไม่ได้ไปเมาหัวราน้ำ หรือไปทำเรื่องเสียหายอย่างที่สามีบางคนทำ ปีเตอร์บอกว่าในชีวิตของเขามี 3 สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ฟุตบอล, ครอบครัว และลูก

ส่วนวันแต่งงานของตัวเองในปี 1979 ปีเตอร์ก็ยังเลือกแต่งงานเดือนมิถุนายน เหตุผลก็เพราะเป็นช่วงเวลาปิดฤดูกาล ไม่มีการแข่งขันฟุตบอล

 

ปีเตอร์เล่าถึงวันที่เขาพบแฟนว่า พบกันที่ดิสโก้เธค จากนั้น วันอังคารชวนกันไปดูหนัง หลังดูหนังเสร็จ ฟรานเชสเสนอว่าวันเสาร์ควรกลับไปดิสโก้เธคอีก แต่ปีเตอร์ปฏิเสธทันที โดยบอกว่าวันเสาร์ทีมแมนฯ ยูจะแข่งกับสเปอร์ส

ปีเตอร์เล่าติดตลกว่า ตั้งแต่การออกเดตครั้งแรก ฟรานเชสทราบว่าเขาจะเลือกทีมแมนฯ ยูก่อนเธอเสมอ!

เรื่องการมองการณ์ไกลของปีเตอร์ ก็สุดๆ ไปเลย ในการเลือกวันแต่งงาน ปีเตอร์บอกว่าถ้าไม่วางแผนให้ดี ทุกปีเวลาฉลองครบรอบวันแต่งงาน เขาจะต้องลุ้นใจหายใจคว่ำว่าทีมแมนฯ ยูจะแข่งขันตรงกับวันครบรอบแต่งงานของเขาหรือไม่

จึงเลือกแต่งเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงปิดฤดู ไม่มีการแข่งขัน

 

ที่น่าทึ่งอีกเรื่องคือปี 2015 ฟราสเชสเส้นเลือดในสมองแตก ได้รับการนาตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์แจ้งปีเตอร์ว่าภรรยาอาจจะไม่รอด

ปีเตอร์เล่าว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก นั่งเฝ้าภรรยาตลอด 12 ชั่วโมง พยาบาลแนะนำว่าปีเตอร์ควรกลับไปนอนพักสักหน่อย

แต่สิ่งที่ปีเตอร์ทำก็คือ ไปดูการแข่งขันของแมนฯ ยู ทีมอายุต่ำกว่า 21 ปี ลงเตะกับทีมลิมเวอร์พูล!

ปีเตอร์บอกว่า ใครได้ฟังคงเห็นว่าเขาบ้าไปแล้วที่ภรรยาอาจจะตาย แต่ตัวเขาดันไปเข้าสนาม เชียร์ทีมแมนฯ ยู

แต่เขาบอกว่า การได้ไปเชียร์แมนฯ ยูทำให้เขามีสติกลับมา ได้พักกายและใจ

เพราะทีมแมนฯ ยูเตะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขามากว่า 50 ปี

วันนั้นทีมแมนฯ ยูเอาชนะลิเวอร์พูล 2-1 และข่าวดียิ่งกว่าก็คือ ฟรานเชสรอดชีวิต แม้จะเป็นอัมพาตข้างขวาไปครึ่งซีก และปีเตอร์ต้องเลิกขับแท็กซี่ เพื่อมาดูแลฟรานเชสเต็มตัว

แต่ในวันที่ทีมแมนฯ ยูแข่ง ปีเตอร์จะขอให้ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงมาดูแลฟรานเชส

 

หลายคนอาจสงสัยว่า ปีเตอร์เกษียณแล้ว เอาเงินที่ไหนมาตามเชียร์ทีมแมนฯ ยูในสนามจริง

คำตอบคือ ปีเตอร์ใช้เงินเก็บจากสมัยเป็นคนขับแท็กซี่ เขาใช้จ่ายอย่างมีวินัย แทบจะไม่ซื้อเสื้อทีมแมนฯ ยู หรือของที่ระลึกจากร้านขายสินค้าของทีมแมนฯ ยูเลย

นอกจากนั้น ปีเตอร์ไม่เคยซื้ออาหารในสนามฟุตบอลรับประทานเลย ช่วยประหยัดได้เยอะ