ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 พฤษภาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | Cool Tech |
ผู้เขียน | จิตต์สุภา ฉิน |
เผยแพร่ |
Cool Tech | จิตต์สุภา ฉิน
Instagram : @sueching
Facebook.com/JitsupaChin
AI โคลนนิ่ง
ไม่ใช่ตัวจริงแต่ก็ใกล้เคียง
การเป็นอินฟลูเอนเซอร์นอกจากจะต้องคอยอัพเดตชีวิตตัวเองให้แฟนๆ ได้ติดตามอย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็จะต้องมีวินัยในการตอบข้อความที่แฟนๆ ส่งมาทางอินบ็อกซ์ด้วย
ซึ่งสำหรับอินฟลูเอนเซอร์เบอร์ใหญ่ที่มีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน การจะทำเช่นนั้นให้ได้ทุกวันแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจแฟนๆ อินฟลูฯ บางคนอาจจะต้องมีผู้ช่วยไว้คอยตอบข้อความบ้าง แต่ในยุคที่เทคโนโลยีโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เฟื่องฟูอย่างในตอนนี้จึงมีทางออกที่ดียิ่งกว่าการให้คนอื่นมาช่วยตอบข้อความแทน
และทางออกนั้นก็คือการสร้างสิ่งที่เรียกว่า AI clone ของตัวเองขึ้นมา
คาริน มาจอรี (Caryn Marjorie) วัย 23 ปีเป็นอินฟลูเอนเซอร์เบอร์ใหญ่ที่มีผู้ติดตามเกือบ 2 ล้านคนบนโซเชียลมีเดีย Snapchat ฐานแฟนของเธอเป็นผู้ชายมากถึง 98 เปอร์เซ็นต์ และมักจะตอบกลับภาพและวิดีโอที่เธอโพสต์ในแต่ละวันด้วยข้อความปริมาณมหาศาลที่คารินพิมพ์จนมือหักก็ยังตอบไม่หมด
คารินสร้างกลุ่มบนแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ Telegram เพื่อให้แฟนๆ ที่พร้อมจ่ายได้เข้ามาพูดคุยกับเธอได้อย่างใกล้ชิด เธอใช้เวลากว่าห้าชั่วโมงในการตอบคอมเมนต์ทุกวัน จนมาถึงจุดที่คารินทำไม่ไหวอีกต่อไปและต้องหาตัวช่วย
CarynAI เป็นแชตบ็อตที่ใช้ขุมพลัง GPT-4 ของ OpenAI มาช่วยในการเลียนเสียง กิริยา และบุคลิกของเธอเพื่อให้สามารถเซอร์วิสแฟนๆ ได้อย่างทั่วถึงและสมจริง
แฟนๆ ของคารินสามารถจ่าย 1 ดอลลาร์ต่อนาทีเพื่อคุยกับแชตบ็อตคารินได้โดยการันตีว่าจะรู้สึกเหมือนได้คุยกับเจ้าตัวจริงๆ
ภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว เธอสามารถสร้างรายได้จากแชทบ็อทตัวเองได้ถึง 100,000 ดอลลาร์ และคาดว่าหลังจากนี้จะสามารถทำเงินได้ราวๆ 5 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนโดยตัวเธอเองแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
นี่สิ passive income ที่แท้จริง!
เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าแฟนๆ ของเธอล้วนมีความรู้สึกผูกพันที่แกร่งกล้ามากเป็นพิเศษทำให้พวกเขาส่งข้อความหาเธอทุกวัน สองแขนและยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันที่มีก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอตอบข้อความเหล่านั้นได้หมด แต่พอไม่ตอบเธอก็รู้สึกผิดที่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง
แชตบ็อตปัญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่แทนเธอได้จึงเข้ามาตอบโจทย์ได้พอดิบพอดี
แชตบ็อต CarynAI นี้เป็นผลงานของบริษัทชื่อ Forever Voices ซึ่งเคยสร้างแชตบ็อตเหมือนจริงของคนมีชื่อเสียงมาแล้วหลายคน อย่างเช่น Steve Jobs, Kanye West, Donald Trump และ Taylor Swift ซึ่งก็ทำออกมาได้สมจริงน่าประทับใจแต่ก็ไม่ได้เป็นการร่วมมือในฐานะพาร์ตเนอร์กับคนดังเหล่านั้นอย่างเป็นทางการ บริษัทบอกว่าแชตบ็อตของคารินนี้นับเป็นโปรดักต์ที่ซับซ้อนสมจริงยิ่งกว่าทั้งหมดที่เคยทำมา
เบื้องหลังบริษัทนี้น่าสนใจทีเดียว ซีอีโอชื่อ John Meyer เล่าว่าเขาก่อตั้งบริษัทขึ้นมาหลังจากที่พยายามหาวิธีที่จะสื่อสารกับคุณพ่อที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้
เขาสร้างแชตบ็อตเสียง AI ขึ้นมาโดยให้มันเลียนเสียงและบุคลิกของพ่อและพบว่าเมื่อได้พูดคุยกับ AI ที่มีความใกล้เคียงพ่อของตัวเองมันสามารถช่วยเยียวยาความรู้สึกได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ
จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เดินหน้าสร้างสรรค์เทคโนโลยีแบบนี้ต่อไป
ทุกครั้งที่มีการพูดถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อมาทดแทนสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อจริงๆ ก็จะต้องมีการแสดงความเป็นห่วงว่าจะนำมาซึ่งปัญหาอะไรในอนาคตหรือไม่
อย่างแชตบ็อตของคารินเองก็ดำเนินไปตามเส้นทางที่พอจะคาดเดากันได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งก็คือการเปลี่ยนจากความรักชอบในตัวอินฟลูเอนเซอร์คนหนึ่งไปเป็นการแสดงออกด้านเพศ
เจ้าตัวเข้าใจดีว่ามีโอกาสสูงมากที่แชตบ็อตที่เธอปล่อยไปจะถูกใช้เพื่อให้บริการทางเพศแบบออนไลน์แน่นอน
แต่เธอก็หวังว่ามันจะไม่ได้กลายเป็นฟีเจอร์หลักไปเสีย และทีมงานกำลังพยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ไขเรื่องนี้
เพื่อไม่ให้แฟนๆ หมกมุ่นกับการแชทกับ CarynAI มากเกินไป แชตบ็อตจึงถูกตั้งโปรแกรมมาให้ค่อยๆ ตัดบทสนทนาเมื่อใกล้ครบเวลาหนึ่งชั่วโมง และบอกให้ผู้ใช้งานกลับมาคุยกันใหม่คราวหน้า
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การตัดฉึบทันทีเมื่อครบชั่วโมง ดังนั้น ถ้าผู้ใช้ยืนยันจะคุยต่อก็สามารถทำได้ ซึ่งผู้ใช้จำนวนหนึ่งก็ไม่สนใจ เดินหน้าคุยต่อไปวันละหลายๆ ชั่วโมงอยู่ดี
ข้อดีของการใช้แชตบ็อตมาคุยกับแฟนๆ นอกจากจะช่วยให้แฟนๆ รู้สึกได้เข้าถึงคนที่พวกเขาชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดแล้วก็ยังส่งผลดีต่อตัวอินฟลูเอนเซอร์เองที่ไม่จำเป็นต้องติดหนึบกับสมาร์ตโฟนเพื่อสร้างคอนเทนต์และเซอร์วิสแฟนๆ ตลอดทั้งวัน แถมยังสามารถสร้างรายได้ในระยะยาวได้ด้วย
ข้อเสียนั้นเราอาจจะยังไม่เห็นชัดมากในตอนนี้เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่และเพิ่งใช้งานในรูปแบบนี้ได้ไม่นานนัก
แต่ก็พอจะคาดการณ์กันได้ว่าความสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบคนในที่สุดก็อาจจะทำให้คนรู้สึกสับสนระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกออนไลน์
ฉันคิดว่าน่าจะคล้ายๆ กับเวลาที่เราฝันถึงใครสักคนหนึ่งแบบโรแมนติกโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ต่อให้ชีวิตจริงเราจะไม่ได้อินังขังขอบอะไรกับคนๆ นั้นสักเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ความรู้สึกวาบหวามนั้นจะตามติดตัวเรามาด้วยจากความฝัน และค่อยๆ จางหายไปเมื่อเราเริ่มทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ
แต่หากเราฝันย้ำๆ แบบนั้นทุกคืนก็อาจจะทำให้ความรู้สึกในโลกนอกความฝันเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยก็ได้
คารินบอกว่าตั้งแต่เปิดตัวแชตบ็อตมาเธอได้รับเสียงก่นด่าและคำข่มขู่จากคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่เรื่อยๆ
โดยพวกเขามองว่าการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาจะทำให้มนุษย์ไม่ต้องการมนุษย์ด้วยกันอีกต่อไปและจะเป็นจุดจบของมนุษยชาติในที่สุด
เธอก็ได้แต่หวังว่าความโกรธขึ้งนั้นจะค่อยๆ หายไปเมื่ออินฟลูเอนเซอร์คนอื่นเปิดตัว AI แบบเดียวกันนี้บ้างจนกลายเป็นเรื่องปกติ
เชื่อได้เลยว่านี่จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่นอน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022