E-DUANG : ภาพ “มวลชน” ลานคนเมือง กับ อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย

บรรยากาศแห่งการออกมาแสดงการขอบคุณประชาชนที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นเงาสะท้อนแห่งบรรยากาศทางการเมืองอันคุ้นเป็นอย่างยิ่ง

เด่นชัดยิ่งว่า ภาพจากที่เห็นในตอนเย็นของวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม มิได้เป็นการขอบคุณอย่างปรกติ

เพราะมิได้มีแต่เพียง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น หากแต่ยังมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หากแต่ยังมี นายรังสิมันต์ โรม อยู่เคียงเคียงข้าง

ยิ่งกว่านั้น ที่แวดล้อมอยู่บนรถกระจายเสียงของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อันเป็นบรรดา ส.ส.หน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับเลือกในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร

หากตรวจสอบเส้นทางการขับเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปบนถนนดินสอเพื่อตรงสู่ลานคนเมือง และก็ย้อน กลับมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยิ่งแจ่มชัด

แจ่มชัดด้วย”กลิ่นอาย”แห่งการกล่าวคำปราศรัย แจ่มชัด ด้วยสีสันของมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุมว่าเป็นกลิ่นอายแห่งปรากฎการณ์ก่อนการเลือกตั้ง

ไม่ว่าที่”สามย่านมิตรทาวน์”ไม่ว่าที่”สะพานหิน ภูเก็ต”

 

ยิ่งกว่านั้น หากนำเอาภาพจากสามย่านมิตรทาวน์ ภาพจากสะพานหิน ภูเก็ต ภาพจากลานสามกษัตริย์ เชียงใหม่ ย้อนหวนทวนอดีตยิ่งเป็นการตอกย้ำ

ตอกย้ำไปยังภาพแห่งการเคลื่อนไหวของ”เยาวชนปลดแอก”การเคลื่อนไหวของ”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”

ทั้งหมดคือบรรยากาศอันตรึงตราละลานใจจากการชุมนุม ณ แยกปทุมวัน ณ แยกราชประสงค์ ณ แยกเกษตรบางเขน ณ แยกลาดพร้าว ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

นั่นคือ ภาพทั้งหมดอันประมวลและดำรงอยู่ภายใต้ฉายาแห่งการเคลื่อนไหวอันอึกทึกครึกโครมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในรูปแห่ง”คณะราษฎร 2563”

เท่ากับสะท้อนให้เห็นความต่อเนื่องของพรรคก้าวไกลที่เติบใหญ่และพัฒนาจากรากฐานแห่งพรรคอนาคตใหม่ใสกระจ่าง

 

น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่าในบรรยากาศแห่งการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกลเลือก เอาการขอบคุณมาเป็นอาวุธ เป็นอาวุธบนฐานแห่งความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย

เป็นอาวุธบนฐานแห่งคะแนนเสียงกว่า 24 ล้านเสียง บนฐานแห่งจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ในมือ 309 จากจำนวนทั้งสิ้น 500 ในรัฐสภามาเป็นเครื่องต่อรองและกดดันในทางการเมือง

กดดันไปยังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กดดันไปยังที่ประชุมวุฒิสภา