แม้จะมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับในผลการเลือกตั้งอันเป็นเหมือนกระดานหกทำให้ชัยชนะของพรรคก้าวไกลดำเนินไป อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

กระนั้น หากจับแต่ละท่าทีของบรรดานักวิเคราะห์อันถือเป็น เกจิผู้เชี่ยวชาญในทางการเมืองก็ยังไม่วางใจ

ไม่วางใจว่าพรรคเพื่อไทยจะยินยอมพร้อมตามกับผลการเลือกตั้งที่ชัยชนะเป็นของพรรคก้าวไกลอย่างจริงใจ อันทำให้การร่วมมือกันในการจัดตั้งรัฐบาลจะราบรื่นไปตามความคาดหมาย

เนื่องจากองค์ประกอบ”ภายใน”ของพรรคเพื่อไทยยังมีบางส่วนลงทุนย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงที่จะอยู่ในสถานะแห่งแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เป็นความมั่นใจว่าหากพรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ว่ากระทรวงพลังงาน ย่อมอยู่ในความยึดครอง

เป็นความมั่นใจใน”มุ้ง”อันได้มาจากการเลือกตั้งในหลายพื้นที่อย่างเป็นกอบเป็นกำ และสามารถสร้างอำนาจต่อรองในทางการเมืองได้ในระดับที่แน่นอนหนึ่ง

ขณะที่อำนาจที่ดำรงอยู่ใน”ระบอบ”ก็ยังแข็งแกร่ง มั่นคง

 

อำนาจที่ดำรงอยู่ใน”ระบอบ”อันมีรากฐานมาจากการรัฐประหารอันเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2549 ประสานเข้ากับเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557

จุดเด่นและดำเนินไปในลักษณะเป็นตัวแทน คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ คือพรรคพลังประชารัฐและรวมถึงพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์

ความพยายามของพลังบางส่วนในพรรคเพื่อไทยหากประสานเข้ากับความปรารถนา”ไปต่อ”ของพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ย่อมก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว

พลันที่ผนวกเข้ากับความต้องการโดยพื้นฐานจากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ย่อมทำให้ ความต้องการที่กรุ่นอยู่กระพือโหมขึ้นมา

คำถามจึงอยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะคิดและตัดสินใจอย่างไร

 

แม้ความเชื่อมั่นของบรรดาเกจิผู้เชี่ยวชาญในทางการเมืองเช่นนี้ จะติดอยู่กับคราบไคลและความเคยชินเดิมๆในทางการเมือง อันดำรงอยู่ในลักษณะครอบงำในทางความคิด

กระนั้น พลังแฝงที่คุโชนอยู่ก็มิได้มอดดับอย่างง่ายดาย ขณะที่ภายในพรรคเพื่อไทยเองก็มีวาระซ่อนเร้นที่เป็นความ ต้องการจำเพาะเป็นของตนเอง

ความคิดเดิมๆ ความเคยชินเดิมๆในทางการเมืองเช่นนี้แหละที่อาจก่อให้เกิดการพลิกผันแปรเปลี่ยนเบี่ยงเบนได้