E-DUANG : การรุกคืบ ของ “เทคโนโลยี” ยึดครอง พื้นที่ ทางการเมือง

มีพัฒนาการปรากฏขึ้นอย่างชนิด”ก้าวกระโดด”ระหว่างการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ในเชิงเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2564

ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียง 4 ปีจะก่อให้เกิด”การเปลี่ยนแปลง”และส่งผลสะเทือนได้ใหญ่โตถึงเพียงนี้

แม้กระทั่งเมื่อมองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้กระทั่งเมื่อมองผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้กระทั่งเมื่อมองผ่าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ก็เด่นชัด

ไม่จำเป็นต้องพิจารณาและประเมินจาก นส.แพทองธาร ชิน วัตร ไม่จำเป็นต้องพิจารณาและประเมินจาก นายเศรษฐา ทวีวิน ไม่จำเป็นต้องพิจารณาและประเมินจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

รูปธรรมที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การออกเดินสายและทำตัวเป็น”นักการเมือง”มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ได้รับรู้ว่าการปราศรัยในทางการเมืองแตกต่างจากการให้โอวาทต่อบรรดา”ทหารเกณฑ์”อย่างไร

ในที่สุดก็ต้องยอมรับในบทบาทของ”เทคโนโลยี”ที่รุกเข้ามา

 

บทบาทอันทรงความหมายและทรงอิทธิพลเป็นอย่างสูง คือ บทบาทที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวล้วนอยู่ในความรับรู้ของสังคมอย่างยากที่จะปิดบังอำพรางได้

ไม่ว่าจะมองผ่านแต่ละจังหวะก้าวของการเดินสาย ไม่ว่าจะมองผ่านแต่ละการแสดงออกผ่านการปราศรัย

เมื่อพูดที่สงขลา คนทางเชียงใหม่ก็สามารถรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียง และที่แหลมคมเป็นอย่างมากก็คือปฏิกิริยาจากสาธารณะ

ทำให้เกิดความระมัดระวังเป็นอย่างสูงในการตัดสินใจเข้าร่วมบนเวทีดีเบต ประชันวิสัยทัศน์ และเมื่อมาถึงวันที่ 22 พฤษภา คมก็มีหลายคนประเมินว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีหรือไม่

หากต้องเผชิญหน้ากับคนอย่าง นส.แพททองธาร ชินวัตร หากต้องเผชิญหน้ากับคนอย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน

และหากต้องเผชิญหน้ากับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

 

นับแต่การเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ทุกพรรคการ เมือง ทุกนักการเมือง ล้วนรับรู้ถึงการรุกคืบเข้ามาของ”เทคโนโลยี”กระทั่งสามารถยึดครองเกือบทุกพื้นที่

การเมืองและการเลือกตั้งจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วการเหลื่อมซ้อนระหว่างการเลือกตั้งกับการปรากฎขึ้นของดาราเกิดขึ้นและดำรงอยู่ต่อหน้าต่อตา เพียงแต่ดาราคนนั้นเป็นใครและมาจากพรรคการเมืองใดเท่านั้น

และ”กระแส”จะถูกแปรเป็น”คะแนน”ได้จริงหรือไม่ เพียงใด