ได้-เสีย ทิ้ง ‘ไพ่’ โค้งสุดท้าย ‘ก.ค.’ ทักษิณกลับบ้าน

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อะไรที่ไม่เคยได้เห็น ก็จะได้เห็น

ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองในเครือข่ายกลุ่มอำนาจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า ต่างเร่งงัดทุกกลยุทธ์หมัดเด็ด เพื่อหวังช่วงชิงเข้าเส้นชัยร้อยเมตรสุดท้าย หวังก้าวขึ้นมา “ครองอำนาจนำ” ในทางการเมือง ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยแบบไทยๆ

เราได้เห็นไพ่ใบสุดท้ายจากพรรคการเมืองฝ่ายอำนาจเก่า ทิ้งไพ่ประกาศจัดการคนชังชาติ ปล่อยคลิปโปรโมตโน้มไปทางโจมตีทางการเมือง ขายความหวาดกลัวคนรุ่นใหม่ ทั้งคลิปข้าราชการเกษียณนั่งขอทาน คลิปลูกขอสิทธิโหวตเลือกอาหารในบ้านเพราะไม่ชอบที่แม่ทำ คลิปข้าศึกโจมตีชายแดน ไม่มีทหารสู้ เพราะยกเลิกเกณฑ์ทหาร

เรียกได้ว่า เป็นคลิปปลุกใจที่ดราม่ายิ่งกว่าละครน้ำเน่า ทั้งพุ่งเป้าการด้อยค่าไปที่พรรคๆ หนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม

 

ไพ่ใบสุดท้ายจากพรรคการเมืองแกนนำฝ่ายค้านก็มีมาเช่นกัน ก้าวไกลก็ปล่อยคลิปขายความหวัง ขายการทำงานเป็นทีม ทำคาราวานขบวนแห่ทั่วประเทศ ปลุกกระแสสีส้ม อย่างเพื่อไทยก็มีมาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสารคดีสั้นของแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ หรือการออกมาจับคู่กับเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ออกมาไลฟ์สด ตอบทุกคำถามร้อนๆ ทางการเมือง

แต่ไพ่ใบสุดท้ายของกองเชียร์เพื่อไทย ที่น่าสนใจที่สุด ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”

เช้าวันที่ 9 พฤษภาคม จู่ๆ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ทวีตข้อความประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน คาดว่าจะเป็นช่วงเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาได้แล้ว และยังอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยให้เหตุผลว่าตัดสินใจเอง “ด้วยความผูกพันกับครอบครัว แผ่นดินเกิด และเจ้านายของเรา”

“ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ” ทักษิณระบุ

อีกราว 2 ช.ม.ต่อมา นายทักษิณทวีตข้อความเพิ่มเติม โดยระบุว่า “ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักความผูกพันกับครอบครัว/แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”

ก่อนหน้านี้ ทักษิณเคยทวีตเมื่อ 1 พฤษภาคม. ระบุว่า “ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”

นอกจากนั้น ยังเคยสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเรื่องนี้มาแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนคดีความ หากกลับมาที่ประเทศ คาดว่าจะเหลือโทษจำคุกประมาณ 10 ปี จาก 3 คดีความที่ตัดสินไปแล้ว

 

มีการวิเคราะห์ตีความกันไปต่างๆ นานาจากคำสองคำที่ทักษิณเน้น คือคำว่า “ขออนุญาตกลับ” และ “เจ้านายของเรา” แต่โดยสรุป ทักษิณยืนยันจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย

ถามว่าการประกาศเดินทางกลับบ้านของทักษิณ เป็นความบังเอิญหรือไม่? ใครก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญ

ทวีตกลับบ้านมีนัยยะทางการเมืองอย่างชัดเจน เพราะเป็นการประกาศไม่กี่วันก่อนเลือกตั้ง แต่การประกาศจุดยืนดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบทั้งแง่บวกแง่ลบ เพราะมันคืออีก 1 ประเด็นหลักการเมืองไทยรอบทศวรรษที่ผ่านมา

คำถามสำคัญคือ ทำไมทักษิณจึงกล้าประกาศจุดยืนร้อนแรงดังกล่าวออกมาไม่กี่วันก่อนหย่อนบัตร คำตอบอย่างง่ายที่สุด เพราะทักษิณประเมินแล้วว่า คุ้มค่าสำหรับตัวเองมากกว่าการถูกวิจารณ์

ในสถานการณ์ที่กำลังสุกงอมขณะนี้ เป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่กระแสพรรคเพื่อไทยไม่พุ่งแรงอย่างที่คาด เสี่ยงจะเพลี่ยงพล้ำให้พรรคคู่แข่งฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะจากกระแสที่เกิดขึ้นช่วงเดือนเมษายน ต่อเนื่องต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ต้องย้ำว่าการเลือกตั้งรอบนี้สำคัญทางการเมืองต่ออนาคตของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเพื่อไทยหลุดจากวงจรอำนาจมาแล้วเกือบ 1 ทศวรรษ นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557 ต่างกับการรัฐประหารปี 2549 ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานเพื่อไทยก็กลับมามีอำนาจได้

ในเชิงโครงสร้างการเลือกตั้งครั้งนี้ คือสำคัญต่อการดำรงอยู่ของกลไกการเมือง เครือข่ายในพรรคอย่างมากที่สุด

 

ความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ต่อทักษิณ ชินวัตร ก็นับว่ามีความสำคัญยิ่ง ปัจจุบันทักษิณอายุ 73 ปี ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมานานนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีโอกาสกลับมาประเทศไทยเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ

แม้ทักษิณจะยังเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะในการเป็นผู้นำความคิด การสื่อสารกับประชาชนคนไทยอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า อดีตนายกฯ ในวัยนี้อ่อนล้าเต็มที ปีนี้จึงเป็นปีที่โอกาสเปิดมากที่สุดที่ทักษิณจะมีโอกาสได้กลับมาเหยียบประเทศไทยอีกครั้ง

กลุ่มที่เคยต่อต้านแม้จะมีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าต่าง “อ่อน” พลังลงมาก การกลับมาของทักษิณถ้าจะทำให้ถูกต่อต้านน้อยลง ก็ต้องพยายามลดทอนข้ออ้างความชอบธรรมของฝ่ายต้าน นั่นคือการที่ทักษิณประกาศว่าจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การยืนยันไม่ให้พรรคเพื่อไทยช่วยเหลือหรือนิรโทษกรรมหากชนะเลือกตั้ง

สำหรับฝ่ายหนุนทักษิณ ประเด็นเรื่องทักษิณกลับบ้าน ก็คือประเด็นหลักสำคัญเช่นกัน ทักษิณเคยพูดและขับเน้นเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะช่วงการเคลื่อนไหวก่อนปี 2553

การยกเรื่องกลับบ้านของอดีตนายกฯ ในปี 2566 จึงเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่จะปลุกความหวังและความฝันของผู้ที่ยังสนับสนุน ผู้จดจำผลงานของรัฐบาลไทยรักไทยในอดีต โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง มาเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงในศึกเลือกตั้ง 2566 นั่นเอง

 

แต่ก็ต้องยอมรับว่าบริบทการเมืองในปัจจุบัน เปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างมาก ไม่ใช่แค่กลุ่มต้านทักษิณจะไม่เหมือนเดิม ขบวนการเสื้อแดงเองก็ไม่เหมือนเดิมเช่นกัน

ข้อเรียกร้อง ความต้องการทางการเมือง การตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนไปไกลกว่าข้อเรียกร้องของนักการเมืองเพื่อไทยมาก นั่นจึงเป็นที่มาของการเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ที่ขายการพยายามเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างการเมือง ต้นตอปัญหาการเมืองให้ดูมากกว่าและลึกกว่าเพื่อไทย

4 ปีที่ผ่านมา ก้าวไกลพิสูจน์บทบาทในสภาฝั่งฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ภาพของการตรงไปตรงมา ข้อเสนอทางการเมืองมุ่งไปที่การต่อสู้กับโครงข่ายอำนาจทางการเมืองแบบเก่า ได้อย่างชัดเจนกว่าพรรคเพื่อไทย

โดยเฉพาะช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปัญหาความไม่ยอมประกาศจุดยืนทางการเมืองการร่วมรัฐบาลชัดๆ ของเพื่อไทยเป็นเวลานาน ไม่พูดถึงจุดยืนต่อคนที่เคยร่วมรัฐบาลประยุทธ์ ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจก็ยิ่งมากขึ้น มาประกาศช่วงท้ายๆ ก็ไม่ทันแล้ว

ความนิยมของพรรคก้าวไกล จึงตีตื้นขึ้นมาในโค้งสุดท้ายเบียดเพื่อไทยตรงๆ ก่อนพลิกแซงในหลายพื้นที่ หลายการสำรวจ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเพื่อไทยไม่ปรับตัว แกนนำเพื่อไทย ทีมนโยบาย การสื่อสารของเพื่อไทยก็พยายามปรับตัวเอง แต่ต้องยอมรับ ยังไม่พอ ไม่ทันต่อความหลากหลาย ไม่ทันต่อความต้องการทางการเมืองของประชาชนจำนวนไม่น้อย

เมื่อเป็นเช่นนั้น ไพ่ใบสุดท้ายเรื่องการกลับบ้าน จึงถูกโยนเข้ามาในสนามเลือกตั้งไม่กี่วันก่อนการกาบัตร เพื่อใช้ความนิยมต่อตัวทักษิณ กระตุ้นเรียกคืน หรือแม้แต่สกัดกั้นเลือดที่กำลังไหลให้หยุดไหล แม้ไพ่ใบดังกล่าวจะร้อนแรง และที่จริงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหรือเงื่อนไขให้ฝ่ายเผด็จการทหารเข้ามาแทรกแซงการเมือง ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน

 

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า การเกิดขึ้นของก้าวไกล แม้จะไปไกลกว่าข้อเสนอทางการเมืองของเพื่อไทยและทักษิณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าก้าวไกลเป็นปฏิปักษ์กับทักษิณ

ในทางกลับกัน ก้าวไกลยืนอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายที่กระทำกับทักษิณด้วยซ้ำ เห็นว่าทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมที่เกิดจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร

มากกว่านั้น ต้องยอมรับว่าคนจำนวนไม่น้อยแม้ไม่ได้ชื่นชอบทักษิณ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ทักษิณถูกนิติสงครามกระทำในรอบเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เพราะมองว่ากระบวนการยุติธรรมดังกล่าวมันผิดหลักสากลที่ควรจะเป็น

นั่นจึงทำให้คนรุ่นใหม่ที่เข้ามามีสิทธิเลือกตั้งรอบสิบปีที่ผ่านมา ใกล้ชิดกับข้อเสนอของก้าวไกล และข้อเสนอแบบคณะนิติราษฎร์ ที่นำโดย ปิยบุตร แสงกนกกุล มากกว่า

ส่วนผู้ที่เคยต่อต้านรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นผู้ที่ผิดหวังกับการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกือบ 9 ปีที่ผ่านมา แตกเป็นสองส่วน

ส่วนแรก มองว่าคงยากที่จะกลับไปเลือกเพื่อไทย การเลือกพรรคร่วมฝ่ายค้านที่กระแสดีกว่าจึงเป็นทางเลือกของคนกลุ่มนี้

กับอีกส่วนที่เห็นว่าพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ อาจไม่ใช่เป้าหมาย การประกาศกลับบ้านของทักษิณที่พูดเงื่อนไขชัดเจนว่าจะกลับแบบไม่ผิดกฏหมาย เคารพนิติรัฐ ไม่ขอนิรโทษกรรม พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงเป็นการพุ่งเป้ามาที่กลุ่มนี้เช่นกัน ในโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง

“การขออนุญาตเชิงยุทธศาสตร์” สไตล์ทักษิณจะเป็นอย่างไร แลนด์สไลด์จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่

14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นตัวตอบคำถามสำคัญว่า ไพ่ใบนี้ของอดีตนายกฯ ได้หรือเสีย หรือจะซ้ำรอยเดิม