‘ทักษิณ’ คืนแผ่นดินแม่

เมนูข้อมูล | นายดาต้า

 

‘ทักษิณ’ คืนแผ่นดินแม่

 

“ทักษิณ ชินวัตร” ขออนุญาตกลับประเทศอีกครั้ง คราวนี้มีกำหนดชัดเจนว่าจะกลับมาเลี้ยงหลานในเดือนกรกฎาคม ด้วยเหตุผลว่า จากประเทศนี้ไป 17 ปี ตอนนี้แก่แล้ว

คำประกาศถูกตีความไปมากมาย นักวิเคราะห์การเมืองแทบทุกคนสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่าการประกาศกลับบ้านของ “ทักษิณ” เป็นการสร้างกระแสทางการเมือง

อาจจะเป็นเพราะพร้อมๆ กับการขออนุญาตกลับ อีกทางหนึ่งมีข่าวปล่อยจาก “พรรคเพื่อไทย” ว่าได้ทาบทาม “มือดีทางเศรษฐกิจ” ระดับนายแบงก์ใหญ่มาทำหน้าที่ “รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ” หรือ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ไว้แล้ว ในบางข่าวขยายความถึงการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีว่ากระทรวงไหนจะให้ใครคร่าวๆ เช่นกัน

เมื่อนำมาประเมินร่วมกับข่าว “ทักษิณกลับไทย” บทสรุปของการวิเคราะห์จึงทุบโต๊ะไปที่ “เพื่อไทยต้องการสื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่”

เป็น “ความมั่นใจที่ซับซ้อนกว่าแค่ชัยชนะในการเลือกตั้ง”

 

การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ กิจกรรมหนึ่งที่ทำกันอย่างคึกคัก และเอาจริงเอาจังมากคือ การประเมินผลการเลือกตั้ง

และชัดเจนแล้วทั้งจากการประเมินของหน่วยงานราชการและเอกชนออกมาทางเดียวกันว่า “เพื่อไทย” จะเป็นพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุด

แม้ก่อนหน้านั้นมีความเชื่อว่า “การเลือกตั้ง” เป็นแค่ส่วนเดียวของ “เกมอำนาจ” ทั้งหมด และยังกังขาว่าชนะการเลือกตั้งแล้ว จะชนะ “เกมอำนาจ” หมายถึงจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้หรือไม่

ความหมายก็คือ กลไกของเกมอำนาจที่ดีไซน์ไว้และพร้อมรับบทสกัดกั้นอย่างไม่แคร์นรกสวรรค์ จะยอมเปิดทางสะดวกให้เพื่อไทยที่แม้จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่

นั่นเป็นความสงสัยก่อนหน้านั้น

แต่ถึงวันนี้ คล้ายกับมีคำตอบแล้ว

ทุกผลประเมินออกมาทางเดียวกัน

นั่นคือ ประชาชนเลือกเทให้ “พรรคการเมืองต้านการสืบทอดอำนาจ” แบบทิ้งขาดไม่เห็นฝุ่น

พรรคการเมืองฝ่าย “อำนาจนิยม” ไม่ว่าจะลงทุนมากมาย และมีกลไกสร้างแต้มต่อให้มากแค่ไหนก็ไม่เห็นทางที่จะโงหัวขึ้นมาเห็นแสงแห่งชัยชนะ

แม้ “กลไกที่ดีไซน์ไว้” ยังมีอำนาจที่จะแสดงบทบาทเกื้อกูล “การสืบทอดอำนาจ” แต่เมื่อ “อำนาจประชาชน” ชัดเจน และจริงจังถึงเพียงนี้ การใช้อำนาจเพื่อฝืนในทันทีย่อมเสี่ยงเกินไป และไม่น่าเล่น

ในแวดวงเครือข่ายใกล้ชิดขบวนการสืบทอดอำนาจ บอกกล่าวชี้ทางให้ฟังแล้วว่า “จะต้องยอมให้อำนาจประชาชน” แต่ยอมแค่ไหนต้องดูจาก “คะแนนของแต่ละพรรค”

น่าจะเป็นในความหมายที่ว่า หากคะแนนของ “พรรคสืบทอดอำนาจ” โงหัวไม่ขึ้น และ “เพื่อไทย” ได้คะแนนมากสุด ขณะที่คะแนนของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และ “ก้าวไกล” ท้าทายการดำรงอยู่ของ “ขบวนการสืบทอดอำนาจ” อย่างยิ่ง

การอาศัย “เพื่อไทย” หลบภัย พักรบ เพื่อวางแผนใหม่ จึงเป็นการแก้เกมที่น่าจะเข้าท่าที่สุด

แต่นั่นหมายถึง ต้องยอมบางอย่าง

ยอมในเรื่องที่ “เพื่อไทย” เห็นว่า “คุ้มค่ากับการแลก”