“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคคนที่ 8 “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” | จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ปิดท้ายวาระเลือกตั้ง 2566 กับ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กับประสบการณ์การเมืองจากการเป็น ส.ส.มา 11 สมัย เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่อายุ 36 ปี มาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 7 กระทรวง ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย มีบทบาทโดดเด่นในสภา

และเป็นคนที่นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคคนที่ 5 อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคคนที่ 6 ประสานเสียงยืนยันคุณภาพว่ามีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริตตรงตามอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์

เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แม้จะดูไม่หวือหวาแต่ก็มีความหนักแน่นและมั่นคง

1.ยุทธศาสตร์ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

จุรินทร์ชูหลักคิดของประชาธิปัตย์ในการพาประเทศไทยไปข้างหน้า ด้วยกรอบยุทธศาสตร์ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

“สร้างเงิน” คือ การสร้างเงินให้คนไทย และสร้างเงินให้ประเทศ ด้วยการประกันรายได้คนไทยและประกันรายได้ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการประกันรายได้จากการส่งออก หรือการท่องเที่ยว

“สร้างคน” คือ เรื่องการศึกษาและการสาธารณสุข เปรียบเสมือน DNA ของประชาธิปัตย์ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และจะขับเคลื่อนต่อไป

และ “สร้างชาติ” ด้วยแนวทาง 3 ประชาธิปไตย คือ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปไตยสุจริต และประชาธิปไตยท้องอิ่ม ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลักจะประกอบด้วยชุดนโยบายที่ผ่านกระบวนการคิดมาจนตกผลึกว่าสามารถแก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศในทุกภาคส่วนให้มีการความยั่งยืน

ที่สำคัญ ทุกนโยบายสามารถทำได้จริง ไม่ขายฝัน และไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ

 

2.เป็นสถาบันทางการเมือง ทำเพื่อคนไทยมาตลอดเวลา 77 ปี

77 ปีเต็มย่างเข้าสู่ปีที่ 78 ได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ประชาธิปัตย์ คือ สถาบันทางการเมือง ที่เป็นหลักให้ประเทศชาติ และทำเพื่อคนไทยมาโดยตลอด

ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เคารพในกฎหมายบ้านเมือง

มีวัฒนธรรมและแบบแผนปฏิบัติของพรรค ที่สมาชิกทุกคนมีสิทธิ มีเสียงอย่างเสมอภาคกัน

ซึ่งตอกย้ำว่าพรรคเป็นของทุกคน ไม่มีนายทุน หรือใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ

และเน้นการออกแบบนโยบายที่คำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย ไม่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ

3.ความพร้อม 3 ด้าน นำไปสู่ชัยชนะ

จุรินทร์กล่าวเสริมว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมทุกด้านทั้งผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ที่เต็มไปด้วยผู้ที่มีศักยภาพในทุกด้าน

โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง

ผนวกกับความพร้อมของนโยบายภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้างคน-สร้างเงิน-สร้างชาติ

และที่สำคัญคือความพร้อมของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีชื่อจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ “นักบริหารรัฐกิจตัวจริง” ที่จุรินทร์ย้ำเสมอว่ามีหน้าที่สร้างกำไรให้ประเทศ สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง เพราะการบริหารบ้านเมืองไม่ใช่การบริหารธุรกิจ

วันนี้จึงพร้อมแล้วที่จะนำพาประเทศไทยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าหากได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชน

กำลังสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งคราวนี้แบ่งออกเป็น ทัพที่ 1.ทัพของหัวหน้าพรรค 2.ทัพของเลขาธิการพรรค และ 3.ทัพของอดีตหัวหน้าพรรค

เสริมทัพด้วยทีมเศรษฐกิจของพรรค และรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่แต่ละภาค ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการบริหารจัดการร่วมกับ นายนิพนธ์ บุญญามณี ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค

พร้อมด้วยผู้สมัครบัญชีรายชื่อในการลงไปรณรงค์หาเสียงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

 

4. ขับเคลื่อนแนวทาง “4 ทำ 3 ไม่” ด้วย “ประชาธิปไตยไม่โกง”

จุรินทร์ย้ำจุดยืนชัดเจนของพรรคภายใต้แนวทาง “4 ทำ 3 ไม่” “4 ทำ” คือ

1. จะทำประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้เข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป

2. ทำประชาธิปไตยสุจริต

3. ทำประชาธิปไตยท้องอิ่ม ตามแนวทาง “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

และ 4. จะขจัดยาเสพติดให้หมดไปด้วยแนวทางตาต่อตา ฟันต่อฟัน สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เอากัญชาเสรี

ส่วน “3 ไม่” คือ

1. ไม่เลิกมาตรา 112

2. ไม่เอายาเสพติด

และ 3. ไม่เอาทุจริตคอร์รัปชั่น

ทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ด้วยวิถีประชาธิปไตยไม่โกง ที่ถือเป็นอุดมการณ์หลักของพรรคประชาธิปัตย์

 

5.มั่นใจได้ที่นั่งเพิ่ม

จุรินทร์เชื่อมั่นว่าในภาพรวมยังมั่นใจจะได้ ส.ส.มากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร

พรรคมีการประเมินกันตลอดเวลา ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค มั่นใจว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินขึ้นและจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากขึ้น

โดยเฉพาะภาคใต้ต้องได้มากกว่าเดิม

ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ 22 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสูงที่จะได้ 35-40 ที่นั่ง

รวมถึงจำนวนเก้าอี้เพิ่มในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศที่มีเสียงตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

6.ขอโอกาสจากคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เวลา “กลับบ้านเรา”

จุรินทร์ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มั่นใจว่าจะสามารถจับมือกันขับเคลื่อนพรรคไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

“ขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ให้มาร่วมกันสนับสนุนวิถีประชาธิปไตยไม่โกงของประชาชน ขอเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชน ที่เป็นสมาชิก ปชป.ทุกคน คราวที่แล้วยามวิกฤตครั้งหนึ่งของ ปชป. แต่ยังไม่เคยทอดทิ้ง ยังช่วยกัน ขอให้ยืนหยัดเลือก ปชป.ต่อไปอย่าเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญพี่น้องชาว ปชป.ที่เคยทิ้งเราไป ผมขอวิงวอนให้กลับมา กลับบ้านเรา กลับมาจับมือกับพวกเรา ชาว ปชป.ทุกคน เพื่อพาสถาบันทางการเมือง ที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ สถาบันนี้ที่ชื่อประชาธิปัตย์ เดินไปข้างหน้าด้วยกัน ไม่ใช่เพื่อเรา ไม่ใช่เพื่อประชาธิปัตย์ แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป”