ครั้งหนึ่ง

พิชัย แก้ววิชิต

ครั้งหนึ่ง

 

ครั้งหนึ่งของคืนนั้น ผมสงสัยในสิ่งที่ไม่ตรงกับสาขาวิชาที่เคยลงทะเบียนเรียน

ในระดับไอคิวที่ต่ำเตี้ยกับการถามตอบตัวเอง เกี่ยวกับความสูงสุดของขอบจักรวาลที่อยู่ไกลออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ บนพื้นผิวของรองเท้าแตะตราดาวเทียมที่ยืมเพื่อนมา

ผมแหงนหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า ในค่ำคืนที่ไม่เห็นแสงดาว เพราะมันแพรวพราวมากด้วยแสงไฟ พร้อมกับการตั้งคำถาม : ถ้าพุ่งทะยานออกไปสู่ฟากฟ้าจะไปสิ้นสุด ณ จุดใดของจักรวาล

เพียงครู่คิดกับคำตอบที่ชี้นำให้ผมก้มหน้ามองต่ำ : สูงแค่ไหนก็ก้มมองลงที่ใต้ตีนมึงดู (มึงเป็นคำที่ใช้แสดงความเป็นกันเอง ที่ผมมักใช้เรียกตัวเองอยู่เป็นประจำ กับผู้อื่นมิกล้าใช้ด้วยความเคารพและความเกรงใจ)

เป็นคำตอบเดียวและคำตอบสุดท้าย ที่ได้ให้ไว้กับตัวเอง

แต่หากถ้าคำตอบของความเป็นจักรวาล มาจากนักวิทยาศาสตร์สายตรง หรือนักดาราศาสตร์ คำตอบจะดีกว่านี้อยู่มากโข

แต่อย่างน้อยคำตอบในแบบบ้านๆ งูๆ ปลาๆ ก็บอกกับตัวเองได้บ้างว่าจากสิ่งที่สงสัยอยู่ ทำให้ได้รู้ว่าไม่เพียงผมจะยืนอยู่หน้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันตราดาว

ความจริงอีกหนึ่งอย่าง ผมยังยืนอยู่บนดาวเคราะห์ที่ลอยเท้งเต้งท่ามกลางจักรวาล ที่ยังหาทิศทางไม่เจอ

 

จะว่าไปแล้วผมเองไม่กล้าที่ชวนคุยเกี่ยวกับสุดขอบจักรวาลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะมันเป็นเรื่องที่ผมเองก็ยังรู้เข้าใจมาน้อยมากๆ

แต่ด้วยเพราะครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์เมื่อครั้งหนึ่ง ด้วยความขี้สงสัยและได้ถามตัวเองในเรื่องไกลตัว ที่ลอยออกจากฟากฟ้าไปไกล ห่างจากซอยแถวบ้านไปหลายต่อหลายล้านปีแสง

หากแต่ครั้งนี้ความสงสัยใคร่รู้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการถามตอบตัวเอง กับสิ่งที่ยากแท้หยั่งถึง ของสิ่งที่เรียกว่าการไว้วางใจ เรื่องราวความตื้นลึกหนาบาง ความซับซ้อนของหัวใจผู้คนที่ไม่แพ้กลไกแห่งจักรวาล การค้นหาเพื่อค้นพบสุดขอบจักรวาลที่ว่ายากแล้ว ขอบเขตของการไว้เนื้อเชื่อใจก็คงยากแท้ที่จะหยั่งถึงขอบเขตไม่แพ้กัน

ความไว้เนื้อเชื่อใจ เมื่อใครคนหนึ่งไว้ใจใครอีกคน เป็นสิ่งที่ดีที่งาม

แต่ความเป็นจริงอีกด้าน กลับอยู่กันคนละข้างขั้ว ความไม่ดีไม่งาม เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ภายใต้หัวใจอันลวงหลอกได้กลืนกินทุกสิ่งอย่าง ราวกับหลุมดำที่เกิดขึ้นในหัวใจอันเคว้งคว้างว่างเปล่า มืดมิด ไร้แสงดาวแห่งความปรานี

หัวใจผู้คนกับขอบเขตที่ยังหาไม่เห็น มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ความไว้วางใจต้องกลายมาป็นเรื่องพิษร้าย ภัยสังคมที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน กับความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดขึ้นของความไว้วางใจ หัวใจของผู้คนกับขอบเขตที่ยังหาไม่เห็น มันเป็นเรื่องไม่สนุกนึกที่จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดระแวง การคบค้าสมาคมกับใครสักคนเป็นการเสี่ยงดวงจริงหรือ?

ตอบยากนะครับ กับคำถามวัดใจคน

ครั้งหนึ่งของคืนนั้น ผมสงสัยในสิ่งที่ไม่ตรงกับสาขาวิชาที่เคยลงทะเบียนเรียน ในระดับไอคิวที่ต่ำเตี้ย กับการถามตอบตัวเอง เกี่ยวกับความสูงสุดของขอบจักรวาลที่อยู่ไกลออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ บนพื้นผิวของรองเท้าแตะตราดาวเทียมที่ยืมเพื่อนมา / เทคนิค : F.6.3 1/125 ISO.500 / สถานที่ : ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ

คําตอบของคนขี้สงสัย คงต้องสำรวจตรวจสอบความตื้นลึกหนาบางใจของตัวเอง ก่อนที่จะสำรวจใจของใครอื่น ว่ามีดีในหัวใจหรือไม่อย่างไร และแม้ว่าจะไม่อยากเป็นเทวดา หรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ก็คงต้องตามสะดวก เพราะหาใช่เหตุผิดพลาดจากหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน แต่ก็อย่าละทิ้งความเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อนที่ทำมาหากิน เป็นหนี้เป็นสิน ลำบากตรากตรำ ร่วมสุขร่วมทุกข์ ที่จะต่างกันสักกี่มากน้อยก็ว่ากันไปตามฐานะ

ท้ายที่สุด ไม่เป็นไรแล้วกับสุดขอบของจักรวาล เพราะเรารู้แล้วว่า เราอยู่บนโลกที่ลอยคว้างใบเดียวกัน และรักกันได้อย่างไร้ขอบเขตอยู่ด้วยความไว้วางใจของกันและกัน

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต