กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่กระทบชื่อเสียงกองทัพอย่างรุนแรง สำหรับกรณีที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาเปิดโปงว่ามีเพศสัมพันธ์กับบิ๊กทหารยศนายพลโท

แต่แทนที่จะเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่เต็มใจ กลับกลายเป็นการบังคับขืนใจ ใช้ความรุนแรงซาดิสม์พิสดาร จนบาดเจ็บรุนแรง

แถมยังมีการชักชวนให้เสพยาเสพติด ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน

ซึ่งแน่นอนว่าความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ไม่ใช่เรื่องผิด เช่นเดียวกับรสนิยมทางเพศแบบซาดิสต์ ก็ไม่ใช่ความเลวร้ายหากทั้งคู่เห็นพ้องต้องกัน

เมื่อไม่เป็นไปอย่างนั้นจึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถาม และเรียกร้องความเป็นธรรมจากผู้เสียหาย

แม้กองทัพบกจะออกมาชี้แจงอย่างรวดเร็ว ยอมรับว่าเป็นกำลังพลของกองทัพจริง และเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ยศพลโท พร้อมตั้งกรรมการสอบว่าหากผิดจริงก็พร้อมลงโทษทางวินัย

แต่ก็ยังยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว โดยไม่ได้พาดพิงถึงประเด็นยาเสพติด

จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคลี่คลายข้อเท็จจริงให้กระจ่าง ทั้งจากกองทัพ และจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับทำคดีไปแล้ว

ไม่ให้เกิดข้อครหาว่ากฎหมายมีข้อยกเว้นในการบังคับใช้!!!

 

หนุ่มร้องพลโทเซ็กซ์ซาดิสต์

เรื่องอื้อฉาวครั้งนี้เป็นที่รับรู้เมื่อวันที่ 23 เมษายน เมื่อนายนัท (นามสมมุติ) เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และต่อมาได้แจ้งความที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา ระบุว่า ถูกนายทหารยศพลโทชักชวนไปมีเพศสัมพันธ์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา จ.สงขลา แต่ขณะร่วมเพศ กลับถูกทุบตี จนเป็นบาดแผลเขียวช้ำทั่วร่างกาย แถมทวารหนักยังบาดเจ็บจนเลือดไหลไม่หยุด จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม

โดยนายนัทเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่ารู้จักนายพลคนดังกล่าว เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน โดยรู้จักผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ในกลุ่มชายรักชาย ตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นนายพลด้วยซ้ำ ต่อมาคุยผ่านแชตส่วนตัว แล้วนัดเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน

เมื่อไปถึงที่โรงแรม ก็พูดคุยกันตามปกติ แล้วก็เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน แรกๆ ก็คุยกันปกติ แต่จากนั้นก็ชักชวนตนเสพสารเสพติด โดยฉีดยาเสพติดเข้าเส้นเลือด และมีเพศสัมพันธ์กัน แต่ตนปฏิเสธว่าไม่เสพยาเสพติด

จากนั้นนายพลก็นำอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยมาใช้กับตนแบบซาดิสต์ เฆี่ยนตี กัดกระชากไปทั่วร่างกาย จนบาดเจ็บไปหมด ตอนนั้นรู้สึกตกใจและกลัว ที่จู่ๆ นายพลนิสัยเปลี่ยนเป็นคนละคน จึงพยายามอดทนให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้าน ซึ่งหลังจากเสร็จกิจ ตนไปสำรวจตัวเองในห้องน้ำก็พบว่ามีเลือดไหลออกจากทวารหนักด้วย

ไม่เพียงแค่นั้น ยังพบว่ามีร่องรอยเขียวช้ำไปทั่วร่างกาย จึงพูดคุยกันขอให้นายพลรับผิดชอบเยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนไม่ได้มีนิสัยชอบการร่วมเพศแบบซาดิสต์ แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จนมีปากเสียงกันในห้องพัก ซึ่งนายพลก็ขู่ว่าหากเอารูปไปปล่อย หรือให้สำนักข่าว ก็จะฟ้องดำเนินคดีกับตน แล้วควักเงิน 2 พันบาทโยนมาให้ บอก “เอาไป 2 พัน พี่ให้แค่นี้แหละ จบๆ ไปซะ”

“ผมไม่ได้อยากได้เงิน รู้สึกว่าไม่น่ามาเลย โดนทุบตี ทำเหมือนว่าจ่ายเงิน 2 พันแล้วจะตีใครก็ได้ อย่างนี้มันไม่โอเค หลังเกิดเหตุพยายามติดต่อนายพล พิมพ์ข้อความไป เขาก็อ่านแต่ไม่ตอบกลับ จึงต้องขอพึ่งสื่อเพื่อให้ได้รับความยุติธรรม กลัวเพราะว่าเขามีอำนาจ จะใช้เงินแค่พัน 2 พันซื้อใครมาทุบตีได้”

และไม่เพียงร้องเรียนต่อสื่อมวลชน นายนัทยังเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนจะเอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกาย หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ระบุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที!!!

ตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร ผบ.ตร. ระบุว่า สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายเตรียมเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ โดยกำชับให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า มีการใช้ความรุนแรงทางเพศตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการใช้สารเสพติด

ส่วนที่มองว่าระยะนานจะทำให้สารเสพติดในร่างกายเจือจาง และมีผลทำให้คดีถูกบิดเบือนได้นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนให้กระจ่างชัด แต่ด้านวินัยทราบว่าทางต้นสังกัดได้ดำเนินการแล้ว

“ยืนยันว่า ไม่ล่าช้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น”

ด้าน พ.ต.ท.สายชล เพชรสุวรรณ รอง ผกก.สภ.สะเดา ชุดสืบสวน สภ.สะเดา และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 9 นำตัวนายนัทผู้เสียหายพร้อมทนาย ไปชี้จุดในห้องพักโรงแรมที่เกิดเหตุซึ่งตั้งอยู่ซอย MBI1 ชั้น 6 ห้อง 618 และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่อาจจะหลงเหลืออยู่ภายในห้องพักเพื่อดำเนินการทางคดี

เสร็จจากการชี้จุดเกิดเหตุ ทนายความของนายนัทระบุว่า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้ว แม้จะมีการทำความสะอาดห้องไปแล้วบางส่วน แต่ยังมีร่องรอยหลงเหลืออยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายนัท พร้อมนำหลักฐานผลตรวจร่างกายจากแพทย์ เก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน

พร้อมแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา แต่ในส่วนของข้อหาอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอผลตรวจ โดยทำหนังสือเรียกทหารยศพลโท มาสอบปากคำ รวมทั้งการตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดด้วย

เป็นคดีความที่สังคมจับตามอง

 

ทบ.ชี้เรื่องส่วนตัว-ปัดตอบปมเสพยา

ด้านความเคลื่อนไหวของกองทัพบก พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. ระบุกรณีชายหนุ่มใน จ.สงขลา ระบุว่า เป็นผู้เสียหายและได้รับบาดเจ็บจากการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลหนึ่งที่เป็นทหาร โดยเรียกร้องให้มีการเยียวยารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น กรณีดังกล่าวแม้เป็นเหตุการณ์ส่วนบุคคล แต่ในฐานะหน่วยงานที่ถูกอ้างถึง กองทัพบกเข้าดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นโดยทันที

พบว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาเป็นทหารจริง ในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในระดับกองทัพบก และมีคำสั่งให้มาช่วยปฏิบัติราชการในส่วนกลางแล้ว

หากปรากฏว่ามีการกระทำผิดจริงจะพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป

ส่วนที่มีการกล่าวหาเรื่องการทำร้ายร่างกายและผู้เสียหายจะดำเนินคดีทางอาญานั้น ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวนทางคดี ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องนำพยานหลักฐานไปแก้ต่างตามกระบวนการยุติธรรม

“ขอเรียนว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการหรือนโยบายขององค์กร ยืนยันให้ทุกฝ่ายดำเนินการในทุกเรื่องภายใต้ข้อเท็จจริง และเป็นไปตามกฎหมายเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป” รองโฆษก ทบ.กล่าว

ต่อมา พล.ต.หญิงศิริจันทร์ กล่าวถึงกรณีที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับคดียาเสพติดของพลโทคนดังกล่าวว่า ยังจะต้องรอให้คณะกรรมการสอบสวนที่กองทัพบก ทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ทั้งประเด็นความเกี่ยวข้องกับสารเสพติด และประเด็นอื่นๆ

ยืนยันว่า ข้อมูลต่างๆ นั้น เป็นไปตามที่กองทัพบกได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ และให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายตามส่วนที่ไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการ พร้อมปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่ากำหนดกรอบระยะเวลาการสอบสวนว่าจะต้องใช้ระยะเวลากี่วัน และย้ำว่ากรณีดังกล่าว เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย หรือองค์กร

เป็นคำยืนยันจากกองทัพบกต้นสังกัด

ส่วนจะเพียงพอต่อคำถามและความคาดหวังของประชาชนหรือไม่

คงต้องรอบทสรุปของคดีว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่เรื่องรสนิยมทางเพศ แต่เป็นประเด็นเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย และเรื่องของยาเสพติด ที่พัวพันกับนายทหารระดับสูง

ซึ่งก็หวังว่าจะชัดเจนโดยเร็ว!!!

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022