[X]Clusive ‘สุดารัตน์’ อยากบอกอะไร ‘ทักษิณ’ ซีเนริโอหลังเลือกตั้ง ’66 จะร่วมมือกับใครได้บ้าง?

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดใจกับรายการ X Clusive ถึงการเป็นนักการเมืองของตนเอง ว่าคำนึงที่ถูกคุณพ่อ (นายสมพล เกยุราพันธุ์) ที่พูดกรอกใส่หัวอยู่ทุกวันคือ “นักการเมืองจำเอาไว้คือขี้ข้าของประชาชน ไม่ใช่เจ้านาย เพราะฉะนั้น ต้องทำงานให้หนัก ให้สมกับที่เราไปขอคะแนน ไปยกมือไหว้เขา อย่าทำให้เขาผิดหวัง ต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ถือประชาชนเป็นนายตลอดเวลา”

ทำให้สโลแกนประจำตัวเราคือ “ทำงานจริงจัง ฟังเสียงประชาชน” ตั้งแต่ตอนอายุ 30

ส่วนถ้าเป็นเรื่องชีวิต พ่อจะโหดกับเราเนื่องจากเป็นลูกสาวคนเดียว แล้วตอนเด็กๆ จะป่วยบ่อย แม่ก็จะเลี้ยงเราแบบคุณหนู อะไรก็ทำไม่เป็น แล้วด้วยความที่พ่อแม่ทำธุรกิจไปต่างจังหวัดบ่อยเราก็จะมีพี่เลี้ยง พอหลังจากนั้นช่วงอายุ 11-12 ก็โดนพ่อเลี้ยงโหดเลย พอปิดเทอมก็ต้องไปอยู่ตามบ้านเพื่อนพ่อเขาขายแก๊สก็ต้องเป็นเด็กส่งแก๊ส ทำโรงแรมก็ต้องเป็นเมด

ตอนนั้นคิดว่าพ่อไม่รัก แต่วันนี้ขอบคุณพ่อ แล้วพูดถึงพ่อสอนบ่อยๆ ว่าในการดำรงชีวิต “เป็นผู้หญิงต้องอ่อนนอกและแข็งใน”

พ่อสอนโหดทุกอย่าง เช่น ไปสอนขับรถอยู่ต่างจังหวัด อยู่ที่อุดรฯ ตอนกลางคืน เช้ามาก็ให้ขับไปหนองคายเลย สมัยนั้นรถน้อยก็สบาย ตกเย็นสั่งให้ขับไปขอนแก่นซึ่งมันเป็นตอนกลางคืนก็ไม่กล้าขับก็ร้องไห้ พ่อก็ดุให้เราหยุดร้องไห้ หรือตอนที่เราเรียนเซนโยฯ ก็มีแต่เด็กผู้หญิง ช่วงจะเข้ามหาวิทยาลัยช่วงสุดสัปดาห์จะต้องไปไนต์คลับ พ่อสอนให้กินเหล้าทุกอย่างเพื่อจะได้ไม่ถูกผู้ชายมอม เพื่อให้เอาตัวรอดได้

มีวันหนึ่งก็มีเด็กผู้ชายอายุไล่เลี่ยกันแล้วเขาก็เมา เราไปเข้าห้องน้ำออกมาเขาก็ยืนรอเราอยู่ พ่อเห็นก็มายืนข้างหลังแล้วบอกว่า ชกมันเลยลูก เราก็เลยชกไปเลย ผู้ชายคนนั้นก็ล้มลงไปเลย…

: ในฐานะที่เคยอยู่เพื่อไทยมาก่อน มองเกม 310 เสียงอย่างไร?

อย่างที่บอกว่ามันเป็น Last war เพราะงั้นการที่บอกแบบนั้นก็เป็นแคมเปญที่ถูกนะ การสร้างความมั่นใจว่าเขาเป็นพรรคที่ใหญ่ และสามารถเปลี่ยนประเทศได้ แต่บริบทมันไม่ใช่ บริบทประเทศในวันนี้ 17 ปีที่ผ่านมาคงไม่ต้องอธิบายว่าพอ “ใหญ่” คนเดียวแล้วเกิดอะไรขึ้น และในท้ายที่สุดก็ไม่เคยอยู่ได้

เราจะเอาไข่ใส่ในตะกร้าใบเดียวแล้วให้เขาเตะทิ้งอีกเหรอ แล้วเขามีกลไกในการเตะทิ้งมากมาย เที่ยวนี้อาจไม่ต้องลากปืนมาก็ได้ ใช้รัฐธรรมนูญนี่แหละล้มรัฐบาลที่มาจากประชาชน

เริ่มตั้งแต่วันแรกที่แถลงนโยบายต่อสภา คุณก็สามารถทำผิดกฎหมายได้ง่ายๆ เลย มีกลไกกับดักอยู่เต็มไปหมด

เราสามารถทำนายได้ง่ายๆ เลยว่าถ้าจะเขาจะล้มรัฐบาลประชาธิปไตยเที่ยวนี้อาจไม่ล้มด้วยรถถัง แต่จะล้มด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยที่อาจจะอยู่ได้สั้นที่สุด 3 เดือน 6 เดือน แล้วนายกฯ ก็ไปสู้คดีติดคุกอีกมันสามารถทำได้ง่ายๆ

ดังนั้น สิ่งที่เราสู้มาตลอดตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 คือการที่เราต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่ที่เขียนโดยประชาชน รัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดต้องไม่ได้มาจากปลายกระบอกปืนของเผด็จการ แต่ต้องมาจากปลายปากกาของประชาชน

ตั้งแต่ตอนที่อยู่พรรคเก่าก็ทำเรื่องนี้ แต่ด้วยในพรรคก็มีความเห็นหลากหลาย แต่เรามองว่ามันเป็นทางออกเดียวที่จะหยุดความขัดแย้งนี้ เพราะถ้ารัฐธรรมนูญเป็นของเผด็จการ คุณมาจากประชาธิปไตยก็จะอยู่ไม่ได้ ก็จะถูกล้มอีก แต่ถ้ารัฐธรรมนูญมาจากประชาชน ทุกฝ่ายก็จะปฏิเสธไม่ได้

ตอนนี้แม้ไทยสร้างไทยจะยังไม่มี ส.ส.ในสภา แต่เราก็เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยให้มีการเลือก ส.ส.ร. เข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว

: มั่นใจมากแค่ไหนกับพรรคไทยสร้างไทย

ในบริบทถึงความหวังในตัวนโยบายตอนนี้ทุกพรรคก็จะพูดคล้ายๆ กับเรา ของเรามองว่าเรากำลังมาสร้างโอกาสให้กับคน มา empower มา liberate คนตัวเล็กไม่ว่าจะเป็นบำนาญประชาชนก็ไม่ใช่ประชารัฐ ประชานิยม แต่เป็นโครงการที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมเพื่อสูงวัย แล้วไม่ได้ให้ฟรี 3,000 บาท เราให้พร้อมการดูแลสุขภาพ และจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่จะลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากดี อย่างนี้มันเป็นการคิดนโยบายที่คิดครอบทั้งหมด เพราะฉะนั้น ความมั่นใจเรื่องที่ประชาชนถูกใจในเรื่องของนโยบายมันโอเค

เราตั้งใจที่จะดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนแก่ให้อยู่อย่างมั่นคงมีศักดิ์ศรี และในขณะเดียวกันประชาชนก็จะสับสน พอทุกคนมาพูดนโยบายเหมือนๆ กันหมด แต่เรามั่นใจว่าเนื้อในไม่เหมือนกัน

ดังนั้น เราต้องสร้างความมั่นใจให้เขาเห็นว่าเราเป็นทางรอด

เรามาเพื่อให้ประชาชนชนะ เรามาทำไม่ใช่เพื่อตัวเอง

จากนี้จะเป็นการสร้าง Trust และ Confident ก็จะเป็นแคมเปญต่อไป

แคมเปญแรกที่เราออกไปเราสื่อว่าเราเข้าใจประชาชนว่าลำบาก และเราอาสามาทำให้ประชาชนหายเหนื่อย

แคมเปญต่อไปเราก็จะมาบอกว่าเราจะเป็นทางรอดทางออกให้ประชาชนยังไง

: การตัดสินใจลาออกมาจากพรรคเพื่อไทย วันนี้สรุปได้ไหม ถูกต้องหรือผิดพลาด?

ในเมื่อพรรคเขาเปลี่ยนทิศทาง เปลี่ยนนโยบาย ผู้มีอำนาจในพรรคเขาได้ตัดสินใจที่จะเดินในอีกทางหนึ่งที่เราก็ไม่ได้มีประโยชน์แล้ว ณ วันนั้นเราก็ต้องรู้ตัวเอง ไม่งั้นองค์กรมันก็จะเดินไม่ได้ เราก็รักองค์กรเดิมเราก็ต้องถอย เราก็ปรารถนาดีไม่ได้มีอะไรที่คิดร้าย แต่ในเมื่อเขาเปลี่ยนบริบท เปลี่ยนแนวคิด แล้วอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราจะเป็นผู้ทำ เราก็ต้องถอยออกมา

อย่าไปเป็นจระเข้ขวางคลองเขา

 

: สมมุติหลังการเลือกตั้งถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำ แต่เสียงไม่ถึง 376 พร้อมที่จะยกมือให้?

พูดอย่างนี้เลยว่าถ้าพรรคที่มีความคิดแบบเดียวกัน เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ไปสร้างวิกฤตของประเทศ เราก็ไม่มีปัญหา เราเป็นมิตรกับพรรคที่คิดเหมือนกัน

ในวันนั้นก็ไม่ทราบว่าจะเป็นยังไง ต้องมาดูบริบทวันนั้น

แต่ถ้าอะไรที่ทำให้ประเทศรอดได้ เราถือว่าเราไม่มีตัวตน เราไม่ทำเพื่อตัวเองแล้ว

Founder ของพรรคก็เป็นคนที่คิดแบบเดียวกันว่า เรามาเพื่อเสียสละ เราไม่ทำเพื่อตัวเอง เราอยากเห็นอนาคตของประเทศดีขึ้น อยากเห็นอนาคตของลูกหลานดีขึ้น มาทำให้ประเทศไทยดีที่สุด

ใครที่ทำได้แบบนั้นเราไม่ว่าเลย เรายินดี

: อยากฝากบอกอะไร “คุณทักษิณ ชินวัตร”?

จริงๆ ไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งกับท่านทักษิณเลย ถ้ามีก็คงมีแต่ความห่วงใย ยังมีความปรารถนาดีทั้งต่อบุคคลและองค์กร อยากให้ท่านได้รับความเป็นธรรม

ในอีกมุมหนึ่งวันนี้อยากบอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าอะไรบ้าง อยากบอกว่า “พอเถอะ” ด้วยความปรารถนาดีเหมือนกัน เพราะจริงๆ แล้ววันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ทำให้กับบ้านเมืองเยอะแล้ว 8 ปีแล้วน่าจะพอได้แล้ว เปิดโอกาสให้คนอื่นขึ้นมาทำ มันก็จะเป็นการลงที่สง่างาม

และสิ่งที่เราจะทำ จะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์หมดเลยนะ

 

: ตอนนี้เดินมาแล้วทั่วประเทศ มั่นใจว่าจะได้ประมาณกี่เสียง

เราเป็นพรรคใหม่และเกิดมาในยุคที่ยากพอสมควร เพราะพอคนเบื่อฝั่งหนึ่ง ก็จะบอกว่าต้องเอาอีกฝั่งหนึ่งมาล้าง ในประวัติศาสตร์ 17 ปีมันเป็นอย่างนี้ แล้วมันก็ไม่รอด ความยากอยู่ตรงที่เราจะต้องทำให้ประชาชนรู้สึกว่า การที่เราบอกว่าเราไม่ไหวกับอีกฝั่งหนึ่ง แล้วอีกฝั่งหนึ่งคือคำตอบ มันไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง และมันจะพาประเทศไปติดล็อกได้อีก

เราจึงต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าเรามาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ใช่ว่ามาเพื่อชัยชนะของตัวเอง

เราทำงานแข่งกับตัวเองว่าเราจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าทำให้ประชาชนมีความหวังกับเรามากแค่ไหน ถ้าประชาชนเห็นด้วยกับเราว่าวิธีคิดอย่างนี้ “การมาช่วยกันเป็นไม้ขีดคนละก้าน” ถ้าได้มากโอกาสที่จะได้ทำงาน ได้ทำในสิ่งที่เราตั้งใจ

เราพยายามที่จะไม่พูดเรื่องตัวเลข เพราะเวลาพูดถึงตัวเลข แล้วจะกลายเป็นคำถามขึ้นมาว่า “คุณจะร่วมกับใคร ไม่ร่วมกับใคร”

พยายามที่จะบอกว่าคนเห็นปัญหาเดียวกับไทยสร้างไทยหรือเปล่า ว่าวันนี้ประเทศเจอปัญหาทั้งสี่ห้าเรื่อง ทั้งเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตย อำนาจนิยม กฎหมาย ฯลฯ และเพื่อสร้างชัยชนะให้ประชาชน ระเบิดศักยภาพให้เขาได้ เพราะงั้นมาช่วยกันจุดไม้ขีดคนละก้านเผาความชั่วร้าย เราพยายามที่จะขายแบบนี้

แต่แน่นอนว่าต้องหวังมากที่สุด เพราะเราต้องการเปลี่ยนแปลงและไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ถ้าทำอย่างงั้นไม่ได้ เป็นฝ่ายค้านดีกว่า

 

: จุดยืนของสุดารัตน์คืออะไร ณ วันนี้

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้จุดยืนของเราคือจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับเผด็จการที่มาต่อท่ออำนาจ วันนี้หลายคนบอกว่าพวกเขามาสู่การเลือกตั้งแล้วมันเป็นประชาธิปไตยแล้ว สามารถคิดอย่างนั้นได้ แต่ตัวบุคคลที่ทำให้ประเทศย่ำแย่มา ถ้าเราไปสนับสนุนก็แปลว่าเรายอมรับใช่ไหมกับสิ่งที่ทำมา เราอายุขนาดนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองแล้ว “เข้ามาทำให้ ไม่ได้มาทำเอา” เพราะฉะนั้น ถ้าตามนี้ไม่ได้เราก็พร้อมที่จะไปเป็นฝ่ายค้านดีกว่า

ตอนนี้ถ้าหยุดก็สบายไปแล้ว แต่ที่ยังทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อที่จะหาทางออกให้กับประเทศ มาสร้างประเทศให้กับลูกหลานเรา ให้คนรุ่นใหม่ให้เขาได้อยู่ในประเทศที่มันดีกว่านี้ นี่คือความตั้งใจ อย่างแรกเลยมันต้องมาปลดล็อกการเมืองสองขั้วซึ่งบังเอิญลุงแกก็เป็นหนึ่งในความขัดแย้ง ซึ่งถ้าลุงทำอย่างนี้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วประเทศมันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก ซึ่งลุงพึ่งมาคิดเอาในการเลือกตั้งครั้งนี้

เราไม่กล่าวหาแล้วกันว่าเขาตั้งใจจริงหรือไม่ตั้งจริง แต่ความคิดเหล่านี้มันควรจะต้องเกิดที่เราจะปลดล็อกการเมืองสองขั้วจริงๆ

 

: ความหวังกับการเมืองไทย

อยากเห็นการปลดล็อกการเมืองสองขั้วที่ติดลูปมา 17 ปี

อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงที่ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น ก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อยากเห็นเรื่องของการให้โอกาสคนตัวเล็กตัวน้อยตามนโยบายของเราก็คือ Empower Liberate ให้เขาลุกขึ้นมาทำมาหากินได้ คนรุ่นใหม่มีศักยภาพมากแต่โดนครอบไว้โดยกะลา

เราต้องระเบิดกะลานี้ทิ้งซะ ไม่อย่างนั้นเราจะเดินต่อไม่ได้

ชมคลิปได้ที่

https://www.youtube.com/@MatichonWeekly