ไฟ(การเมือง)ลาม | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

การเมืองไทยอันเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง “ร้อน” อยู่แล้ว

แต่ก็ต้องรับว่า การที่นายทักษิณ ชินวัตรส่ง Heat Wave-คลื่นความร้อน เข้ามาในการเมืองไทยเป็นระลอกๆ นั้น

ได้ทำให้อุณหภูมิความร้อน ระอุขึ้นมาอีกหลายดีกรี

เพราะยี่ห้อ นายห้างใหญ่ พูดหรือขยับอะไร มีผลทั้งนั้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือทางอ้อม

อย่างการที่ส่งพลังความร้อนเข้าใส่ ฝ่าย(ที่ดูเหมือน)อยู่ข้างเดียวกัน อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าทำตัวเหมือนคนประชาธิปัตย์ คือ”ดีแต่ด่า”อะไรทำนองนั้น

ซึ่งก็พอเข้าใจได้ เหตุที่นายทักษิณ จะหงุดหงิดนายธนาธร และพรรคก้าวไกล เพราะสถานการณ์บีบให้ต้องมาแย่งชิงเสียงใน”บ่อ”เดียวกัน สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญด้วย

แนวโน้มนี้ จึงอาจเป็นเหตุให้นายทักษิณ แผ่รังสีความร้อนเข้าใส่ นายธนาธร และพรรคก้าวไกลดังกล่าว

ทำให้ความเชื่อที่ว่าพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล จะเพิ่มระยะห่างต่อกันถึงขนาดจะไม่สามารถร่วมงานการเมืองในอนาคตได้ มีมากขึ้น

และเมื่อหลายฝ่ายเชื่อเช่นนั้น ก็พลอยทำให้เทน้ำหนักไปอีกความเชื่อหนึ่งเพิ่มขึ้น

เพิ่มขึ้น จากอีก “คลื่นความร้อน”ที่ส่งออกมาจากนายทักษิณเองอีกนั่นแหละ

โดยเป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณกับสำนักข่าวเกียวโด ญี่ปุ่น

ที่ระบุว่า “ทักษิณคาดการณ์ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า …แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง ก็ยังต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคอื่นๆ แต่เขาเห็นเพียงโอกาสอันห่างไกลที่พรรคเพื่อไทยจะผนึกกำลังกับศัตรูทางการเมือง อาทิ พรรคพลังประชารัฐ อาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ตัวเลือกแรก”

มีการตั้งข้อสังเกตุและตีความ ถึงท่าทีนายทักษิณ ว่าแม้จะถือพลังประชารัฐ เป็น “ศัตรู”

แต่ก็เป็น”ศัตรู” ที่มิได้ ตัดเป็นตัดตาย ถึงขนาด ไม่ร่วมทำงานด้วย

ไม่เหมือนท่าทีของพรรคก้าวไกล ที่ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในทุกกรณี

ต่างจาก นายทักษิณ ที่ดูเหมือนจะไม่ปิดโอกาสกับพรรคพลังประชารัฐ โดยบอก ว่า “พรรคพลังประชารัฐ อาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ตัวเลือกแรก”

คำพูดที่เปิดช่องไว้เช่นนี้ ทำให้ความเชื่อเรื่อง”ดีลลับ” ที่พูดกันมากในช่วงที่ผ่านมา มีน้ำหนักขึ้นมาอีก

และยิ่งมาเจอ ความเขี้ยวลาก ของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่สรุปเปรี้ยงว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานกับพลังประชารัฐ และพร้อมจะสนับสนุนให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ

ทำให้ เรื่องนี้ ลามเหมือน”ไฟไหม้ป่า” และส่อจะดับไม่ได้ง่ายๆ

จนนายทักษิณ ต้องรีบสะกัดเอง โดยโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ว่าไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัช ไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว มั่นใจว่าเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง เชื่อว่าพรรคไม่โง่พอที่จะยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ยังต้องออกมาช่วยดับไฟอีกแรงว่า หากเพื่อไทยได้ 310 เสียง ขึ้นไป ไม่มีเหตุผลใดที่จะจับมือกับใคร มีเงื่อนไขเดียว คือจับมือกับพรรคการเมืองที่มีกรอบความคิดตรงกัน หรือฝ่ายค้านที่เคยทำงานร่วมกันมา

“ขอให้ประชาชนมั่นใจ” คือสิ่งที่นายภูมิธรรมย้ำ

ย้ำเพื่อจะดับไฟไม่ให้ลาม ซึ่งก็คงทำได้ระดับหนึ่ง

เพราะความเชื่อเรื่องเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐ ยังคุอยู่ในกองขี้เท่า

ซึ่งหากมี”คลื่นความร้อน”โดยเฉพาะจากแดนไกล แผ่เข้ามาอีก

ไฟก็พร้อมจะลุกขึ้นมาได้ตลอดเวลา

เพราะตอนนี้เชื้อไฟเยอะไปหมด

อย่างการประกาศพร้อมจะกลับมา”ติดคุก”

นี่ก็เป็นอีกHeat Wave ที่มีโอกาสทำให้ ไฟการเมืองลุกโพลงไม่แพ้ไฟป่าตอนนี้