จัตวา กลิ่นสุนทร : หนีไม่พ้นจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง กับ (บรรดา) ช่าง การซ่อมแซม ก่อสร้าง? (1)

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนอีก แต่ก็หนีไม่พ้นจริงๆ ต้องเจอกับเรื่องปวดหัว งบประมาณที่ตั้งเอาไว้บานปลายไปเป็นอันมากเป็นปกติธรรมดา และเป็นธรรมชาติของ “การก่อสร้าง”

เพื่อนร่วมชีวิตได้รับมรดกตกทอดมาจากบุพการีด้วยความเสน่หา และพึงพอใจในส่วนที่ได้รับทั้งๆ ที่ได้ส่วนแบ่งน้อยกว่าคนอื่นๆ คนที่ได้มากกว่ายังไม่พอใจวางแผนใช้เล่ห์กลเพื่อจะได้มากขึ้นไปอีกแบบโลภโมโทสันไม่เห็นกับความเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ซึ่งในที่สุดมรดกที่ช่วงชิงมาได้ ก็ถูกขายเปลี่ยนมือไปเป็นของผู้อื่น

นอกจากจำนวนอสังหาริมทรัพย์น้อยนิดแล้วก็ยังมีสิ่งปลูกสร้างอายุหลายสิบปีติดมาเป็นทรัพย์สมบัติเพื่อใช้ในการหารายได้เก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน สำหรับเลี้ยงตัวเองและสมาชิกในครอบครัว

อาคารที่เรียกว่าทาวน์เฮ้าส์นั้นกว่าจะเป็นมรดกตกทอดได้ก็ต้องรอให้หมดสัญญาจำนวนกว่า 20 ปีจากผู้ที่เข้ามาเซ้งอยู่อาศัยจากผู้ลงทุนก่อสร้างครั้งแรก ซึ่งอาคารดังกล่าวย่อมทรุดโทรมลงมาก จะต้องมีการบูรณะซ่อมแซมทันทีหลังจากผู้อยู่อาศัยรายแรกๆ หมดสัญญาได้โยกย้ายออกไป

 

เมื่อตกลงปลงใจจะเป็นเพื่อนร่วมชีวิต สิ่งแรกต้องหาบ้านช่องสำหรับอยู่อาศัย แน่นอนได้รับความเมตตากรุณาจากบุพการีให้ลงหลักปักฐาน หรือ (หาเงิน) ก่อสร้างบ้านในที่ดินผืนเดียวกับที่ใช้ก่อสร้างอาคารทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งน่าจะเรียกกันว่าตึกแถว หรือห้องแถวจะใกล้เคียงกว่า แต่ได้จัดสรรแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเรียบร้อยแล้ว

เกิดมาเป็นชีวิตยังไม่เคยก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเป็นของตัวเอง อาศัยอยู่กับพ่อแม่ตลอดมา จะเกี่ยวข้องบ้างเพียงเล็กน้อยก็อีตอนที่ได้ไปเป็นผู้ใช้แรงงานขุดทราย เทปูนสร้างอาคารแถวบ้านเกิดเมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านเพื่อหาเงินกลับมาเรียนกรุงเทพฯ

บังเอิญได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีเพื่อนเป็นว่าที่สถาปนิก ก่อนจะจบการศึกษาออกมาเป็นสถาปนิกมือดีมากหลายคน วิชาที่ศึกษาเล่าเรียนก็เกี่ยวข้องกับการขีดๆ เขียนๆ อยู่พอสมควร จึงพอรู้เรื่องแบบแปลนโครงสร้าง การก่อสร้างบ้างนิดหน่อย

ตัดสินใจเอาเงินที่เก็บไว้ทั้งหมดไม่มากนักมาก่อสร้างบ้านขนาดเล็กๆ แค่ 2 ห้องนอน ตั้งใจว่าจะค่อยๆ ต่อเติมทีหลัง ครั้งแรกขอแค่ให้เข้ามาอาศัยได้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อแบบบ้านจากฝีมือสถาปนิกรุ่นน้องคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เสร็จเรียบร้อยก็ต้องติดต่อหาผู้รับเหมาก่อสร้าง

แต่เอาเข้าจริงเงินจำนวนที่เราคิดว่ามากพอจะก่อสร้างได้เมื่อกว่า 30 ปีก่อน กลายเป็นเงินเพียงน้อยนิด จมหายไปอย่างรวดเร็วกับการก่อสร้าง แบบที่เรียกขานกันว่าบานปลายไปมากชนิดที่ไม่รู้ว่าจะแล้วเสร็จลงตรงไหน ต้องดิ้นรนหาเงินมาเพิ่มเติม

มีผู้แนะนำผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้ ซึ่งตกลงว่าจะรับก่อสร้างให้ในราคาอันเป็นที่พอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เจ้าของบ้านไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าฝีมือการก่อสร้างของช่างที่มีผู้แนะนำมานั้นเป็นอย่างไร?

แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์

 

เมื่อลงมือก่อสร้างไปได้ระยะหนึ่ง หลังตอกเสาเข็มเสร็จเรียบร้อย เทคานคอดิน ผูกเหล็กเพื่อหล่อเสาขึ้นมาก็พอจะเดาทิศทางออกแล้วว่า คนงานก่อสร้างที่ผู้รับเหมาส่งมานั้นไม่น่าจะเรียกว่า “ช่าง” ได้ น่าจะเป็นชาวไร่ชาวนาที่เข้ามาหางานทำระหว่างว่างงานในท้องไร่ท้องนา ถ้าเป็นสมัยปัจจุบันคงต้องใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

แต่ในปี พ.ศ. นั้นยังมีแต่แรงงานคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่ทำไร่ทำนา ระหว่างรอการเก็บเกี่ยว ก็เดินทางเข้ามาหางานทำ ไม่ก็ยังไม่สามารถหว่าน ไถและดำนาได้เพราะต้องรอให้ฝนตกลงมาเสียก่อนจึงจะทำนาได้ บางครั้งบางปีต้องพบกับความแห้งแล้งจนทำนาไม่ได้โดยเฉพาะในภาคอีสานของเราแต่เดิม ซึ่งยังไม่มีการบริหารจัดการน้ำ สร้างเขื่อน ฝาย อ่างกักเก็บน้ำ ฯลฯ

แรงงานเหล่านี้จึงขาดประสบการณ์ในการก่อสร้าง ไม่มีการฝึกฝนแต่อย่างใด เป็นได้แค่ใช้แรงงาน ยิ่งการก่อสร้างสมัยก่อนวัสดุก่อสร้างยังไม่ก้าวหน้าทันสมัย พร้อมมูล ต้องใช้ฝีมือด้วยแล้วยิ่งลำบาก

แค่การผสมปูนซีเมนต์เพื่อก่อผนัง ก่อกำแพง หรือฉาบผนัง ฉาบกำแพงก็แตกต่างกันแล้ว ส่วนผสมไม่ดี ปูนซีเมนต์น้อยไป ทรายมากไปก็ไม่เป็นผลดี เกิดการแตกร้าว รั่วซึม ไม่สวยงาม ฯลฯ

อิฐสำหรับก่อกำแพงส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงอิฐมอญก้อนเล็กๆ ต้องใช้ช่างก่อที่มีฝีมือ ช่างที่ฉาบผนังก็ต้องมีชั่วโมงบิน มีประสบการณ์สูงจึงจะเรียบ ได้ฉาก เกิดความสวยงาม ต่อมาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เป็นซีเมนต์บล๊อกบ้าง และอิฐอื่นๆ ล้วนทำสำเร็จมาจากโรงงานทั้งนั้น

ปัจจุบันเรื่องวัสดุก่อสร้างก้าวหน้ามาก ไม่ว่าจะเป็นอิฐที่ก่อกำแพงที่เรียกว่าอิฐมวลเบานั้นก่อได้ง่าย ตรง ฉาบได้เรียบ ปูนซีเมนต์ก็ผสมไว้เสร็จเรียบร้อยเพื่อสำหรับก่อผนัง ฉาบผนังโดยเฉพาะ ไม่ต้องมานั่งหาส่วนผสมเพียงแค่ใส่น้ำผสมให้เข้ากันเท่านั้น

ความเจริญของเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้วัสดุสำหรับก่อสร้างอาคารบ้านเรือนพัฒนาก้าวหน้า ทุกสิ่งอย่างทำไว้สำเร็จเสร็จสรรพ แต่ราคาก็สูงขึ้นอย่างน่าใจหาย

 

การก่อสร้างบ้านหลังแรกจากเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้ รวมกับต้องไปขอกู้จากธนาคารพาณิชย์โดยใช้อสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน ก็เสร็จเพียงแค่อาศัยนอนได้เท่านั้น ความสวยงาม การตกแต่งยังไม่มีโอกาส เพราะหมดเงิน ที่ตั้งเป้าไว้สำหรับการก่อสร้างบานปลายออกไปมากมายหลายสิบเปอร์เซ็นต์

ระหว่างการก่อสร้างเมื่อจ่ายค่าจ้างงวดแรก หรืองวดที่ 2 จำไม่ได้ชัดเจนนัก ปรากฏว่าผู้รับเหมาหายตัวไป พร้อมเบี้ยวค่าแรงคนงาน พวกเขาซึ่งกินนอนอยู่ยังสถานที่ก่อสร้างไม่มีเงินซื้ออาหารกิน กลับบ้านไปกันจนหมดปล่อยให้งานค้างอยู่อย่างนั้น เดือดร้อนเจ้าของบ้านต้องเสียเวลาออกติดตามผู้รับเหมาอย่างทุลักทุเล ยังโชคดีที่ได้ตามจนพบตัว และได้ทำสัญญากันใหม่

ปรากฏว่าเมื่อถอดแบบออกมาเสาบ้านไม่ตรง ไม่มีการจับเฟี้ยมให้ได้ฉากสวยงาม ไม่มีการแต่งปูน คานเบี้ยวเลื้อยเป็นงูฟ้องประจานฝีมือช่าง รวมทั้งความไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างของเจ้าของบ้านต้องทนอยู่มาอีกเฉียด 10 ปี กว่าจะเก็บสะสมเงินนำมาปรับปรุง (Renovate) ได้

ถ้าเป็นทุกวันนี้ วันที่วัสดุสำหรับก่อสร้างก้าวหน้ามากที่สุด องค์ประกอบต่างๆ ก็สำเร็จรูปทั้งสิ้น โครงสร้างส่วนใหญ่จะเป็นเหล็ก ในยามที่ป่าไม้บ้านเราหดหาย และไม้มีราคาสูงเกินกว่าจะนำมาก่อสร้างได้อย่างแต่ก่อน แต่โครงสร้างเหล็ก เสา คานต่างๆ ดีไปอย่างไม่มีเบี้ยวบูด

 

บ้านที่อยู่อาศัยก่อสร้างมาพร้อมกับอาคาร ทาวน์เฮ้าส์ จำได้ว่าสัญญาในการเซ้งนั้นมีอายุถึง 25 ปีจึงจะตกเป็นของเจ้าของที่ดิน วันที่เพื่อนร่วมชีวิตได้รับมรดกนั้น บ้านซึ่งเราลงมือก่อสร้างด้วยกันมาได้รับการปรับปรุงต่อเติมถึง 3 ครั้งแล้ว ราคาที่ต่อเติมปรับปรุงและตกแต่งแพงกว่าการก่อสร้างครั้งแรกหลายสิบเท่า

ขณะที่ทาวน์เฮ้าส์มรดกตกทอด ไม่เคยได้รับการดูแลปรับปรุงซ่อมแซมแต่อย่างไร วันที่ได้รับมาเมื่อผู้อยู่อาศัยเดิมย้ายออกไปแล้วนั้นมันจึงอยู่ในสภาพพังไปทุกส่วน ยกเว้นโครงสร้างหลัก เพียงทรุดต่ำลงบ้างสำหรับพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นท้องร่องสวนเก่า

หลังจากเรียนรู้จนสะสมประสบการณ์กับการก่อสร้างบ้านเรือนของตนเองเนื่องจากไม่มีเงินก้อนไปซื้อหาจากบริษัทใหญ่ๆ มาหลายสิบปี ก็ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม อาคารทาวน์เฮ้าส์ของเพื่อนร่วมชีวิต ได้พัวพันกับช่างก่อสร้าง งานก่อสร้างติดต่อมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อที่สุด และ (ผู้รับเหมา) ไร้ความรับผิดชอบ? เกือบเหมือนกันทั้งหมด

วันนี้ยังคงต้องเกี่ยวข้องอยู่อย่างตรงๆ แบบหนีไม่ออกพร้อมอาการปวดหัว เครียด ถึงเครียดจัด จนมีเรื่องมาบ่นเล่าให้ได้ฟังกันอีกหลายครั้ง

ลองติดตาม